รีวิว A Good Girl’s Guide to Murder (Netflix) เน้นดู Emma Myers สนุกแบบเพลินๆ แต่ไม่โดดเด่น

A Good Girl’s Guide to Murder คู่มือฆาตกรรมฉบับเด็กดี ซีรีส์ Original Netflix อังกฤษ 6 ตอนจบซีซั่น 1 มีพากย์ไทย สร้างจากนิยายขายดีในชื่อเดียวกัน เรื่องราวการสืบสวนคดีฆาตกรรมในเมืองเล็กๆ ที่ผ่านมา 5 ปีและยังไม่คลี่คลายโดยสมบูรณ์ โดยนักสืบที่เป็นเด็กนักเรียนสาวผู้ปราดเปรื่องและต้องการทำรายงานไขคดีฆาตกรรมนี้ให้กระจ่าง

รีวิว A Good Girl’s Guide to Murder คู่มือฆาตกรรมฉบับเด็กดี (ไม่สปอยล์)

แอนดี้ เบลล์ นักเรียนชั้นมัธยมปลายที่สวยและเป็นที่นิยม ถูกฆาตกรรมโดยแฟนหนุ่มของเธอ ซาล ซิงห์ ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ฆ่าตัวตาย เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อสนทนาของทุกคน และห้าปีต่อมา พิป (แสดงโดย Emma Myers) เห็นว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้ยังคงหลอกหลอนเมืองของเธออยู่ แต่เธอไม่สามารถสลัดความรู้สึกที่ว่าน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น

ซีรีส์จากนิยายวัยรุ่นอังกฤษที่ตอนนี้มีแล้ว 3 เล่ม โดยผู้แต่ง  Holly Jackson โดยซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่งานสร้างของ Netflix โดยตรง แต่ซื้อมาจากช่อง BBC Three ของอังกฤษ ซึ่งเหตุผลหลักที่ซีรีส์นี้ดึงดูดผู้ชมได้มากก็น่าจะเป็นเพราะมีนักแสดงสุดน่ารัก Emma Myers มาเล่นเป็นตัวเอก ซึ่งผู้ชมคงรู้จักเธอดีจากบทน้องหมาป่าในซีรีส์ Wednesday ของ Netflix เอง

ในบทนี้ เธอเล่นเป็น พิป เด็กสาววัยรุ่นที่ฉลาดและต้องการทำรายงาน EPQ (Extended Project Qualification) เพื่อส่งเธอเข้ามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยเลือกหัวข้อคือการไขคดีปริศนาของเมืองที่ค้างคาไว้ 5 ปี โดยมีปมเหตุแรงจูงใจส่วนตัวกับคดีนี้เองด้วย ซีรีส์เพิ่มรายละเอียดหลายอย่างจากนิยายขึ้นมาให้เป็นซีรีส์วัยรุ่นสืบสวนผจญภัยเต็มๆ อย่างในนิยายเป็นการไขคดีผ่านการหาข้อมูลออนไลน์ส่วนใหญ่ ข้อดีก็คือมันทำให้การสืบสวนออนไลน์กลายเป็นซีรีส์ที่ตัวนางเอกผาดโผนท้าทายตามสไตล์วัยรุ่นจริงจัง โดยพิปมีบทให้ต้องไปตามสืบในที่ต่างๆ ร่วมกับ ราวิ (แสดงโดย Zain Iqbal)) หนุ่มเชื้อสายอินเดีย น้องของ ซาล ซิงห์ เหยื่อที่ถูกป้ายสีว่าเป็นฆาตกรในคดีนี้และฆ่าตัวตายไป

เรื่องเดินหน้าสืบสวนโดยใช้สกิลความสามารถของพิพที่ฉลาด เชื่อมต่อขุดคุ้ยเหตุการณ์ต่างๆ ในเมืองเล็กๆ ที่ทุกคนรู้จักกันหมด โดยมีตัวละครที่ถูกดึงมาเกี่ยวข้องเป็นรุ่นพี่นักเรียน ครู ครอบครัวคนใกล้ชิดที่คาดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวพัน ซึ่งเรื่องทำแผนผังคดีในห้องนอนของเธอโยงใยมากมายเป็นจุดขายของเรื่องนี้ และไม่ลืมใส่ความสัมพันธ์โรแมนติกเล็กๆ ของพิปกับราวิไว้ด้วย ซึ่งเนื้อหาในส่วนนี้มีความสนุกแบบสืบสวนวัยรุ่นเบาๆ ทั่วไป ไม่ได้พิเศษหรือมีความรุนแรงมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะนิยายอยู่ในวัยขายเด็กวัยรุ่น 14-15 เองด้วย

