รีวิว The Gift SS1-2 ซีรีส์ทริลเลอร์ลึกลับเหนือธรรมชาติผ่านโบราณสถาณพันปี
The Gift
-
รีวิวซีซั่น 1 - 6.5/10
6.5/10
-
รีวิวซีซั่น 2 - 6/10
6/10
สรุป
ซีรีส์เล่าเรื่องเริ่มแรกดูมีปมน่าสนใจ เล่นกับโลเกชั่นโบราณสถาณที่ยิ่งใหญ่ แต่เรื่องค่อยๆ ลดระดับตัวเองลงมาเรื่อยๆ เป็นแค่การค้นหาชาติกำเนิดตัวเองนอกโบราณสถาณทั่วไป ซึ่งทำให้ความแปลกใหม่ตอนแรกถูกลดทอนลงมาเรื่อยๆ จนถึง SS2 ก็ยังคงเดิมแทบไม่มีอะไรใหม่ พล็อตนอกจากนั้นถือว่าธรรมดามาก แนวนี้มีเกลื่อนและก็มีที่ทำได้ดีกว่ามาก แต่ถ้าใครชอบแนวทริลเลอร์เหนือธรรมชาติก็ยังดูได้ ถือว่าซีรีส์มีมาตรฐานผ่านอยู่ ไม่ดีไม่แย่ แต่ไม่โดดเด่นจนน่าจดจำอะไรนัก
Overall
6.3/10User Review
( vote)Pros
- โบราณสถาณในเรื่องดูสวยงามแปลกตา
- ปมลึกลับกับโบราณสถาณดูน่าสนใจ
- นักแสดงนำหญิงเล่นได้ดีน่าติดตาม
Cons
- พล็อตองค์กรลับปกปิดเรื่องราวไม่แปลกใหม่ ทำออกมาธรรมดามากไป
- เรื่องราวพ้นช่วงแรกไปมีช่วงเอื่อยๆ เรื่อยๆ อยู่เยอะ
- เดาเรื่องง่ายพอสมควร
- กั๊กเรื่องความลับต่างๆ จนจบ SS2 ก็ยังไม่คืยหน้าไปไหน
The Gift ซีรีส์แนวทริลเลอร์เหนือธรรมชาติของ Netflix จากประเทศตุรกี (ชื่อในตุรกีคือ Atiye) เรื่องราวของ “อาติเย” ศิลปินสาวผู้วาดสัญลักษณ์เฉพาะตัวมาตั้งแต่เธอเกิด จนได้มาพบว่าสัญลักษณ์ที่เธอวาดนั้นตรงกับการขุดค้นพบทางโบราณคดีที่มีอายุหลายพันปี เธอจึงออกตามหาว่าตนเองเป็นใครกันแน่
คะแนนเว็บ IMDB
ตัวอย่าง The Gift (Atiye) Netflix
ซีรีส์ทุนสร้าง Netflix โดยตรงแบบเดียวกับเคว้งของบ้านเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ 2 ของตุรกีและก็ได้รับการโปรโมทหนักในบ้านเขา ขนาดที่ประชันกับ The Witcher ตรงๆ อย่างในภาพด้านบน รวมถึงการเป็นซีรีส์ท้องถิ่นที่มีแฟนๆ ติดตามจากดารานำมีชื่อของเขา ทำให้คะแนนโหวตใน IMDB สูงมากถึง 8.1 จากตอนนี้ที่ 2981 โหวต ที่ต้องเกริ่นนำเล่าถึงตรงนี้เพื่อให้เข้าใจว่า นี่ไม่ใช่ซีรีส์โนเนมแบบที่เจอบ่อยใน Netflix ดังนั้นการที่จะดูคะแนนโหวตแล้วตัดสินว่าซีรีส์เรื่องนี้ยอดเยี่ยมก็อาจจะไม่ถูกต้องนัก
