รีวิว Spriggan Netflix ปลุกชีพมังงะยุค 90 ด้วยแอ็กชั่นสุดมันส์ที่อิงกับตำนานโบราณในโลกจริง
Spriggan
Summary
ถือเป็นความพยายามปลุกชีพมังงะเก่าขึ้นมาใหม่ได้สำเร็จ ตัวเรื่องดูกระชับสนุกมันส์กับฉากแอ็กชั่นที่อัดกันเข้ามาโครมๆ แทบตลอดเวลา แล้วก็ยังสนุกตรงไอเดียการนำเรื่องเล่าโบราณมาตีความใหม่ให้ดูเป็นวิทยาการล้ำยุค ที่ใช้ได้ทั้งสร้างสรรค์และทำลายแบบดาบสองคม ซึ่งเป็นจุดขายของเรื่องเลยว่าแต่ละตอนจะนำผู้ชมไปพบกับสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ได้แค่ไหน อาจจะมีความน่าสนใจไม่เท่ากันอยู่บ้าง แต่รวมๆ ก็สนุกและทำได้น่าสนใจทุกตอนครับ
Overall
8.5/10User Review
( vote)Pros
- แนวแอ็กชั่นไซไฟล้ำๆ อิงกับเรื่องเล่าตำนานโบราณของจริงที่ตีความใหม่
- ทำจากมังงะในตำนานเมื่อ 30 ปีก่อน
- เรื่องกระชับจบในตอน
- มีฉากรุนแรงเลือดสาดตลอดเวลา
- ตัวละครรองเด่นมีความสำคัญ
- อนิเมชั่นการเคลื่อนไหวลื่นไหล
- มีเสียงพากย์ไทยดีมาก
Cons
- ตัวละครยังเป็นสูตรสำเร็จเด็ก ม.ปลาย ที่ดูฝืนๆ ขัดกับเรื่องหลักอยู่บ้าง
ตัวอย่าง Spriggan
เรื่องย่อ
ในสมัยโบราณเคยมีอารยธรรมอันยิ่งใหญ่บนโลกมนุษย์ ชนกลุ่มนี้มีองค์ความรู้และวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวล้ำยิ่งกว่ามนุษยชาติในปัจจุบัน และเศษซากอารยธรรมโบราณนี้ยังคงซุกซ่อนกระจายอยู่ทั่วโลกในยุคนี้ หลังจากเครือข่ายการสื่อสารแพร่ขยายครอบคลุมไปทั่วโลกและดาวเทียมสอดแนมสามารถเปิดโปงความลับทุกอย่างได้ กองทัพของชาติมหาอำนาจในโลกก็เข้าปะทะกันในขณะค้นหาและทำการวิจัยวัตถุโบราณเหล่านี้ ซึ่งเป็น “”ขุมพลัง”” มหาศาลเกินกว่าจะประมาณได้ ใครคนหนึ่งจากอารยธรรมโบราณนี้จารึกข้อความไว้ว่า “”จงปกป้องวัตถุของเราจากคนชั่ว”” องค์กรแห่งหนึ่งยึดมั่นข้อความนี้อย่างจริงจังและพยายามปกปิดอารยธรรมโบราณให้สาบสูญไปตลอดกาล สายลับชั้นแนวหน้าจากองค์กรนี้มีชื่อเรียกขานว่า “สปริกกัน”
รีวิว Spriggan
อนิเมะจากมังงะระดับตำนานเมื่อ 30 ปีก่อนที่เคยถูกนำมาสร้างเมื่อปี 1998 เป็นฉบับหนังโรง แล้วก็เว้นช่วงห่างไปนานจนคนรุ่นหลังน่าจะไม่รู้จักเรื่องนี้แล้ว ซึ่ง Netflix ก็ปลุกชีพกลับมาทำใหม่ มีการปรับเปลี่ยนลำดับเรื่อง โลกในเรื่องให้ทันสมัยเข้ากับปัจจุบัน อย่างการมีการใช้สมาร์ทโฟน แล้วก็เครื่องมือใหม่ๆ เข้ามา ทำให้เรื่องนี้ดูทันสมัยไม่ว่าแฟนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ดูก็ไม่รู้สึกว่าตัวเรื่องตกยุคแต่อย่างใด
