ขุนแผนฟ้าฟื้น
สรุป
หนังทะเยอทะยานกล้าฉีกแนวสร้างวรรณคดีไทยในแบบใหม่จริง แต่กลับขาดความลงตัวของบทมากจนเกินไป เลยเป็นผลงานสนองนี๊ดของผู้กำกับล้วนๆ มากกว่าจะเป็นงานภาพยนตร์ดัดแปลงวรรณคดีไทยสมัยใหม่ให้ลงตัว
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- นางพิมสวยโดดเด่นจนเป็นหน้าตาของหนัง
- ดราม่ารักสามเส้าทำได้ดีมีมิติมาก
- มาริโอยังเล่นบทแบบนี้ได้มีเสน่ห์ไม่เปลี่ยน
- โลกโยเดียในแบบโมเดิร์นเสียดสีสังคมปัจจุบัน
Cons
- CG ยังลอยๆ และไม่ได้ไปไกลกว่าหนังไทยทั่วไป
- ยัดเรื่องราวนอกเส้นเรื่องหลักมากจนเกินไป
- หนังไม่ได้ปูพื้นตัวละครหลายตัวเกินไป
- ตัวร้ายที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร แถมตายแบบง่ายจนเกินไปทุกคน
- หนังไม่ได้ตลกฮากระจายสักเท่าไหร่
ขุนแผนฟ้าฟื้น ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ ก้องเกียรติ โขมศิริ (จากขุนพันธ์) เรื่องราวของแก้ว เด็กหนุ่มสุพรรณบุรีที่จดจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้ เป็นคนเถื่อนหลอกต้มตุ๋นลักเล็กขโมยน้อยไปเรื่อย เขาออกเดินทางตามหาความทรงจำว่าเขาเป็นใครและเป็นลูกของใคร และได้มาพบกับเพื่อนสมัยเด็กช้างกับพิม และได้ร่วมต่อสู้กับศัตรูที่หวังบุกโยเดีย (กรุงศรีอยุธยา) โดยได้เรียนวิชาคาถาอาคมกับหมอผีที่หวังให้แก้วเป็นผู้สืบทอดวิชาอาคมของเขาทั้งหมด
นี่เป็นขุนแผนเวอร์ชั่นปรับจากของเดิมในวรรณคดีใหม่ ซึ่งแต่เดิมนั้นเกิดและเติบโตมากับขุนช้างและนางพิม ไม่ได้มีเรื่องความจำเสื่อม และพ่อก็ไม่ได้หายตัวไป (ใครจำไม่ได้อ่านตอนท้ายบทความมีเรื่องดั้งเดิมให้อ่านทวนความจำครับ) ในหนังได้ปรับให้ทันสมัยเฟี้ยวฟ้าวขึ้นกว่าเดิม โดยใส่เรื่องราวความรักของทั้ง 3 คนในแบบที่นางพิมเลือกไม่ได้อยากเก็บไว้ทั้งสองคน ซึ่งขุนช้างเวอร์ชั่นนี้เป็นนักเรียนนอกและรักมั่นคงกับนางพิมพ์ตั้งแต่เด็ก พร้อมทั้งเป็นสุภาพบุรุษเต็มร้อยไม่ล่วงเกินหรือทำอะไรให้นางพิมลำบากใจเลย ส่วนขุนแผนก็เป็นรักแรกสมัยเด็กที่กลับมาพบกันอีกครั้ง ซึ่งก็พร้อมเสียสละให้ขุนช้างเพื่อนรักสมัยเด็กได้นางพิมไปครอง ในส่วนดราม่ารักสามเส้านี้เป็นอะไรที่ปรับเปลี่ยนใหม่แล้วทำให้วรรณคดีไทยเรื่องนี้ดูมีดราม่ามากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แล้วก็เป็นส่วนที่พยุงให้หนังเรื่องนี้มีทิศทางที่น่าติดตามไปถึงตอนจบเอนด์เครดิตที่ทำให้คนดูหลายคนอยากรู้ชะตาชีวิตของทั้ง 3 คนต่อไป
