Dead Kids แผนร้ายไม่ตายดี
สรุป
ถ้าใครหวังมาดูหนังวัยรุ่นวางแผนก่ออาชญากรรมมีรายละเอียดเยอะๆ คงจะผิดหวัง (แถมหนังไม่มีความเนี๊ยบตรงนี้ด้วย) แต่ถ้าต้องการดูหนังวัยรุ่นอาชญากรรมสะท้อนปัญหาสังคมในแบบที่ไทยเองก็มีเรื่องแบบนี้เยอะ ก็น่าจะชอบอยู่ไม่น้อยครับ
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- จับปมปัญหาใหญ่สังคมใส่เข้าในคดีได้อย่างน่าเห็นใจ
- ดารานำหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นแสดงได้เข้าถึงบทบาท
- หนังฟิลิปปินส์ที่ดูคล้ายหนังไทยดิบๆ ไม่แตกต่างกันมาก
- หนังสั้น 90 นาที เรื่องเดินเร็ว
Cons
- ช่วงการวางแผนลักพาตัวแทบไม่มีรายละเอียดเลย แถมดูหลุดให้พุดคุยกันในที่แจ้งจนไม่น่าเชื่อถือ
- หนังดูรีบกระโดดข้ามการเล่าเรื่องลักพาตัวมากไป
- ขาดการปูเรื่องราวฝั่งผู้ใหญ่มากไป
Dead Kids แผนร้ายไม่ตายดี หนังทุน Netflix เรื่องแรกจากฟิลิปปินส์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของคดีลักพาตัวนักเรียนมัธยมปลายไปเรียกค่าไถ่ โดยแก๊งลักพาตัวเป็นเพื่อนร่วมชั้นเดียวกัน!
ตัวอย่างหนัง Dead Kids แผนร้ายไม่ตายดี
หนังสร้างโดยดัดแปลงมาจากเรื่องจริง ซึ่งต้องบอกก่อนว่าผมก็ไม่รู้ว่าดัดแปลงไปแค่ไหน เพราะหาคดีจริงต้นเรื่องไม่เจอ แต่หลังดูจบยอมรับเลยว่าอยากหาคดีจริงมาอ่านมาก เพราะหนังมีพล็อตที่ดีและก็มีประเด็นน่าสนใจหลายอย่าง จากเรื่องราวการลักพาตัวเพื่อนร่วมชั้นเดียวกันเอง ซึ่งหมอนี่เป็นหัวโจกของโรงเรียนที่มีพ่อเป็นผู้มีอิทธิพล ทำให้ลูกติดนิสัยมาวางมาดใหญ่โตกลั่นแกล้งเพื่อนในโรงเรียน จนสุดท้ายก็มีพวกทนไม่ไหว ทั้ง 4 คนนี้ก็เลยตัดสินใจเอาคืนด้วยการวางแผนลักพาตัวเรียกเงินค่าไถ่ 30 ล้านเปโซ (ประมาณ 17.8 ล้านบาท) โดยเริ่มแรกแค่ต้องการเรียกค่าไถ่เพื่อนแบบเงียบๆ แต่แล้วเรื่องราวก็เลยเถิดขึ้นเรื่อยๆ จนคุมไม่อยู่ในที่สุด
ด้วยความที่เป็นหนังฟิลิปปินส์สไตล์เอเชียด้วยกัน อะไรหลายๆ อย่างในหนังเรื่องนี้จึงดูคล้ายๆ หนังไทยมาก ดารานักแสดงถ้าไม่นับตัวเอกหลักกับนางเอกที่หน้าตาอาจจะท้วมๆ หน่อย นักแสดงที่เหลือนี่ดูเนียนๆ นึกว่านักแสดงไทยเลยก็ว่าได้ ทั้งทรงผมหน้าตา หรือแม้แต่การมีคนเชื้อสายจีนมาร่วมในกลุ่มด้วย แถมประเด็นหลักในเรื่องก็ไม่พ้นปัญหาแบบเดียวกับที่เด็กในสังคมไทยเจอคือ การถูกคาดหวังให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ให้ได้ ไม่งั้นชีวิตก็ไม่เหลืออะไร ซึ่งก็กลายมาเป็นปมหนึ่งที่ทำให้ตัวเอกหลัก “ซานตามาริอา” เด็กต่างจังหวัดจนๆ เดินทางเข้ามาในเมืองหลวง ตัดสินใจร่วมในแก๊งลักพาตัวนี้ตามคำชวนของ “บลังโก้” ลูกนายตำรวจเพื่อนสนิทของ “ชัค” ที่เป็นเป้าหมายการถูกจับเรียกค่าไถ่ ซึ่งดูเผินๆ เหมือนเรื่องราวจะไม่มีอะไรมากไปกว่าการแก้แค้นชัค กับอยากรวยทางลัดของเหล่าวัยรุ่น แต่หนังมีปมปัญหาสังคมหลายอย่างใส่เข้ามาเพิ่ม แล้วก็ไม่ต่างจากไทยเลย
หนังเริ่มที่เรื่องราวเด็กที่อาจจะดูห่ามๆ ทำไปไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี ไม่ได้มีการวางแผนแนบเนียนอะไรเลย แถมยังหลุดพูดคุยแผนในที่สาธารณะกันอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งก็แปลกใจว่าหนังตั้งใจหลุดหรือว่าตั้งใจทำจากเรื่องจริงที่ตัวเอกเป็นเด็กวัยรุ่นก็คงคิดอะไรไม่ได้มาก แถมเรื่องยังดูไม่จริงจังแอบมีเล่นๆ ขำๆ ซะเยอะ แต่พอเรื่องดำเนินไปถึงจุดเรียกค่าไถ่ ที่ย้อนไปต่อกับตอนแรกที่เริ่มมาก็เป็นฉากนี้แล้ว หนังก็เริ่มเข้าโหมดดาร์คไซด์ให้เห็นแล้วว่า หนังต้องการเล่นกับปมปัญหาอื่นที่ซีเรียสมากกว่า อย่างเรื่อง ยาเสพติด การทุจริตของตำรวจ ความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งบลังโก้ลูกชายนายตำรวจใหญ่ต้องแบกรับความรู้สึกว่า “พ่อของเขาเป็นไอ้เลวคนนึงที่เขาเกลียดมากที่สุดไปได้จากปัญหาเหล่านี้” หนังเริ่มเข้าสู่ด้านดาร์คของบลังโก้ที่เด่นขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าซานตามาริอาในตอนแรกที่ดูเหมือนจะวางไว้ให้เป็นตัวเอกซะอีก ซึ่งการแสดงของ Vance Larena นักแสดงหนุ่มคนนี้ก็เล่นได้กดดันเข้าถึงบทมากทั้งสีหน้าท่าทาง อารมณ์ที่เก็บกดตลอดเวลาในฐานะคนคุมเกมซีเรียสจริงจัง ในขณะที่เพื่อนร่วมแผนการดันทำหลุดบ่อยจนเขาสติแตก อีกทั้งปมปัญหาส่วนตัวกับพ่อที่กลายมาเป็นคนต้องตามจับเขา หนังแทบเทเรื่องราวมาอยู่ที่บลังโก้ทั้งหมด และก็กลายเป็นคนปิดท้ายเรื่องราวทั้งหมดในตอนจบ เป็นตัวละครสีเทาๆ ที่มีมิติจับต้องได้ และต้องแสดงอารมณ์หลากหลายมากที่สุดในเรื่อง ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีกสองคนก็มีบทบาทไม่น้อย แต่จะเป็นแนวทำหลุดทิ้งปัญหาให้ ซานตามาริอากับลังโก้ต้องตามแก้จนเรื่องราวเครียดกดดันขึ้นเรื่อยๆ ซะมากกว่า
