Rambo 5: Last Blood
สรุป
ปิดตำนาน 40 ปี แรมโบ้ได้ดี แม้จะนำของเก่ากลับมาขายทำซ้ำใหม่ดูจำเจไปบ้าง แต่บางทีคนดูส่วนใหญ่อาจจะต้องการอะไรแค่นี้กับการกลับมาก็ได้ครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- ดิบเถื่อนโหดถึงใจ
- ช่วงชีวิตใหม่แรมโบ้ทำได้ดี
- คงเอกลักษณ์แรมโบ้สู้ด้วยกับดักไว้เหมือนเดิม
Cons
- ตัวร้ายดูโง่กรูกันมาตายมากไปหน่อย
- ครึ่งแรกบทวางไว้ดี ครึ่งหลังบทอ่อนนวบยาบ
รีวิว Rambo 5: Last Blood ภาคปิดตำนานเกือบ 40 ปีของ แรมโบ้ นักรบเดนตาย โดย “ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน” กลับมาสวมบทเป็น จอห์น แรมโบ้ อีกครั้งในรอบ 10 ปี (ภาคล่าสุดปี 2008) ที่คราวนี้เขาได้กลับไปยังบ้านเกิดแสนสงบเพื่อหวังใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา แต่ความสงบก็ถูกทำลายเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันโหดร้าย โดยมีแก๊งชาวเม็กซิกันเป็นผู้จุดชนวน เมื่อพวกเขาจุดไฟสงคราม แรมโบ้ก็จะใช้ทักษะเก่าของนักรบเดนตายในการปิดฉากมัน
Rambo: First Blood เข้าฉายครั้งแรกในปี 1982 เป็นหนังที่สร้างตัวเอกแรมโบ้ให้เป็นคนที่เป็นโรค PTSD ที่มีอาการหลอนจากบาดแผลในจิตใจจากสงครามเวียดนาม สงครามที่สร้างความอับอายมากที่สุดให้กับสหรัฐอเมริกา เหล่าบรรดาทหารผ่านศึกที่กลับมาจากสงครามต่างก็ได้รับการต้อนรับกลับบ้านที่ไม่ดีนัก แรมโบ้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกปฏิเสธจากสังคม ซึ่งโดยตัวหนังเองไม่ใช่หนังแอ็กชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อมแบบที่เราจดจำในภาคหลังๆ นัก แต่เป็นหนังดราม่าแอ็กชั่นที่สะท้อนถึงผลกระทบจากสงครามโดยตรง แรมโบ้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพราะผลกระทบจากโรค PTSD ปลุกให้เขาหลอนคิดว่ายังอยู่ในสนามรบ แต่ในภาคต่อมาสตูดิโอคงไม่รู้จะเล่นประเด็นนี้ต่อไปได้ยังไง ก็เลยจับแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ให้แรมโบ้กลับมาเป็นนักรบเต็มตัวอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นภาพติดตาคนในยุคต่อๆ มา กับ ผู้ชายสายโชว์กล้ามยิงธนูหัวระเบิด สะพายกระสุนปืนกลพร้อมสาดไม่ยั้ง
