รีวิว Enola Holmes 2 พัฒนาการของตัวละคร ที่ยังคงอารมณ์เดิมไว้ได้อยู่ (ไม่มีสปอยล์)
Enola Holmes 2
Summary
เป็นหนังภาคต่อที่ยังคงอารมณ์เดิมๆ ไว้ได้อยู่ เราได้เห็นพัฒนาการเติบโตของตัวละครที่ทำให้แฟนๆ ตามดู และผู้สร้างก็น่าจะทำต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่จบลงง่ายๆ แม้จะไม่รู้สึกว่าตัวเรื่องมีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่แล้วก็ตามครับ
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- พัฒนาการเติบโตของตัวละครหลักจากภาคก่อน
- ธีมเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับสิทธิของผู้หญิง
- ฉากโรแมนติกชวนจิ้นของพระเอกนางเอก
- การสืบสวนร่วมกันของพี่น้องมีมากขึ้น
- มีภาคไทย
Cons
- ฉากแอ็กชั่นดูเบาๆ ไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย
- การดัดแปลงตัวละครใหม่จากเรื่องดั้งเดิมที่ชวนดราม่าอีกรอบ
เอโนลา โฮล์มส์ Enola Holmes 2 ภาพยนต์ Netflix ภาคต่อที่ของน้องสาวเชอร์ล็อคโฮล์ม ที่ถูกเขียนต่อขึ้นมาเองจากต้นฉบับดั้งเดิม ด้วยเรื่องราวการสืบสวนคดีใหม่ของเอโนลาที่พยายามเปิดสำนักงานของตัวเอง แล้วมีสาวน้อยโรงงานไม้ขีดไฟมาขอให้เธอช่วยสืบสวนพี่สาวที่หายตัวไป ก่อนที่คดีของเอโนลาจะมาชนเข้ากับคดีของพี่ชายที่ซับซ้อนจนเชอร์ล็อคโฮล์มต้องปวดหัว พี่น้องทั้งคู่จึงต้องร่วมมือกันไขปริศนาแสนยากนี้เพื่อหาตัวผู้บงการเบื้องหลังอันคาดไม่ถึง
รีวิว Enola Holmes 2 (ไม่มีสปอยล์)
เรื่องราวในภาคนี้คือการเติบโตขึ้นตามวัย โดยเอโนลาพยายามจะออกจากเงาของพี่ชายที่ครอบเธอไว้ แม้คดีในภาคแรกจะเป็นฝีมือของเธอ แต่สังคมกลับเข้าใจผิดว่าเป็นโฮล์มที่ไขคดีได้สำเร็จ แม้จะเปิดสำนักงานของตัวเอง แต่คนก็ยังไม่เชื่อว่าเด็กสาวคนนี้คือนักสืบอยู่ดี ยิ่งในยุคนั้นสังคมยังพยายามปิดโอกาสไม่ให้เพศหญิงพยายามมีบทบาทอาชีพทัดเทียมผู้ชาย เลยยิ่งทำให้ตัวตนในโลกนักสืบที่เอโนลาฝันไว้ยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยดีกว่า
ประเด็นการก้าวข้ามหลุดพ้นการกดขี่ไม่เท่าเทียมทางเพศของเรื่องไม่ได้ใหม่ ที่จริงหนังย้อนยุคทั้งหลายที่มีตัวเอกเป็นผู้หญิงก็มักจะเล่นประเด็นนี้กันทั้งนั้น แต่สิ่งที่เอโนลาแตกต่างไปหน่อยก็คือการที่เธอมีพี่ชายเป็นคนดังแห่งยุคครอบไว้อีกที ซึ่งพี่ชายเองก็ไม่ได้อยากให้น้องสาวมาเสี่ยงอันตรายแบบเขา จึงพยายามตัดเธอออกจากวงการสืบสวนคดีด้วยความเป็นห่วง ซึ่งก็กลายมาเป็นแนวพี่น้องคู่กัดเล็กๆ ที่เคมีของนักแสดงทั้งคู่เข้ากันเป็นอย่างดี ผู้ชมดูสนุกเมื่อทั้งคู่มาร่วมทำอะไรกันตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่ในภาคนี้คือมีฉากแบบนี้มากกว่า แม้จะยังไม่ถึงขนาดเป็นคู่หู แต่ก็น่าจะถูกใจแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้การต่อสู้ของเอโนลาเพื่อพิสจน์ความเป็นนักสืบที่แท้จริงเท่าเทียมผู้ชายดูแตกต่างจากการทวงสิทธิ์ของผู้หญิงในเรื่องอื่นๆ
นอกจากนี้คดีหลักของเรื่องแม้จะเป็นคนละคดีในตอนแรก แต่เรื่องก็ค่อยๆ ผูกเข้าหากัน โดยที่ตัวคดีก็ยังพยายามเอาเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ของการเรียกร้องสิทธิผู้หญิงในการทำงานมาเป็นพ้อยท์หลักเข้ากับเรื่องที่เอโนลากำลังพยายามทำอยู่ รวมถึงจุดเฉลยของเรื่องทั้งหมดก็เป็นเรื่องสิทธิสตรีกันตรงๆ ซึ่งดูเข้าท่าอยู่ไม่น้อยกับการผูกปมเรื่องราวทั้งหมดเข้ากับธีมหลักได้ไม่หลุดเลยสักจุด
ฉากแอ็กชั่นในภาคนี้ก็ยังคงไม่มากไปกว่าภาคที่แล้ว อาจจะดูน้อยลงด้วย ทุกฉากจะออกมาเบาๆ เหมือนหนังย้อนยุคธรรมดาทั่วไป ไม่มีอะไรที่โลดโผนหรือดูแล้วใช้งบสร้างมากเท่าไหร่ เป็นฉากเล็กๆ ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ
ตัวละครเก่าในภาคแรกกลับมาทั้งหมด และก็สานต่อเรื่องราวพัฒนาความสัมพันธ์กันโดยหลักๆ คือตัวเอโนลากับพระเอกภาคก่อนที่กลายเป็นท่านลอร์ดและเล่นการเมือง ซึ่งตัวเรื่องก็พยายามแทรกฉากรักโรแมนติกวัยรุ่นๆ แบบเฉียดฉิวจะจูบกันตลอด แต่ก็ไม่ได้จูบสักที พอลุ้นว่าเมื่อไหร่สองคนนี้จะลงเอยกันได้สักที
ปัญหาของตัวเรื่องก็อาจจะเป็นแบบเดิมคือความพยายามดัดแปลงตีความเชอร์ล็อคใหม่หลายอย่าง ซึ่งผู้ชมที่ผ่านภาคแรกมาแล้วและรับได้ก็จะได้เจอกับตัวละครสำคัญฝั่งผู้ร้ายที่ถูกตีความใหม่ตามสไตล์เน็ตฟลิกซ์ที่ชวนดราม่ามากแน่ๆ แม้จะมีเหตุผลเข้ากันกับเรื่องแบบโอเคเข้าใจก็เถอะ
มอริอาตี้ผู้ร้ายคู่ปรับโฮล์มกลายเป็นผู้หญิงผิวดำ เป็นนักบัญชี
สรุปเป็นหนังภาคต่อที่ยังคงอารมณ์เดิมๆ ไว้ได้อยู่ เราได้เห็นพัฒนาการเติบโตของตัวละครที่ทำให้แฟนๆ ตามดู และผู้สร้างก็น่าจะทำต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่จบลงง่ายๆ แม้จะไม่รู้สึกว่าตัวเรื่องมีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่แล้วก็ตามครับ