รีวิว Maska เส้นแบ่งฝัน หนังฟีลกู๊ดสูตรเดิมที่เรียบง่าย แต่ถูกปรุงออกมาได้อร่อยเกินคาด!
Maska เส้นแบ่งฝัน
สรุป
Maska เส้นแบ่งฝัน เป็นหนัง Original Netflix แท้ๆ ที่นานๆ ทีจะทำออกมาได้ลงตัวอย่างไม่คาดคิด แม้จะมีจุดบกพร่องอยู่บ้าง แต่โดยรวมเรื่องราวสนุก ครบทุกรสชาติ แถมเป็นหนังอินเดียที่ถ่ายภาพสวยทั้งอาหารและฉากโลเกชั่นที่มีบรรยากาศเรื่องราวคลาสสิคลงตัว เป็นเหมือนอาหารจานเดิมๆ แต่ถ้าปรุงดีๆ ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอร่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ
Overall
8/10User Review
( vote)Pros
- ภาพสวยๆ ของอาหารที่ชวนให้หิวได้เลยแม้จะเป็นของอินเดีย
- มุกตลกที่ปล่อยออกมาชวนขำได้จริงๆ
- บทบาทนางเอกหัวสมัยใหม่ทั้ง 2 คน
- บทแม่ผู้น่ารักและเข้าใจโลก
- ปมดราม่าเบาๆ แต่สะเทือนใจพอสมควร
- ดนตรีประกอบไพเราะส่งอารมณ์ให้กับเรื่องราว
- ตัวละครพระเอกหลุดโลกแต่เข้ากับเรื่องได้เป็นอย่างดี
- ตัวประกอบเรื่องมีบทเด่นเป็นดราม่าส่งเสริมเรื่องราวได้ดี
Cons
- ฉากจบเคลียร์ปมง่ายเกินไป
- เรื่องราวเป็นไปตามสูตรสำเร็จหนังแนวนี้เดาทางง่าย
- คาแรกเตอร์นิสัยของพระเอกช่วงหลังตัดสลับไปมาจนไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่
Maska เส้นแบ่งฝัน หนังอินเดีย Netflix เรื่องใหม่ ที่เล่าเรื่องราวของ “รูมี่” เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักแสดง แต่แม่ต้องการให้หลังเรียนจบมาสืบทอดกิจการร้านขายกาแฟขนมปังเก่าแก่ของครอบครัวที่มีอายุเกือบ 100 ปี เขาต้องเลือกว่าจะทำตามความต้องการของแม่ หรือว่าจะหนีออกไปไล่ตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ
ตัวอย่าง Maska เส้นแบ่งฝัน
หนังอินเดียพล็อตเดิมๆ ที่เรียบง่ายไม่ได้แปลกใหม่อะไรนักกับหนังแนวฟีลกู๊ด สร้างฝันแรงบันดาลใจวัยรุ่นไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จ แต่ก็เป็นสูตรสำเร็จที่ยังทำกันออกมาเรื่อยๆ ทั่วโลกไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง โดยที่หัวใจของเรื่องก็จะเป็นการไล่ตามฝันหรือจะอยู่กับความจริงที่จับต้องได้ พ่วงมาด้วยเรื่องราวความรักในช่วงวัยที่ต้องออกค้นหาเส้นทางชีวิตของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ก็หนีไม่พ้นสูตรสำเร็จในแนวทางนี้ทุกกระเบียดนิ้ว แต่ว่าในความเรียบง่ายที่เห็น หนังเรื่องนี้มีเชฟฝีมือดีที่ผสมเครื่องปรุงคลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะลงไปแบบใส่ใจในรายละเอียดมากกว่าทำตามสูตรเดิมๆ ทำให้อาหารจานเดิมที่เรียบง่ายนี้ถูกปรุงออกมาได้อร่อยเกินคาด
