รีวิวซีรีส์ 1992 (Netflix) เฟรดดี้+เจสัน+คิกแอส รวมกันเป็นฆาตกรต่อเนื่องสุดบ้ง!
1992
Summary
ซีรีส์แนวฆาตกรต่อเนื่องที่สร้างตัวละครสภาพร่างกายไฟไหม้ทั้งตัวเหมือนเฟรดดี้ครูเกอร์ แล้วเอามาผสมกับการไล่ฆ่าแบบ เจสัน ศุกร์ 13 แต่เปลี่ยนเป็นชายสวมชุดแบบตัวเอกหนัง Kick-ass ใช้เครื่องพ่นไฟแบกไปไล่ฆ่าเหยื่อเป้าหมายตามที่ต่างๆ ในที่สาธารณะ ซึ่งก็ไม่มีใครสนใจ ตำรวจก็ไม่ตามหา เรื่องล้มเหลวในเรื่องตรกะความสมเหตุผลไปหมด แม้แต่ปมของตัวเอกทั้งคู่ก็วนเวียนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีฉากรักที่พยายามแทรกไปให้ได้ ตัวเรื่องพยายามทำให้ฉากสืบสวนดูซับซ้อนโดยผนวกเข้ากับงานเอ็กซ์โป 1992 แต่มันไม่เวิร์คเลยเมื่อตัวฆาตกรเป็นแบบนี้แต่แรก ทำให้ดูแล้วทั้งเรื่องตำรวจกับตัวเอกก็โง่ที่ตามหาฆาตรไม่เจอสักที แต่ถ้าใครชอบแนวโหดๆ ก็คงถูกใจกับฉากฆ่าคนสดๆ แบบนี้ครับ
Overall
4/10User Review
( vote)Pros
- ฆาตกรไล่ฆ่าคนด้วยเครื่องพ่นไฟ
- มีพากย์ไทย
Cons
- ความสมเหตุผลของบทแย่มากๆ
1992 ซีรีส์สเปน Original Netflix แนวสืบสวน 6 ตอนจบ หลังเกิดเหตุระเบิดไฟไหม้ประหลาดจนชายคนหนึ่งเสียชีวิต แต่ตำรวจกลับปิดเคสไม่สืบสวนต่อ ภรรยากับลูกน้องที่เคยเป็นอดีตตำรวจจึงร่วมกันสืบหาความจริงที่ไปเกี่ยวข้องกับความลับในงานเอ็กซ์โป ปี 1992
รีวิวซีรีส์ 1992 (มีสปอยล์)
ซีรีส์สเปนที่บอกเลยว่าแย่มากตั้งแต่แรก สาเหตุหลักๆ ก็คือเรื่องนี้มีปัญหาที่ตัวบทขาดตระกะเหตุผลในโลกจริงไปหมด ด้วยเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่มาในรูปแบบเดียวกับเจสัน ศุกร์ 13 แต่เปลี่ยนเป็นชายสวมชุดแบบ Kick-ass กับใช้เครื่องพ่นไฟ ซึ่งตอนแรกอาจจะไม่แปลกเพราะซีรีส์ไม่ได้ฉายภาพการทำงานของมันให้เห็น แต่พอเรื่องดำเนินไปก็เห็นภาพหมอนี่ก็แบกเครื่องพ่นไฟนี่ไปทุกที่ บริษัท โรงพยาบาล บ้านพักคนชรา บ้านรัฐมนตรี รถไฟความเร็วสูง คือคนบ้าอะไรที่ใส่ชุดแบบนี้แล้วแบกเครื่องพ่นไฟเดินร่อนไปฆ่าคนที่เป็นเป้าหมายได้ไปทั่ว โดยที่ตำรวจก็ไม่ได้สนใจจะตามจับเลยทั้งๆ ที่มีพยานเห็นหมอนี่เดินเข้าที่ต่างๆ เต็มไปหมด แถมส่วนหน้าที่เปิดไว้ก็เป็นหน้าเละเทะจากแผลไฟไหม้เหมือนเฟรดดี้ครูเกอร์ ซึ่งจะไม่สะดุดตาเลยคงเป็นไปไม่ได้ แถมตอนจะฆ่าใครก็ยังจะหยฺบใส่หน้ากากนกจากงานเอ็กซ์โป 1992 สวมทับให้ตลกๆ ไปอีก หรือที่มาเฉลยตัวตนของฆาตกรตอนท้ายก็เว่อร์เกินไปจากการโดนไฟไหม้ทั้งตัวแล้วยังเดินหนีออกมาได้หน้าตาเฉย ซึ่งแผลขนาดนี้คือไฟไหม้รุนแรงระดับเสียชีวิตได้ตั้งแต่ในกองไฟแล้ว โดยผู้สร้างคงแค่ต้องการสร้างดราม่าแรงจูงใจให้ตัวละครดูสมเหตุผล แต่มันตรงกันข้ามเลยมากกว่า ดูเบียวๆ เหมือนจะพยายามเอาที่มาของเจสันไปรวมร่างกับเฟรดกี้ครูเกอร์แบบนั้นครับ (แค้นแทนแม่ในถูกเผาในกองเพลิงตัวเองเลยไหม้ไปด้วย)