ตัวเรื่องซีซั่นแรกมี 6 ตอน จบในตอนแยกขาดจากกันแทบทั้งหมด (มีเชื่อมบางจุดไว้หลวมๆ) ตอนละ 40 กว่านาที แต่ละตอนก็เป็นเรื่องราวของวัตถุโบราณที่ถูกเรียกว่าโอพาร์ท 1 อย่าง ที่ส่วนใหญ่ก็มีอ้างอิงจากตำนานเก่าแก่หรือวัตถุโบราณจริงๆ ในโลก อย่างเรือโนอาห์ กระโหลกคริสตัล ยาอายุวัฒนะ ป่าต้องสาป สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า แต่ผู้แต่งเรื่องนี้จะดัดแปลงตำนานเหล่านั้นให้กลายเป็นเรื่องเทคโนโลยีโบราณที่ล้ำยุคกว่าปัจจุบัน ที่คนโบราณในยุคนั้นสร้างไว้เพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งทั้งสร้างสรรค์และทำลายล้างในคราวเดียวกัน โดยมีศัตรูเป็นพวกองค์กรต่างๆ ในโลกที่มีจริงส่วนหนึ่ง CIA กองทัพอเมริกัน รัสเซีย ทหารรับจ้าง กับที่แต่งขึ้นมาอย่างพวกกลุ่มนีโอนาซี ที่ต้องการวัตถุพวกนี้ไปใช้ในทางที่ผิด หรือไม่ตัววัตถุโบราณนั้นก็กลายเป็นอาวุธมีชีวิตจากโลกยุคเก่าที่ตื่นขึ้นมาทำลายล้างอีกครั้ง ทำให้พระเอกต้องทั้งหยุดยั้ง ทำลาย นำกลับมาปิดผนึก โดยไม่มีเรื่องของเงินมาเกี่ยวข้อง
สำหรับคนที่คุ้นๆ ว่าโครงสร้างเรื่องเป็นสไตล์อินเดียน่าโจนส์อยู่บ้าง ซึ่งก็ใช่ เพราะยุคนั้นอินเดียน่าโจนส์เป็นแรงบันดาลใจให้เรื่องแนวๆ นี้เกิดขึ้นมาหลายเรื่อง แต่ว่าสปรีกกันก็แค่นำเรื่องวัตถุโบราณมาใช้ นอกนั้นคือแตกต่างออกไปเลย ด้วยการที่ตัวเอกเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพิเศษระดับสูงของเรื่องที่มีอุปกรณ์ติดตัวหลักๆ คือชุดเกราะกล้ามเนื้อกันกระสุนกับเพิ่มพลังกายได้สูงกว่าคนปกติมาก มีดที่ตัดได้ทุกอย่าง โดยใช้ความรู้จากวิทยาการโบราณสร้างขึ้นมาของอาร์คัม องค์กรที่เป็นสังกัดของพระเอกเอง การเดินเรื่องจะเป็นแนวแอ็กชั่นเต็มๆ ตัวกับฉากสู้เหนือมนุษย์ตลอดเรื่อง ที่ตัวร้ายในแต่ละตอนก็มีทักษะสกิลเหนือมนุษย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งอุปกรณ์หรือสกิลต่างๆ ในเรื่องนี้ก็ถูกปรับขึ้นมานิดๆ ให้ทันยุคขึ้นมาด้วย ซึ่งฉากแอ็กชั่นในเรื่องนี้ก็โหดมันส์ถึงใจมาก เพราะติดเรตรุนแรงมาก มีโดนยิงหัว ตัวขาด เลือดกระฉูดกันตลอดเวลา แล้วก็มีทริกการเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการวางแผน