รีวิว Jewel Thief: The Heist Begins (Netflix) ตั้งโจทย์ยาก แต่กลับผ่านได้ง่ายๆ ทั้งเรื่อง
Jewel Thief: The Heist Begins
Summary
หนังบอลลีวูดที่ดูดีแค่ภายนอกจากการแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูเลิศหรูหราแต่หมาเห่ากันทั้งซอย เพราะเนื้อในมันกลวงโบ๋ เน้นเล่นใหญ่ตั้งโจทย์ให้ยากเว่อร์ แต่กลับคลี่คลายได้ง่ายสุดๆ ทุกขั้นตอนการโจรกรรมโดยไม่มีอุปสรรคอะไรให้ลุ้น จนขาดความตื่นเต้นและความสมจริงไปหมด จุดหักมุมที่ใส่ไว้เยอะก็เลยดูไร้ค่า เป็นหนังที่ใช้คำว่า “สวยแต่รูป จูบไม่หอม” ได้เลยจริงๆ แต่หากต้องการความบันเทิงเบาๆ ก็ยังพอดูผ่านๆ ได้ครับ
Overall
6/10User Review
( votes)Pros
- งานโปรดักชั่นเล่นใหญ่โต
- ตัวร้ายดูน่ากลัว
- มีพากย์ไทย
Cons
- การแก้ไขปัญหาในเรื่องง่ายเกินไป ไม่สมจริง
- ตัวละครนางเอกมีบทบาทน้อยมาก
- ฉาแอ็กชั่นจืดชืด
ADBRO
Jewel Thief: The Heist Begins จอมโจรอัญมณี: เริ่มแผนจารกรรม ภาพยนตร์อินเดียจาก Netflix แนวจารกรรม พร้อมพากย์ไทย นำเสนอเรื่องราวของจอมโจรมือฉกาจที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อขโมยเพชรในตำนาน “แอฟริกัน เรดซัน” แต่แผนการที่วางไว้อย่างรัดกุมกลับค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเกมหักหลังและการทรยศที่ไม่เหลือความไว้เนื้อเชื่อใจ
รีวิว Jewel Thief: The Heist Begins จอมโจรอัญมณี
เรื่องราวของ Rehan Roy จอมโจรผู้มีจิตใจดีที่วางแผนขโมยเพชรล้ำค่า “Red Sun” เพื่อช่วยพ่อของเขาจาก Rajan Aulakh มาเฟียผู้โหดเหี้ยม โดยมีตำรวจตาติดการวางแผนปล้นครั้งนี้ทุกฝีก้าว อีกทั้งเขายังวางแผนชิงตัวภรรยาของมาเฟียให้หลุดพ้นจากการถูกกดขี่อีกด้วย
หนังแนวปล้นสไตล์บอลลีวูดที่เน้นความอลังการเลิศหรู ด้วยการใช้โลเกชั่นหลากหลาย ใช้การถ่ายทำในสถานที่จริงที่ บูดาเปสต์, อิสตันบูล, มุมไบ พร้อมกับฉากปล้นที่เล่นใหญ่ทั้งในพิพิธภัณฑ์และบนเครื่องบินโดยสารที่ดูแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่หนังก็หาทางออกแบบให้โจรตัวเอกต้องงัดไอเดียสารพัดมาทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ โดยมีชีวิตพ่อเป็นเดิมพัน อีกทั้งยังต้องหาทางช่วยภรรยาของมาเฟียตัวร้ายให้ได้อีก ซึ่งหนังตั้งโจทย์ไว้ยากเว่อร์เหมือนภารกิจแบบน้องๆ มิสชั่นอิมพอสซิเบิล แล้วก็ใช้การเดินเรื่องขายไอเดียการเจาะระบบรักษาความปลอดภัยแต่ละจุดมาขายเป็นฉากๆ โดยมีฉากแอ็กชั่นเตะต่อยสไตล์บอลลีวู๊ดที่ติดแอ็กติ้งเว่อร์ๆ แทรกเข้ามาด้วย