แต่การกลับมาในครั้งนี้ของภาค 5 Last Blood ได้ลบภาพที่ผ่านๆ มาพร้อมกลับไปเป็นแรมโบ้คนเดิมในภาค แต่เป็นเวอร์ชั่นที่อายุมากขึ้น สุขุมมากขึ้น มีครอบครัวที่รัก ต่างกับภาคแรกที่เขาไม่เหลือใครเลย และถูกสังคมขับไล่จนต้องระเบิดออกมา ในภาคนี้เปิดเรื่องราวชีวิตที่ดูสงบสุขของแรมโบ้ มีครอบครัว มี Gabrielle หลานสาววัยรุ่นที่เลี้ยงมากับมือตั้งแต่ยังเด็กๆ จนเขาเหมือนเป็นพ่อจริงๆ ซึ่งพ่อแท้ๆ ทิ้งเธอไปตั้งแต่ยังเด็ก หนังพาไปพบกับชีวิตสงบสุขของแรมโบ้อยู่พักใหญ่ แต่ก็เผยให้เห็นว่าเขาต้องทานยากดอาการจากโรค PTSD อยู่เหมือนเดิม หนังใช้เวลาปูลงลึกให้เห็นถึงชีวิตบั้นปลายของแรมโบ้ที่ดูทีท่าว่าจะดีแล้ว ก่อนจะเริ่มเดินหน้าปมปัญหาที่ทำให้เกิดเรื่องราวบู๊ล้างผลาญในเวลาต่อมา จากแก๊งค้ามนุษย์จากเม็กซิกันจับตัวหลานสาวเขาไปขายตัว ซึ่งแน่นอนว่าแรมโบ้ก็ตามข้ามพรมแดนไปช่วย
ช่วงเวลาที่แรมโบ้ตามหาหลานสาว หนังทำท่าว่าจะเหมือนกับหนังดัง Teken ในตอนแรก ที่พระเอกต้องตามไปล่าฆ่าล้างบางแก๊ง แต่หนังกลับหักมุมคนดูแบบ 360 องศา ให้แรมโบ้กลายเป็นฝ่ายโดนถลุงแทนโดยไร้ทางต่อสู้ ซึ่งดูแล้วเป็นอะไรที่ไม่เมคเซนส์เอามากๆ ว่าบุกเข้าไปทำไม จากนั้นจึงค่อยเริ่มเรื่องราวการล้างแค้นแบบโหดดิบเถื่อน ซึ่งช่วงที่แรมโบ้ลุยในเม็กซิโกนี่แอบคิดเหมือนกันว่าหนังปลุกแรมโบ้กลับมาได้ดี และมีแนวทางที่แตกต่างออกไปจากหนังแนวเดียวกันนี้อีกหลายเรื่อง ด้วยตัวละครที่มีชื่อเสียงยาวนานและปูมหลังที่น่าสนใจ รวมถึงสไตล์การต่อสู้แบบทหารโหดๆ ถึงขนาดตัดหัว ซึ่งเราจะไม่ได้เห็นจากพวกหนังที่มีตัวเอกเท่ๆ ลุยเหล่าร้ายในปัจจุบันแน่ๆ
แต่แล้วหนังก็ใช้เวลาช่วงนั้นเพียงสั้นๆ ก่อนจะกลับไปยังเนื้อหารูปแบบเดิมๆ แรมโบ้กลับมาวางแผนทำกับดักแบบสมัยก่อนในบ้านเกิด หลอกล่อให้แก๊งพวกนี้มาติดกับ และใช้ความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ จัดการแก๊งค้ามนุษย์จากเม็กซิกันเหล่านี้จนหมดเกลี้ยง ซึ่งช่วงท้ายนี้การต่อสู้ดูง่ายดายไปหมด ตัวร้ายกรูกันมาตายโง่ๆ ต่างกับช่วงอยู่ในเม็กซิโกที่แรมโบ้แทบตาย ก็เลยกลายเป็นได้แค่ฉากที่ไว้แสดงให้เห็นว่า แรมโบ้แบบเก่าเน้นระเบิดภูเขาเผากระท่อมยังอยู่นะ ซึ่งถ้าหนังเดินเรื่องโดยใช้แนวทางแบบช่วงเม็กซิโกไปจนจบ แรมโบ้ภาคนี้คงเป็นอะไรที่แตกต่าง และก็อาจจะกลับมาเป็นตัวละครสานต่อไปเรื่อยๆ ได้อีกด้วยซ้ำ
