playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Airplane Mode (Netflix) หนังรักน้ำเน่าเบาสมองจนกลวงโบ๋

Airplane Mode

สรุป

หนังรักดราม่าน้ำเน่าเบาสมองด้วยเรื่องราวสูตรสำเร็จตรงแน่วทื่อๆ ที่สุดเท่าที่เคยดูมาในเน็ตฟลิกซ์ แต่มองอีกมุมด้วยเรื่องราวน้ำเน่าทื่อๆ แบบนี้ก็อาจจะเป็นที่ถูกใจของคนดูแบบไม่คิดอะไรเลยก็ได้เหมือนกัน ซึ่งผู้เขียนก็ยอมรับว่าบางจุดหนังก็ดูกุ๊กกิ๊กน่ารักดีอยู่ แต่ว่าด้วยความที่รวมๆ แล้วไม่มีอะไรดีกว่านั้นอีก จึงไม่ไหวจะเคลียร์กับหนังรักแบบนี้เหมือนกัน แนะนำว่าข้ามเลยดีกว่าจะมาดูอะไรแบบนี้ครับ

Overall
4/10
4/10
Sending
User Review
5 (1 vote)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เรื่องเฟคๆ ของคนดังในโลกออนไลน์ที่หากินกับยอดไลค์จากผู้ติดตาม
  • นางเอกมีความน่าดึงดูดให้ดูเรื่องราวจนจบได้อยู่

Cons

  • ความทื่อเป็นเส้นตรงทั้งบทและการแสดงในเรื่อง
  • เนื้อเรื่องน้ำเน่าเชยๆ
  • ตัวละครไม่มีพัฒนาการใดๆ เลย

 

 

Airplane Mode เปิดโหมดรักพักสัญญาณ หนังดราม่าเลิฟคอมเมดี้จากบราซิล เรื่องราวของสาววัยรุ่นคนดังในโลกออนไลน์ ที่ชีวิตติดมือถือหนักจนขับรถชนรายวัน พ่อแม่ปวดหัวห้ามไม่ไหวเลยออกอุบายหลอกส่งตัวไปอยู่บ้านปู่ในชนบทที่ห่างไกลสัญญาณมือถือ ทำให้เธอค้นพบตัวตนใหม่ที่เป็นตัวเธอที่แท้ทรู!

 Airplane Mode (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่างหนัง Airplane Mode เปิดโหมดรักพักสัญญาณ

หนังรักสูตรสำเร็จในแบบสาวในเมืองได้ไปตกชะตากรรมลำบากในชนบท แล้วก็ได้พบรักกับหนุ่มบ้านนอก และชีวิตสงบสุขที่แท้จริง ซึ่งพล็อตน้ำเน่าแบบนี้มีบ้านเราก็มีบ่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะที่จริงถึงจะเน่ามากๆ แต่ถ้าทำให้มีรายละเอียดดีๆ ก็ชวนให้ประทับใจได้

แต่ขอบอกเลยว่าอย่าฝันว่าเรื่องนี้จะใกล้เคียงกับอะไรแบบนั้นได้แม้แต่นิดเดียว หนังมาแบบเส้นตรงแน่วไปเหมือนไม้บรรทัดไปซะทุกอย่าง ทั้งเรื่องราวและทุกคาแรกเตอร์มีด้านเดียวไร้มิติ+กลวงอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนบทแบบนี้มาได้ จนนี่น่าจะเป็นหนังรักที่อยู่อันดับบ๊วยๆ ที่สุดใน Netflix ที่ผู้เขียนเคยดูเลยก็ว่าได้ครับ

airplane-mode-larissa-manoelaหนังเปิดเรื่องราวแบบดูแล้วชวนกระอักกระอ่วนใจกับความไร้สมองของนางเอกตั้งแต่เริ่มนาทีแรกของเรื่อง ด้วยอาการบ้าโพสต์ทุกอย่าง พร้อมการแสดงที่ดูเฟคแบบตั้งใจให้สวยใสไร้สมอง จนเกินกว่าจะเชื่อได้ว่านางคือสาวผู้นำแฟชั่นคิดค้นการแต่งตัวแบบใหม่ๆ ให้เป็นเทรนด์ในโลกออนไลน์ แถมด้วยการเล่นมือถือขณะขับรถที่ชนแล้วชนอีกก็ยังถ่ายรูปแอ็กติ้งเหมือนเป็นเรื่องปกติลงโซเชียลไม่มีใครประณามหรือโดนตำรวจจับ ซึ่ง OK เข้าใจได้ว่าหนังไม่ได้เป็นแนวชีวิตจริง แค่ต้องการเสียดสีพวกเน็ตไอดอลทั้งหลายที่เสพติดยอด Like อย่างหนัก แต่ว่าการไปต่อด้วยเรื่องราวจริงจังต่อไปจากนี้นั่นแหละ ที่ทำให้รู้สึกว่า ตกลงหนังจะเลิกแนวเสียดสีเน็ตไอดอลเว่อร์ๆ แล้วกลายเป็นแนว Coming of Age วัยรุ่นค้นพบตัวเองจริงจังใช่ไหม?