ตัวหนังถ้าดูผ่านๆ มันก็พอโอเคดูได้ แต่ปัญหามันคือทุกอย่างที่หนังวางเรื่องไว้มันกลับง่ายไปหมด เมื่อปัญหาแต่ละจุดถูกแก้โดยใช้แค่การขายไอเดียของตัวเอกว่าจะทำแบบนี้ให้ตัวร้ายรู้ทุกแง่มุม แล้วเวลาทำตามแผนจริงทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้นหมดโดยแทบไร้ซึ่งอุปสรรคหรือการไปพบจอปัญหาเฉพาะหน้าก็ไม่มี บางครั้งถึงขนาดทำให้ตัวเอกเหมือนเจออุปสรรคขัดขวาง แต่ความจริงกลายเป็นตัวเอกตั้งใจให้เจออุปสรรคนั้นเองแบบที่ไม่สมเหตุผลเท่าไหร่ ซึ่งทั้งเรื่องนี้ทำเหมือนตัวเอกกับตัวร้ายกำลังพยายามวางหมากเล่นเกมชิงไหวพริบกันก็จริง แต่ความจริงกลับไม่มีอะไรเป็นแบบนั้นเลย ไม่มีฉากให้ได้ลุ้นกันสักนิด ทั้งๆ ที่หนังมีการหักมุมอยู่เต็มไปหมด แต่ก็รู้สึกเฉยๆ เพราะบทหนังเขียนจับวางทุกอย่างให้อยู่ในแผนการคำนวนของตัวเอกจนดูโอเว่อร์เกินจริงไปเลย จนแม้แต่ตำรวจในเรื่องที่เขียนบทมาเหมือนรู้ทันตัวเอก แต่ควาจริงก็คือตัวประกอบสมทบดีๆ นี่เอง
สิ่งที่ดูดีหน่อยก็คือตัวร้ายของเรื่องแสดงได้น่ากลัวดีกับการกำลังตัดสินควบคุมทุกอย่าง แล้วก็มีอารมณ์ศิลปินกับการฆ่าคนแล้วใช้เลือดมาทำผลงาน แต่ตัวนางเอกของเรื่องกลับแทบไม่มีบทอะไรให้เล่น ทั้งเรื่องนอกจากแต่งชุดยั่วยวนแล้วก็แทบจะไม่ได้มีบทแสดงความฉลาดอะไรให้เห็นเลยนอกจากตอนท้ายเรื่องนิดเดียว บทของเธอเหมือนเป็นบทนางเอกที่ถูกกระทำแล้วอยู่ๆ ก็มีโจรขี่ม้าขาวมาช่วยง่ายๆ ซึ่งดูแล้วน่าเบื่อจนไม่มีเสน่ห์ถึงขนาดจะให้ตัวเอกต้องมาแย่งชิงไปเลย
แต่ทั้งนี้หนังก็ยังตั้งชื่อตอนไว้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อจะวางเรื่องให้มีภาคต่อทิ้งท้ายไว้อีก ซึ่งจากที่ดูเน็ตฟลิกซ์อาจจะอนุมัติสร้างไปแล้วด้วย ก็น่าเสียดายกับคุณภาพการสร้างหนังทุนสูงแต่บทแย่สวนทางแบบนี้ครับ
สรุปโดยรวม หนังบอลลีวูดที่ดูดีแค่ภายนอกจากการแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูเลิศหรูหราแต่หมาเห่ากันทั้งซอย เพราะเนื้อในมันกลวงโบ๋ เน้นเล่นใหญ่ตั้งโจทย์ให้ยากเว่อร์ แต่กลับคลี่คลายได้ง่ายสุดๆ ทุกขั้นตอนการโจรกรรมโดยไม่มีอุปสรรคอะไรให้ลุ้น จนขาดความตื่นเต้นและความสมจริงไปหมด จุดหักมุมที่ใส่ไว้เยอะก็เลยดูไร้ค่า เป็นหนังที่ใช้คำว่า “สวยแต่รูป จูบไม่หอม” ได้เลยจริงๆ แต่หากต้องการความบันเทิงเบาๆ ก็ยังพอดูผ่านๆ ได้ครับ