นางพิมเวอร์ชั่นนี้สวยคมบาดตา เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นหน้าตาของหนังที่เด่นจนน่าติดตามดูที่สุดมากกว่าในส่วนอื่นๆ เสียด้วยซ้ำ ยามที่นางพิมออกก็กลายเป็นฉากที่เหมือนต้องมนต์สะกดให้ทั้งขุนแผนกับขุ้นช้างรวมถึงคนดูแทบลืมหายใจ และเธอก็เล่นได้อย่างดีมีเสน่ห์ทั้งสายตาท่าทางงามจนโดดเด่นมากจริงๆ (เล่นโดย ฟ้า ยงวรี งามเกษม)
นางพิม “ฟ้า ยงวรี งามเกษม” ในหนัง ขุนแผนฟ้าฟื้น
หนังได้มาริโอกลับมาเล่นในบทย้อนยุคคล้ายๆ เดิมสมัยพี่มากพระโขนง ด้วยเสน่ห์และอารมณ์กวนๆ ของมาริโอก็พาให้คนดูรักขุนแผนเวอร์ชั่นนี้ได้ง่าย อีกทั้งยังได้บทดราม่าความรักที่ต้องยอมเสียสละอย่างน่าเห็นใจ ทำให้ตัวละครนี้มีมิติมากกว่าจะเป็นบทพระเอกสายตลกเพียงอย่างเดียว
ในส่วนขุนช้างยังดูขัดเขินไม่ค่อยเป็นธรรมชาติมากเหมือนกับสองคนด้านบน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับมีปัญหา เพียงแต่ยังไม่รู้สึกว่าจะรักหรือเห็นใจตัวละครนี้ได้อย่างที่บทวางไว้ให้เป็นเหมือนพระรอง ที่แม้บ้านรวยแต่โชคชะตาอาภัพให้หลายๆ อย่างมีปัญหาสู้ขุนแผนไม่ได้ แต่ก็ยังมีความรักมั่นคงกับนางพิมเหมือนในวรรณคดีไม่มีเปลี่ยน
ในส่วนดาราแม้จะสอบผ่านและมีเสน่ห์ทำให้พอน่าติดตามได้ แต่ว่าตัวหนังกลับมีปัญหายัดอะไรมาเยอะเกิน เป็นความพยายามทำให้หนังเรื่องนี้เหมือนการยำหนังไทยให้จี้แบบเดียวกับที่ Scary movie ยำหนังฝรั่งดังหลายเรื่องมารวมกัน จึงทำให้หนังยืดและยัดเรื่องราวนอกเนื้อหาหลักมามากเกินไปหลายช่วง ไม่เว้นแม้แต่ช่วงท้ายที่น่าจะเป็นไคลแม็กซ์ให้ติดตามเส้นเรื่องหลักล้วนๆ ก็ยังหาทางยัดมาเป็นส่วนเกินอยู่ดี ทำให้เนื้อเรื่องหลักหนังไม่ปะติดปะต่อ แถมกลายเป็นไม่สมูธในจังหวะของเรื่องราวที่ควรจะไปข้างหน้า แต่กลับต้องมาคั่นเวลาด้วยมุกแทรกที่บอกเลยว่าหลายมุกแป๊กเอามากๆ (คนดูในโรงรอบที่ผมดูแทบไม่ได้ยินเสียงฮา) ถือว่าเป็นอะไรที่ผู้กำกับไม่น่าพลาดยัดใส่มาขนาดนี้ ไม่งั้นหนังจะกระชับและมีเรื่องราวหลักที่น่าสนใจติดตามกว่านี้