The Gift เริ่มเรื่องราวจาก “อาติเย” จิตกรสาวมีฐานะทางสังคมสูง ที่มีสไตล์การวาดภาพเชิงนามธรรมเป็นสัญลักษณ์ประหลาด ที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ก่อนที่จะตัดเรื่องราวไปยังการค้นสัญลักษณ์แบบเดียวกันใน “โกเบกลีเทเพ” โบราณสถาณเก่าแก่หลายพันปีของตุรกี ซึ่งทำให้เธอร้อนรนจนต้องบุกไปพิสูจน์ถึงที่ ก่อนจะพบกับ “เอย์ฮาน” นักโบราณคดีที่เป็นเจ้าของการค้นพบครั้งนี้สืบต่อจากพ่อของเขาที่ตายไปหลายสิบปีก่อน และกลายเป็นว่าทั้ง 2 คนต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวประหลาดที่ตามมาคุกคามหลังพวกเขาสืบหาความจริงของการเชื่อมโยง “อาติเย” เข้ากับสัญลักษณ์ประหลาดนี้
หลายครั้งที่ซีรีส์ Netflix มักเริ่มด้วยเรื่องราวและโลเกชั่นที่ดูยิ่งใหญ่ ก่อนที่ภายหลังเรื่องราวจะถูกลดระดับลงเรื่อยๆ จนตอนท้ายกลายเป็นทุนต่ำงบหมดหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่เห็นได้ชัดว่า Atiye (ขอเรียกชื่อนี้จะตรงกว่าเพราะเรื่องราวเกี่ยวกับชื่อนางเอกโดยตรง) ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่เปิดเรื่องมาช่วงแรกถือว่าน่าติดตามมาก เพราะหนังพาไปพบกับโบราณสถาณ และการขุดค้นพบที่ดูอลังการพอที่จะทำให้คิดว่าเรื่องราวหลังๆ น่าจะยิ่งมากกว่านี้ โดยมีฉากและตัวละครปริศนาโผล่เข้ามาแบบเหนือธรรมชาติตั้งแต่เริ่มแรก รวมถึงการพาไปไกลถึงขนาดที่ว่าโบราณสถาณแห่งนี้จะเป็นที่เปลี่ยนอนาคตของมนุษย์ชาติได้เลยทีเดียว
ยอมรับว่าช่วงแรกของซีรีส์เต็มไปด้วยเรื่องราวลึกลับที่วางมาดี และก็เจาะไปที่การเล่นกับโลเกชั่นโบราณสถาณที่ดูแล้วแปลกตา โดยนางเอกนอกจากจะเข้าไปพัวพันกับเรื่องในโบราณสถาณแล้ว ยังพบว่าครอบครัวของตัวเองก็มีความลับซ่อนอยู่ที่อาจจะโยงใยมายังโบราณสถาณแห่งนี้ได้ด้วยเช่นกัน
หนังวางพล็อตเรื่องเกี่ยวกับการค้นปริศนาชาติกำเนิดของนางเอก ที่เธอเห็นภาพนิมิตรบ่อยๆ จนกลายเป็นคนอื่นคิดว่าบ้า และต้องเข้ารับการรักษา โดยที่มี “เอย์ฮาน” นักโบราณคดีคนเดียวที่เชื่อถือ และพยายามหาทางพิสูจน์เรื่องราวลี้ลับนี้เช่นกัน โดยเชื่อว่าเธอคือกุญแจไขความลับหลายพันปีของ “โกเบกลีเทเพ” และก็ไม่ใช่ว่าเรื่องราวไปที่โบราณสถาณแห่งเดียว แต่หนังพาไปยังที่อื่นด้วย และก็เป็นการผจญภัยใต้ดินในโบราณสถาณ แตไม่ได้มีกลไกลึกหรือกับดักอะไรในนั้น หนังใช้ลักษณะแนวถ้ำโบราณทั้งหมด ซึ่งเป็นเหมือนด่านทดสอบนางเอก ก่อนที่เธอจะได้รับรู้ว่าตัวเองเป็นใคร