แต่การทำแรมโบ้ในแนวทางเดิมๆ ก็อาจจะไม่ผิดอะไร และเป็นความตั้งใจคืนจอของซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ที่เป็นทั้งดารานำและเจ้าของค่ายหนังเรื่องนี้ ด้วยอายุที่มากถึง 73 ปีแล้วคงไม่เหมาะจะยืดต่อไปอีก เจ้าตัวเลยตั้งใจทำเรื่องนี้เป็นภาคสุดท้าย และรวมผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดไว้ในเรื่องนี้ ด้วยฉากเอนเครดิตที่รวมฉากสำคัญทุกภาคมาต่อกัน จาก First Blood ถึง Last Blood ปิดบทสรุปเรื่องราวไว้เพียงเท่านี้ครับ ซึ่งก็ถือว่าลงตัวดี เป็นการปิดตำนานที่เหมาะสมแล้วเช่นกันครับ
Rambo 5: Last Blood รีวิว
ติดตามอ่านรีวิวหนังเรื่องอื่นได้ที่นี่
ทวนความจำกับเนื้อเรื่อง Rambo: First Blood
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในระหว่างที่ แรมโบ้ กำลังเดินทางข้ามประเทศ เพื่อไปหา Delmar Barry สมาชิกจากหน่วยเก่าของเขาเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาได้ แต่น่าเศร้าที่ Barry ต้องเสียชีวิตไปก่อนจากความพยายามในการเปิดโปงเจ้าหน้าที่ออเรนจ์ ผู้ใช้สารพิษในพื้นเพื่อจัดการชาวเวียดนาม แต่มันกลับทำให้เหล่าทหารผ่านศึกที่ร่วมปฏิบัติการนั้นป่วยด้วยโรคมะเร็งหลังจากที่สงครามจบลง
เมื่อไม่เหลือใครอีกแล้ว แรมโบ้ กลายเป็นชายผู้ไร้จุดหมาย เขาเดินทางไปยังเมืองโฮป เมืองเล็ก ๆ แถบภูเขาวอชิงตัน เพียงเพื่อหาข้าวกิน แต่เขาถูกนายอำเภอของเมืองนั้นคุกคาม เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกฮิปปี้ จนถูกขับไล่ออกจากเมืองและสั่งห้ามไม่ให้กลับมาอีกเป็นอันขนาด แม้ว่าในฉบับนวนิยายจะบอกว่าตามปกติแล้วแรมโบ้เป็นคนที่ยอมรับและเชื่อถือในกฎหมาย แต่เขามันไม่ใช่ในครั้งนี
แทนที่เขาจะปล่อยผ่าน แรมโบ้ตัดสินใจกลับไปยังเมืองโฮป เขาถูกนายอำเภอคนเดิมพร้อมด้วยลูกน้องของเขาที่เต็มไปด้วยอาวุธครบมือเข้าจับกุม เมื่อเห็นอาวุธและจำนวนคนมากขนาดนั้นทำให้ภาพสงครามเวียดนามของเขาย้อนกลับมา เขาคลั่งในทันทีแล้วเข้าไปทำร้าย พร้อมปลดอาวุธเจ้าหน้าที่เหล่านั้นแต่ไม่ได้ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต
Rambo: First Blood มุ่งเน้นไปที่การต้องเผชิญหน้ากับอาการ PTSD ของแรมโบ้ ที่เขาได้รับผลกระทบมาจากสงครามเวียดนาม สงครามที่สร้างบาดแผลให้กับเขาทำให้เขากลายเป็นคนบ้าคลั่งที่ต้องทำร้ายทุกคนที่เข้ามาขวางทาง ทำให้มันกลายเป็นเรื่องราวอันโหดเหี้ยม, เกรี้ยวกราด และอคติที่มีต่อทหารผ่านศึกที่ต้องเผชิญหน้าโศกนาฎกรรมจากสงคราม จนกลายเป็นคนใหม่ที่น่าหวั่นเกรง ถือปืน M60 เดินไปตามถนนเส้นหลักของเมืองชนบท