ไม่ใช่ด้วยการใช้กำลังกันตรงๆ ทำให้เรื่องครบทั้งบู้บุ๋นรอบด้านเลย และก็ไม่ใช่มีแค่พระเอกคนเดียวที่เป็นสปริกกัน แต่มีตัวละครรองอื่นๆ อีก ที่มีสกิลและความสามารถแตกต่างไปจากพระเอก ถึงขั้นเหนือกว่าพระเอกก็เยอะ และก็กลายมาเป็นศัตรูด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องจะดำเนินไปแบบสีเทาๆ ว่า อาร์คัมที่พระเอกเชื่อมั่นนั้นเป็นองค์กรฝ่ายดีอย่างที่เห็นจริงหรือไม่ ทำให้พระเอกรู้สึกลังเลในบางครั้ง แต่เรื่องในซีซั่นแรกก็จะแค่ปูเกริ่นนำในจุดนี้ไว้กับตัวละครสปริกกันคนอื่นๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในภายหลัง
งานสร้างเป็นของสตูดิโอ David Production ที่สร้าง JoJo’s Bizarre Adventure ลายเส้นของอนิเมะก็ถอดแบบใกล้เคียงต้นฉบับมังงะมาก ถือว่าดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนด้วยในแง่ของคนอ่านรุ่นเก่า ฉากแอ็กชั่นการเคลื่อนไหวของเรื่องก็ลื่นไหลดูดี แต่ก็ไม่มีติดขัดเลย มีเสียงพากย์ไทยมาพร้อม พากย์ดี แปลดีกว่าซับ
จุดด้อยของเรื่องก็อาจจะเป็นแค่แนวเรื่องเดิมๆ ที่ตัวเอกเป็นเด็ก ม.ปลาย อายุ 16 ปี ที่มีพลังพิเศษตามสูตร แล้วก็พยายามให้ตัวละครสำคัญเป็นเด็กรุ่นเดียวกันหมด ซึ่งเรื่องพยายามใส่ฉากโรงเรียนมาแทรกนิดๆ โดยโยงว่าเป็นส่วนที่ทำให้พระเอกยังดูเป็นเด็กปกติมีจิตใจดีงาม ไม่ใช่ทหารหรือนักฆ่าในโลกหลักของเรื่อง ซึ่งก็เข้าใจได้จากทาเก็ตผู้อ่านเป็นวัยนั้นทำให้เรื่องพยายามทำให้เข้ากับกลุ่มผู้อ่าน แต่ด้วยความที่ตัวเรื่องหลักจริงจังกว่ามาก เวลาใส่พาร์ทเรียนมาก็เลยดูฝืนๆ แล้วตัวเรื่องก็ใส่มาแค่กระจึ๋งเดียวทุกตอนแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องหลักเลย ก็เลยทำให้ดูเป็นส่วนเกินของเรื่องอยู่บ้าง
ถือเป็นความพยายามปลุกชีพมังงะเก่าขึ้นมาใหม่ได้สำเร็จ ตัวเรื่องดูกระชับสนุกมันส์กับฉากแอ็กชั่นที่อัดกันเข้ามาโครมๆ แทบตลอดเวลา แล้วก็ยังสนุกตรงไอเดียการนำเรื่องเล่าโบราณมาตีความใหม่ให้ดูเป็นวิทยาการล้ำยุค ที่ใช้ได้ทั้งสร้างสรรค์และทำลายแบบดาบสองคม ซึ่งเป็นจุดขายของเรื่องเลยว่าแต่ละตอนจะนำผู้ชมไปพบกับสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ได้แค่ไหน อาจจะมีความน่าสนใจไม่เท่ากันอยู่บ้าง แต่รวมๆ ก็สนุกและทำได้น่าสนใจทุกตอนครับ