ถ้าละทิ้งเรื่องพล็อตจำเจนั้นไปเราจะได้พบกับเรื่องราวคลาสสิคของเด็กหนุ่มนักทำอาหาร ที่มีฝันอยากเป็นนักแสดงบอลลีวู๊ด แม้จะได้ไปเข้าคอร์สอบรมการแสดงจนได้ใบประกาศมาแล้วก็ตาม แต่เขากลับแสดงได้ห่วยแตกมากแม้จะพยายามอย่างหนักก็ไม่ก้าวหน้าขึ้นสักเท่าไหร่ หนังเอาจริงกับเรื่องราวในส่วนฝันของตัวพระเอก โดยใส่ช่วงเวลาของการพยายามไล่ฝันอย่างหนักอยู่ตลอดเรื่อง ด้วยการแต่งตัวเป็นคาแรกเตอร์แปลกๆ มาทำงานในร้าน การลงทุนออดิชั่นแบบโอเวอร์แอ็กติ้งสุดๆ อีกทั้งยังชอบซ้อมสมมุติว่าตัวเองได้รับรางวัลใหญ่ในอนาคตอยู่เสมอ ซึ่งหนังให้เวลากับเรื่องราวเหล่านี้อย่างเต็มที่แบบไม่มีข้อกังขาเลยว่าพระเอกตั้งใจจริงๆ ที่จะเป็นนักแสดงไม่ใช่แค่ความหลงไหลธรรมดา อีกทั้งยังใส่บทแฟนสาวสุดสวยที่มีฝันแบบเดียวกันไว้เคียงข้างทุกเวลาเสมอ โดยเธอเป็นนางเอกคนแรกของเรื่องที่จะมีบทบาทมาตลอดไปจนถึงตอนจบ
ซึ่งเรื่องราวในส่วนของการแสดงนี้ออกมาแนวตลกขบขันไปการแสดงทุ่มเทของพระะเอก พร้อมกับเรื่องราวดราม่าจุดชนวนความขัดแย้งกับแม่พระเอก แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ดราม่าหนักอะไรแบบนั้น หนังทำออกมาเป็นเแนวธรรมชาติขำๆ กับบทแม่ขี้งอนน่ารักๆ ก่อนจะคลี่คลายเรื่องแบบฟินๆ เมื่อแม่ยอมรับว่าต้องปล่อยลูกไปให้ลองเดินตามฝัน หนังใส่บทแม่ของพระเอกออกมาได้กลมกล่อมมีเสน่ห์มาก จนต้องบอกว่าคาแรกเตอร์นำของเรื่องนี้จริงๆ คือ แม่ของพระเอกกับตัวพระเอกเองนี่แหละครับ นางเอกที่จะตามมาทีหลังเป็นแค่บทสมทบให้เรื่องราวมีรสชาติหวานละมุนขึ้นเท่านั้น หนังเดินไปพร้อมกับบทแม่ผู้เข้าใจโลกและมีความรักให้หมดใจ แม้ตัวเองจะต้องเสียความฝันหาผู้สืบทอดร้านไปก็ตาม ซึ่งตรงนี้เรื่องราวแอบมีปมปูมหลังซ่อนอยู่นิดๆ ว่าทำไมร้านอายุเกือบ 100 ปีนี้ถึงขายแต่ขนมปังกับกาแฟเพียงเท่านั้น ซึ่งเมื่อเฉลยแล้วก็จะเป็นพาร์ทดึงให้เรื่องราวพระเอกกลับมาโลกของอาหาร ที่หนังก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กันกับช่วงการแสดงของพระเอก
ในช่วงของการทำอาหารมาเริ่มเรื่องจริงๆ เอาครึ่งหลังของเรื่อง เปลี่ยนจากแนวดราม่าตลกไปกับการทุ่มเทเป็นนักแสดงของพระเอกครึ่งแรก มาช่วงนี้กลับกลายเป็นการถ่ายทอดวิธีการทำอาหารหลายชนิด ที่ถ่ายขั้นตอนการทำออกมาได้สวยงาม มีความตั้งใจให้เป็นหนังอาหารแบบดูแล้วชวนหิวขึ้นมาได้ทันที และในพาร์ทนี้เองก็ถึงเวลาเปิดตัว “เพอร์ซิส” นางเอกคนที่ 2 ที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของพระเอกและทำบล็อกเรื่องราวชีวิตคนในมุมไบ ทำให้มาคลุกคลีใกล้ชิดกับพระเอกมากขึ้นเรื่อยๆ หนังทำออกมาเป็นช่วงเวลาเกี่ยวกับการทำอาหารสวยๆ พร้อมกับการเล่าเรื่องชีวิตลูกค้าแต่ละคนในร้าน ผ่านการสัมภาษณ์ของนางเอกคนที่ 2 ที่เดินเรื่องควบคู่กันไปกับความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นตามสูตร แต่หนังไม่ได้ทำให้เรื่องวุ่นวายหัวใจอะไรมาก กลับหาทางฉีกเรื่องความรักออกมาตั้งแต่ตอนนี้แบบทันยุคสมัยใหม่มาก ซึ่งนับว่าแปลกเลยที่หนังรักแนวนี้กล้าทำออกมา และก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไร แต่อาจจะขัดใจกับคนดูหัวโบราณไปสักนิดเท่านั้น