ส่วนของเนื้อเรื่องก็มีความพยายามสืบสวนแบบโง่ๆ ไม่ฉลาดเลย เรื่องพาให้ตัวเอกทั้งคู่ร่อนเร่ไปหลายที่สืบสวนแบบไม่เมคเซนส์หลายอย่าง เช่นไปอเมริกาแล้วเจอพายุถล่มเพื่อให้เกิดฉากรัก นางเอกเดินเข้าไปย่านอันตรายคนเดียวเลยเจอพวกไล่ข่มขืนงี้ โดยเรื่องก็วางปมให้ตัวเอกสองคนมีดราม่าชีวิตส่วนตัวเพื่อเล่าเรื่องเลอะเทอะเพิ่มอีก นางเอกผัวตายไปโดยเมียคิดว่าผัวมีชู้ ซึ่งพอเฉลยออกมาปัญหาก็เท่าเส้นผม ส่วนพระเอกที่เป็นลูกน้องคนสนิทก็ติดเหล้าหลังเจ้านายตายไปแล้วก็หลอนเห็นภาพผีเจ้านายตามมาตลอด วันๆ ก็วุ่นแต่กับการเลิกเหล้าดีหรือไม่เลิกดี ผีก็มีงอกเพิ่มมาอีก ซึ่งปมพวกนี้ก็ขยันแทรกเข้ามาโดยแทบไม่มีประโยชน์อะไรกับเรื่องราวมากเลย เป็นเพียงแค่การทำให้คู่พระนางมีปมด้อยด้วยกัน ต้องพึ่งพากัน เพื่อให้มีซีนแอบปิ๊งรักมีฉากโรแมนติกเล็กๆ พร้อมกับฝ่าฝันกันสืบคดีที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะซับซ้อนอะไรได้แบบนั้นแต่แรกเลย เพราะฆาตกรก็โจ่งแจ้งขนาดนั้นครับ (กล้องวงจรปิดในเรื่องมีแค่ตัวเอกถอดเมมไปใช้ ตำรวจไม่เคยมี ไม่เคยตามหา)
ส่วนที่ดีของเรื่องก็พอมีบ้างถ้าอยากดูฉากฆ่าคนด้วยปืนไฟของฆาตกรก็คงดูได้ อารมณ์แบบหนังเจสันเลยคือเดินทื่อๆ หยิบหน้ากากมาใส่แล้วเข้าไปพ่นไฟ โดยไม่มีแผนอะไรซับซ้อนในการเข้าถึงเหยื่อที่แต่ละคนก็เป็นคนดังมีอำนาจทั้งนั้น (ขนาดมีลูกน้องถือปืนกลยังหนี) ซึ่งฉากฆ่าแบบนี้ก็ดูสะใจดีกับคอหนังโหด หรือฉากเฉลยความลับที่มาของคนร้ายตัวจริงในตอนท้าย ซึ่งเฉลยแล้วก็มีความซับซ้อนดีอยู่ แต่มันก็ไม่สมเหตุผลอยู่ดีถ้าเทียบกับการทำให้เรื่องราวฆาตกรรมนี้เกิดขึ้นมาครับ (แต่ก็คงมีคนว้าวกับบทจอมวางแผนแบบนี้ได้อยู่แหละ)
สรุป ซีรีส์แนวฆาตกรต่อเนื่องที่สร้างตัวละครสภาพร่างกายไฟไหม้ทั้งตัวเหมือนเฟรดดี้ครูเกอร์ แล้วเอามาผสมกับการไล่ฆ่าแบบ เจสัน ศุกร์ 13 แต่เปลี่ยนเป็นชายสวมชุดแบบตัวเอกหนัง Kick-ass ใช้เครื่องพ่นไฟแบกไปไล่ฆ่าเหยื่อเป้าหมายตามที่ต่างๆ ในที่สาธารณะ ซึ่งก็ไม่มีใครสนใจ ตำรวจก็ไม่ตามหา เรื่องล้มเหลวในเรื่องตรกะความสมเหตุผลไปหมด แม้แต่ปมของตัวเอกทั้งคู่ก็วนเวียนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีฉากรักที่พยายามแทรกไปให้ได้ ตัวเรื่องพยายามทำให้ฉากสืบสวนดูซับซ้อนโดยผนวกเข้ากับงานเอ็กซ์โป 1992 แต่มันไม่เวิร์คเลยเมื่อตัวฆาตกรเป็นแบบนี้แต่แรก ทำให้ดูแล้วทั้งเรื่องตำรวจกับตัวเอกก็โง่ที่ตามหาฆาตรไม่เจอสักที แต่ถ้าใครชอบแนวโหดๆ ก็คงถูกใจกับฉากฆ่าคนสดๆ แบบนี้ครับ