เรื่องราวไม่ได้มีแค่ 4 หนุ่ม แต่มีสาววัยรุ่นที่เป็นนางเอกของเรื่อง “เจน” เพื่อนสาวแสนดีของซานตามาริอาที่คอยช่วยเขาอยู่เป็นระยะๆ ก็ไม่ได้เป็นตัวละครแบนๆ ไร้มิติ เธอคือคนที่ทำให้ซานตามาริอาพอมีความหวังอะไรดีๆ เข้ามาในชีวิตอยู่บ้างจากชีวิตที่กดดันอยู่ตลอดเวลา แต่สุดท้ายเจนเองก็แค่ซ่อนปัญหาต่างๆ ไว้ ไม่ต่างอะไรกับซานตามาริอา และกลายเป็นความหวังสุดท้ายของเขาดับลง
นี่เป็นหนังที่มีพล็อตที่ดี มีประเด็นปัญหาสังคมที่เข้ากับเรื่องราวดีเลย นักแสดงก็เล่นได้ดีแม้จะเป็นเด็กๆ กันทั้งนั้น เรียกว่าหนังมีองค์ประกอบที่ดีเกือบครบหมดแล้ว แต่ข้อเสียหลักๆ ที่หนังพลาดไปจังๆ เลยก็คือ เมนหลักเรื่องราวการลักพาตัวซึ่งหนังทำออกมารวบรัดจนไม่มีรายละเอียดเกินไป แม้แต่การวางแผนที่ตัวละครในเรื่องพยายามบอกไว้ว่าต้องเนี๊ยบก็ไม่มี อาจจะโบ้ยว่าเรื่องจริงเด็กพวกนี้ก็คงไม่ได้มีแผนอะไรมากเหมือนกัน ไม่งั้นจะกลายเป็นหนังแต่งเรื่องราวมากกว่าเรื่องจริงก็ได้ แต่ให้คิดแบบนั้นหนังก็ยังทำส่วนนี้ออกมาลวกๆ เกินไปจนแทบไม่มีรายละเอียดอะไรให้ดูเลย แม้แต่การจับตัวประกันไว้ต่อรองเด็ดๆ ก็ไม่มี หนังข้ามเรื่องราวพวกนี้ไปแทบทั้งหมด แล้วไปเน้นที่ปมปัญหาจิตใจของเด็กสองคนหลักแทน ซึ่งเรื่องราวช่วงนี้ก็ลงลึกกดดันมีรายละเอียดกว่าเรื่องลักพาตัวมาก แต่เพราะหน้าหนังขายเรื่องการลักพาตัวเป็นหลัก เลยกลายเป็นทำให้คนดูที่ตั้งใจมาดูตรงนี้ผิดหวังอยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าใครหวังมาดูหนังวัยรุ่นวางแผนก่ออาชญากรรมมีรายละเอียดเยอะๆ คงจะผิดหวัง (แถมหนังไม่มีความเนี๊ยบตรงนี้ด้วย) แต่ถ้าต้องการดูหนังวัยรุ่นอาชญากรรมสะท้อนปัญหาสังคมในแบบที่ไทยเองก็มีเรื่องแบบนี้เยอะ ก็น่าจะชอบอยู่ไม่น้อยครับ ซึ่งหนังจบแบบเทาๆ ดาร์คในแบบความเป็นจริงของความเหลื่อมล้ำในสังคม ไม่โลกสวย อันนี้น่าชื่นชมที่หนังกล้ายืนอยู่จุดนี้ในตอนจบ ซึ่งไม่รู้ว่าคดีจริงจบใกล้เคียงแบบนี้แค่ไหนเหมือนกันครับ
- ความเห็นจากเรา: STREAM IT อาจะดูไม่สดใหม่ แต่ก็มีอะไรให้น่าสนใจติดตามครับ
- คลิกรับชมผ่าน Netflix ได้ที่นี่
- อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่