แต่การปรับเรื่องมาให้นางเอกลงมือลุยสืบสวนเองทุกอย่าง ทำให้ซีรีส์ดูเล่นเกินจริงจนไม่น่าเชื่อ อย่างที่เห็นชัดคือการที่นางเอกเชื่อว่าคนๆ นั้นเป็นฆาตกรก็บุกเข้าไปเจอเอง แล้วก็พูดคุยท้าทายกับคนนั้นเองตามลำพัง โดยไม่คิดเลยหรือว่าอาจจะถูกฆ่าเองก็ได้ หรืออย่างการเข้าไปสืบในรังของพวกค้ายาเสพติดจนดูทุ่มเทเสี่ยงเกินตัวมากไป ซึ่งเรื่องทำฉากพวกนี้บ่อยครั้งให้นางเอกเสี่ยงภัย แต่ก็รอดมาได้แบบง่ายๆ หลายครั้งดูไม่สมเหตุผล อย่างตอนจบที่เรื่องจบลงแบบง่ายๆ โดยที่คนร้ายก็แทบไม่มีบทบาทอะไรเลย ทำให้เรื่องแทบไม่มีจุดพีคให้รู้สึกได้เลย แม้ว่าบางช่วงเรื่องสามารถพลิกเหตุการณ์หักมุมได้ค่อนข้างดีแล้ว แต่ก็ยังกลับมาจบแบบไม่ได้หักมุมทำให้เรื่องดูง่ายๆ ขึ้นไปอีก

สิ่งที่ดีจริงๆ ของเรื่องคือการได้ดูพัฒนาการของ Emma Myers มากกว่า บทในเรื่องนี้เธอต้องเป็นทั้งนักสืบวัยรุ่น นักเรียนดีเด่นที่ใครๆ ก็คาดหวัง ความรักครั้งแรกที่เข้ามาผ่านความใกล้ชิด และปัญหาครอบครัวที่เธอต้องแก้ไขอย่างการมีพ่อกับน้องชายเป็นคนผิวดำก็เป็นปมเล็กๆ ที่ซ่อนไว้ รวมถึงหนทางชีวิตต่อไปที่เธอต้องเลือกเองว่าจะเข้ามหาลัยเคมบริดจ์หรือไม่ ซึ่งเรื่องปูพื้นพัฒนาการตัวละครนี้ไว้ได้ดี ผู้ชมที่คาดหวังจะได้เห็นเธอในบทที่ไม่แฟนตาซีแบบ Wednesday ก็น่าจะชื่นชอบได้ไม่ยาก เพราะความน่ารักของเธอก็ไม่ลดน้อยถอยลงไปเลยและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นนิดๆ อีกด้วย

สรุป ซีรีส์ที่เน็ตฟลิกซ์ซื้อมาจากช่อง BBC เพื่อขายแฟนคลับ Emma Myers โดยเฉพาะ ซึ่งแฟนๆ ก็ต้องถูกใจกับบทของเธอที่มีความลึกหลากหลายมากขึ้น และยังเตรียมทำต่อได้อีกตามนิยายที่มีแล้ว 3 เล่ม แต่เนื้อเรื่องก็ยังคงเป็นแนวสืบสวนวัยรุ่นผจญภัยในเมืองเล็กๆ เท่านั้น โดยมีการเดินเรื่องที่สนุกเพลินๆ ทั่วไปไม่ได้โดดเด่นมาก มีจุดด้อยที่วางเรื่องให้นางเอกที่เป็นแค่เด็กสาววัยรุ่นลงพื้นที่สืบเสี่ยงมากโดยไม่สมเหตุผลเท่าไหร่  และก็ยังใช้วิธีผ่านมาได้แบบง่ายๆ ทุกครั้ง ทำให้เรื่องไม่พีคและปัญหานี้เป็นระยะๆ ตลอดเรื่องครับ

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่