พอหนังเดินเรื่องราวแบบเหมือนจะจริงจังกับชีวิตชนบทที่คุณปู่ของเธอเป็นพวกสันโดษ หนังกลับเดินหน้าด้วยเรื่องราวทื่อๆ แบบตื่นเช้ามาปู่สั่งให้มาช่วยงานซ่อมรถ วันแรกทำไรไม่เป็น ต่อมาอีกวันกลับสนุกชอบเลยซะงั้น แล้วเจอหนุ่มบ้านนอกก็ชอบเขาเลย ส่วนเจ้าหนุ่มก็ปิ๊งเธอแบบออกนอกหน้าทันที โอเครักแรกพบมันมีแหละ แต่ว่าเรื่องก่อนนี้ในเมืองคือเธอพึ่งแยกทางกับแฟนมานะเฮ้ย! แถมชีวิตขนาดที่ขาดมือถือไม่ได้แบบนั้น มาอยู่เพียงวันสองวันกลายเป็นคนปกติไม่มีลงแดงได้ทันที เหมือนหนังแค่จะหาเรื่องให้นางเอกมาอยู่ที่นี่เพื่อพบรักเท่านั้น ไม่ได้คิดจะไปลงรายละเอียดแก้ปัญหาการเสพติดมือถือของเธอเลย แถมดูเธอเองก็ไม่ได้มีพัฒนาการไปในทางที่เชื่อได้เลยว่ากลายเป็นมาพบตัวตนที่แท้ทรูได้ที่นี่ เพราะดูยังไงเธอก็ยังเป็นคนนิสัยแบบเดิมตั้งแต่ตอนแรกยันตอนจบเลยด้วยซ้ำ

หนังมาด้วยความทื่อเที่ยงตรงกับเรื่องราวมาก มากซะจนทำให้คนดูอาจจะรู้สึกว่าตัวเองโง่ที่เปิดดูหนังแบบนี้ได้แล้วไม่ปิดมันไปซะก่อน แต่โอเคไม่ใช่ว่าหนังจะดูเลวร้ายจนเกินไปนักหรอก อย่างน้อยสูตรน้ำเน่าที่ว่ามันก็ทำให้เราปลงตรงนี้ได้อยู่แล้วว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้ เราแค่หลงมาดูเอง แล้วก็ทำให้ดูเรื่องรักกุ๊กกิ๊กๆ ของนางเอกในเรื่องกับหนุ่มบ้านนอกเซอร์ๆ ก็น่ารักดีอยู่เหมือนกัน แบบนิ้วค่อยๆ แอบไปแตะหากันวัดใจอะไรแบนี้ ส่วนความรักกับคุณปู่ของเธอน่ะเหรอ คือบอกไม่ถูกมันเฟคกันทั้งคู่จนไม่รู้สึกถึงมิตรภาพต่างวัยได้จริงๆ แม้แต่กับพ่อแม่ของเธอด้วยก็เหมือนพ่อแม่ปลอมๆ มากกว่าจะเป็นคนที่ห่วงใยลูกสาวมากมายอะไรแบบนั้น

ที่จริงหนังมีส่วนที่อาจจะเรียกว่าดีอยู่ในตัวคือเรื่องราวของวงการแฟชั่น ที่สร้างภาพโดยใช้พวกเน็ตไดอลมาปั้นเฟคเรื่องราวสตอรี่ดราม่าให้คนติดตามเพื่อหวังยอดไลค์ยอดแชร์ ในขณะเดียวกันก็สอดแทรกการตลาดเสื้อผ้าลงไปในโพสต์เหล่านั้น ซึ่งส่วนนี้เป็นเรื่องจริงที่มีการเตี๊ยมกันทั่วโลกอยู่แล้วเหมือนวงการดาราบ้านเราที่อยู่ๆ จะรักหรือเตียงหักกับใครก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ขอแค่ให้เป็นข่าวดังมาก็พอ ซึ่งหนังก็ประชดเสียดสีออกมาได้แสบดี แต่ว่าดันใส่มาแค่ตอนแรกแล้วก็หายไปหลังจากที่นางเอกไปกบดานอยู่ชนบท ถ้าหนังมีการตัดสลับเรื่องเฟคดราม่าเหล่านี้กลับมาบ้าง เพราะมันเกี่ยวพันกับที่นางเอกทำงานอยู่กับวงการเหล่านี้โดยตรง เรื่องราวคงจะออกมามีแก่นสารหรือน่าสนใจอะไรกว่านี้

หนังเรื่องนี้ได้ดาราวัยรุ่นคนดังบราซิล Larissa Manoela มาเล่น โดยที่ชีวิตจริงเธอก็เข้าวงการตั้งแต่ 4 ขวบจากแมวมอง ปัจจุบันอายุ 19 ปี และก็มีคนติดตามมากมาย ซึ่งที่จริงน่าจะใช้ประสบการณ์จริงของเธอเป็นคาแรกเตอร์นี้น่าจะได้อะไรที่ดีกว่าไม่กลวงโบ๋แบบนี้ แต่ว่าด้วยความที่เป็นสาวตัวเล็กหน้าใจใหญ่เกินตัวก็ทำให้เป็นจุดเด่นในเรื่องที่ทำให้ดูแบบไม่ต้องสนใจเรื่องราวอะไรเลยได้เหมือนกัน

นี่เป็นหนังรักดราม่าน้ำเน่าเบาสมองด้วยเรื่องราวสูตรสำเร็จตรงแน่วทื่อๆ ที่สุดเท่าที่เคยดูมาใน Netlix จนแอบคิดเหมือนกันว่าทีมงาน Netflix ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาคัดหนังที่ได้ทุนไปทำ แต่มองอีกมุมด้วยเรื่องราวน้ำเน่าทื่อๆ แบบนี้ก็อาจจะเป็นที่ถูกใจของคนดูแบบไม่คิดอะไรเลยก็ได้เหมือนกัน ซึ่งผู้เขียนก็ยอมรับว่าบางจุดหนังก็ดูกุ๊กกิ๊กน่ารักดีอยู่ แต่ว่าด้วยความที่รวมๆ แล้วไม่มีอะไรดีกว่านั้นอีก จึงไม่ไหวจะเคลียร์กับหนังรักแบบนี้เหมือนกัน แนะนำว่าข้ามเลยดีกว่าจะมาดูอะไรแบบนี้ครับ


อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!