หนังยังมีส่วนขององค์กรลึกลับที่ตามล่าความลับแบบเดียวกับที่นางเอกและพระเอกตามหา ซึ่งกลายเป็นว่าไม่ใช่แค่มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติ แต่หนังวางให้มีทฤษฎีการสมคบคิดลึกลับแฝงอยู่ในหน่วยงานราชการ ที่พร้อมจะปกปิดเรื่องราวทั้งหมดไม่ให้ใครรู้ แต่ก็ต้องพึ่งอาติเยในการค้นหาความลับนี้เช่นกัน ซึ่งว่ากันตรงๆ เป็นพล็อตที่แบบโหลมากๆ และก็ทำองค์กรลึกลับออกมาในแบบไม่สมราคาและดูปลอมๆ โดยการแสดงตัวออกมาผ่านจอภาพต่างๆ (ทีวี มือถือ)
ซึ่งพอเปิดตรงนี้มาแล้วเรื่องราวความลี้ลับในตอนแรกเริ่มถูกเบี่ยงเป็นแนวสืบสวนคดีฆาตกรรมไป ทำให้เรื่องราวแบบเหนือธรรมชาติในตอนแรกที่น่าติดตามอยู่หายไป กลายเป็นหนังแนวทฤษฎีสมคบคิดที่เห็นบ่อยแล้วจนเริ่มน่าเบื่อ สุดท้ายก็จบลงด้วยการเปิดโลกใหม่เพื่อไปต่อซีซั่น 2 ตามสูตร โดยที่ยังไม่ได้เคลียร์หรือเข้าไปใกล้เคียงกับปริศนาในตอนเปิดเรื่องเลยที่เป็นงานศพนางเอก แต่มีนางเอกที่ไม่ตายจริงบุกกลับมางานศพตัวเอง เรียกว่าซีรีส์นี้จงใจหลอกคนมาดู แต่ไม่เคลียร์ปมที่เปิดมาตอนแรกสุด แล้วโลกใหม่ที่หนังเปิดมาก็เดาได้ เรียกว่าธรรมดามากในระดับสากลตอนนี้ ในส่วนของความลับโบราณสถาณตอนแรกยังแปลกใหม่กว่ามากด้วยซ้ำ
สปอยล์ตอนจบซีซั่น 1
นางเอกเปลี่ยนมิติเวลาได้ ทำให้น้องที่ตายไปกลับมาใหม่ แต่เป็นโลกแบบที่ต่างออกไปทั้งคู่ไม่ใช่พี่น้องกัน
รีวิว The Gift SS2
ซีรีส์ที่ยังเดินเรื่องราบเรียบแบบช่วงหลังของ SS1 แม้เรื่องราวจะเฉลยมากขึ้นว่าโลกนี้เป็นแบบพาราเรลเวิลด์ มีหลายคู่ขนานซ้อนกันไปมา แต่ตัวเรื่องกลับไม่ค่อยได้นำจุดนี้มาใช้จริงจังสักเท่าไหร่ จนไปถึงตอน 8 สุดท้ายของซีซั่น 2 เรื่องถึงกลับไปต่อกับ SS1 เป็นการเล่นเรื่องเวลากับเหตุการณ์ตอนจบไปพร้อมกับโลกใหม่ที่นางเอกอยู่ในตอนนี้ ที่มีปัญหาทารกเกิดไม่ได้จากปริศนาลึกลับบางอย่าง ตัวเรื่องมีพล็อตที่ดี แต่ว่ากลับกั๊กความลับของเรื่องไว้ยาวนานจนเกินไป อย่างฉากเปิดเรื่องของ SS1 ที่นางเอกโชกเลือดกลับมาเจองานศพตัวเอง จุดนี้ทิ้งไว้ตั้งแต่ซีซั่นแรกไม่มีต่อหรือเฉลยแม้แต่น้อยจนมาถึงซีซั่นสองฉากปิดท้ายก่อนขึ้นเอนด์เครดิตถึงเอามาต่อกันอีกครั้ง และก็มีเพิ่มมาอีกนิดเดียวจนแทบไม่รู้เรื่องเลยว่าคืออะไร แม้แต่องค์กรลึกลับที่สั่งงานตัวร้ายในซีซั่นแรกจนมาถึงซีซั่นนี้ก็ไม่คืบหน้าไปไหนเลยทั้งสิ้น ซึ่งเป็นจุดแย่ของเรื่องนี้ที่ทำมาแต่ละซีซั่นแบบเนื้อเรื่องแทบไม่ขยับไปไหนไกลเลยสักนิด