ในส่วนของ CG ถือว่าก็ทำได้ดี แต่ก็ไม่ได้เกินหน้าหนังไทยปกติในยุคนี้สักเท่าไหร่ โดยส่วนตัวยังคิดว่าเทียบกับผลงานของผู้กำกับคนเดียวเรื่องขุนพันธ์ยังถือว่าสู้ไม่ได้ และก็ค่อนข้างแห้งแล้งฉากแอ็กชั่นผสม CG มากไป กลายเป็นหนังเตะต่อยกันธรรมดามากกว่าจะใช้วิชาอาคมสู้กันแบบที่ตัวอย่างพยายามบิ้วให้เข้าใจว่าจะได้ดูอะไรแบบนั้น
เรื่องราวของตัวร้ายที่ใส่มาพร้อมกับการตามหา “นักรบในตำนานอาทมาฏ” ที่ว่ากันว่าเป็นตำนานเทพพิทักษ์ปกป้องโยเดีย ตรงนี้ใส่มาเหมือนยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่ได้ใช้ผูกเข้ากับบทหลักของเรื่องราวสักเท่าไหร่ แถมตอนจบที่โผล่มากลายเป็น CG เด่นกว่าตัวนักรบในตำนานไปซะอีก ทำให้สิ่งที่ผู้กำกับบอกว่าเป็นปฐมบทตำนานนักรบอาทมาฏนั้นไม่ค่อยรู้สึกว่าจะน่าติดตามสักเท่าไหร่ กลับกลายเป็นคนสงสัยมากกว่าว่าตอนจบขุนแผนจะไปในทิศทางไหนต่อไป ซึ่งก็ไม่ได้คำเฉลยอะไรนอกจากเปิดปมใหม่ทิ้งไว้ จากที่ดูแล้วหนังทำรายได้แบบไม่น่าจะไหวกับการสร้างภาคต่อไปที่ต้องการกระแสคนดูมากกว่านี้
งานสร้างโลกโยเดียในแบบโมเดิร์นเป็นอะไรที่พยามยามครีเอทให้ตลกและเสียดสีสังคมไทยในปัจจุบันไปด้วย (อย่างมุกเรียกเสลี่ยงรับจ้างแล้วไม่ไปเหมือนโบกแท็กสมัยนี้ที่เล่นตัวสุดๆ) ซึ่งเป็นอะไรที่เก๋ไก๋ดูขำเล็กๆ ได้ดี แต่ก็ยังทำไม่ได้กับฉากใหญ่อย่างงาน EXPO ที่เปิดมาวางไว้เป็นไฮไลท์ใหญ่ของเรื่อง กลับกลายเป็นเหมือนงานวัดจัดในวังซะมากกว่า ทำเอาผิดหวังเหมือนกันครับ
นี่เป็นหนังที่ผู้กำกับทะเยอทะยานกล้าฉีกแนวสร้างวรรณคดีไทยในแบบใหม่จริง แต่ก็กลายเป็นความไม่ลงตัวของบทที่ต้องวางให้ดีกว่านี้ ขุนแผน ฟ้าฟื้น เวอร์ชั่นนี้เลยกลายเป็นเหมือนงานทำเอามันส์ตามใจผู้กำกับล้วนๆ มากกว่าจะเป็นงานหนังไทยที่ปราณีตในเรื่องบทจริงจังมากกว่านี้ ถือว่าน่าเสียดายถ้าหนังจะจบลงแค่ภาคนี้ทั้งๆ ที่หนังวางไว้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเดินผจญภัยของขุนแผนเพียงเท่านั้น ซึ่งถ้ามีโอกาสได้ทำต่อเหมือนที่ขุนพันธ์ภาคแรกก็ไม่ลงตัว แต่พอมาภาคสองอะไรหลายๆ อย่างเข้าที่เข้าทามากกว่าภาคแรกทันที ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกันผู้กำกับน่าจะได้ฟีดแบ็คกลับไปปรับอะไรๆ ให้ลงตัวกว่าภาคแรกที่เป็นแบบนี้
เรื่องราวดั้งเดิมของขุนแผนตามวรรณคดีไทย
ตัวอย่าง ขุนแผน ฟ้าฟื้น
อ่านรีวิวหนังเพิ่มเติมได้ที่นี่
Khun Phaen Begins – ภาพยนตร์คัลท์อย่างมีสไตล์ แต่ไม่ทิ้งลายแฟนตาซี