นางเอกคนที่สองขอให้พระเอกเป็นคนแรกของเธอกันแบบตรงไปตรงมาเลย
นอกจากเรื่องราวอาหาร การแสดง และความรักแล้ว ตัวหนังยังใส่บทพ่อที่ตายไปนานแล้วของพระเอกให้กลับมาอยู่ในรูปของจินตนาการเหมือนจริง มีตัวตนพูดคุยต่อปากต่อคำกับพระเอกได้ปกติ โดยที่ไม่ได้ทำให้เรื่องราวดูแปลกออกไปด้วย เพราะด้วยบทของพระเอกที่ฝันอยากเป็นนักแสดงก็มีการซ้อมบทพูดคนเดียวอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเป็นความฉลาดของคนเขียนบทที่หยิบจับเอาเรื่องนี้มาทำให้เรื่องราวมีอะไรเพิ่มมากขึ้นได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งไม่ใช่แค่การโต้ตอบพูดคุย แต่บทพ่อในจินตนาการของพระเอกนี้ยังมีปมสำคัญเรื่องการสืบทอดร้านจากรุ่นสู่รุ่นของตระกูล ทำให้เรื่องราวดูคลาสสิคย้อนยุค เชื่อมโยงไปกับช่วงเวลาใกล้ครบรอบ 100 ปีของร้าน ที่เตรียมรีโนเวทใหม่ตามความฝันของแม่ของพระเอก
แม้หนังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ลงรายละเอียดได้อย่างกลมกล่อม แต่การที่หนังตัดสลับเรื่องอาหารกับการแสดงในช่วงหลังกลับไปกลับมาและมีปมของเรื่องต่างกัน ทำให้ตัวคาแรกเตอร์นิสัยของพระเอกช่วงทำอาหารกับช่วงการแสดงดูเป็นคนละคนกันไปเลย ซึ่งเป็นอะไรที่ดูขัดแย้งกันมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็พอมองข้ามไปได้ แต่จุดนี้เป็นจุดใหญ่ที่ทำให้ปมของเรื่องดูขัดๆ ไม่น่าเชื่อถือว่าพระเอกจะสิ้นคิดเปลี่ยนนิสัยไปได้ง่ายๆ แบบนั้นตลอดเวลา
พระเอกกลับมาทำร้านให้ดีเพื่อจะขายทิ้งเอาเงินไปทำหนัง ซึ่งช่วงพระเอกทำร้านก็ดูใส่ใจเป็นคนดีรักแม่ แต่พอตัดกลับไปช่วงทำหนังก็ดูเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สนใจแม่ขึ้นมาทันที
อีกจุดที่หนังดูไปไม่สุดคือการบิ้วเรื่องราวให้ดูหาทางออกไม่ลง เรียกว่าเดายากพอสมควรเลยว่าจะจบยังไงให้สมเหตุผล แต่แล้วเรื่องกลับคลี่คลายลงง่ายๆ ทุกปม ทั้งเรื่องความฝันกับความรักของพระเอก แม้แต่ดราม่ากับแม่ก็รวบรัดตัดจบไปเลย ทำให้ตอนท้ายแทนที่เรื่องราวจะขยี้ปมส่งอารมณ์ให้สุด แต่กลับดับวูบจบกันง่ายๆ แต่ยังดีที่หนังมีช่วงบิ้วส่งอารมณ์ขึ้นระหว่างเรื่องหลายฉากแล้ว และก็ทำได้ดีกว่าในตอนจบทั้งหมดด้วยครับ
Maska เส้นแบ่งฝัน เป็นหนัง Original Netflix แท้ๆ ที่นานๆ ทีจะทำออกมาได้ลงตัวอย่างไม่คาดคิด แม้จะมีจุดบกพร่องอยู่บ้าง แต่โดยรวมเรื่องราวสนุก ครบทุกรสชาติ แถมเป็นหนังอินเดียที่ถ่ายภาพสวยทั้งอาหารและฉากโลเกชั่นที่มีบรรยากาศเรื่องราวคลาสสิคลงตัว เป็นเหมือนอาหารจานเดิมๆ แต่ถ้าปรุงดีๆ ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอร่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