รีวิว Angel Flight ซีรีส์ญี่ปุ่นสายอาชีพที่ติดแพทเทิร์นจำเจมากไปหน่อย
Angel Flight
Summary
ซีรีส์ญี่ปุ่นทำลงสตรีมมิ่งที่ว่าด้วยเรื่องราวของบริษัทขนส่งศพกลับประเทศ บทกับงานโปรดักชั่นทำออกมาดี เน้นดราม่าเล่าเรื่องสวยๆ ขยี้ปมหนักๆ ในตอนจบเคสแต่ละตอน มีการไปถ่ายทำในต่างประเทศไม่ซ้ำกันในแต่ละตอน แต่น่าเสียดายที่ทุกตอนกลับเล่าด้วยแพทเทิร์นเดียวกันหมดจนดูซ้ำซากจำเจ แล้วตัวบทกับนักแสดงก็ยังติดให้เล่นโอเวอร์แอ็กติ้งเพื่อให้เรื่องดูตลก ซึ่งมันค่อนข้างขัดกับเรื่องราวที่จริงจัง จนทำให้โทนอารมณ์ของเรื่องดูไม่เข้มข้นอย่างที่ควรจะเป็น
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- เรื่องราวธุรกิจขนส่งศพกลับประเทศ
- ขยี้ปมดราม่าเรียกน้ำตาเยอะ
- งานโปรดักชั่นถ่ายทำหลายปะเทศ
- มีซับไทยครบ
Cons
- การดำเนินเรื่องเป็นแพทเทิร์นเหมือนกันทุกตอน
- ติดโอเวอร์แอ็กติ้งเพื่อตลกเยอะ
Angel Flight (แองเจิล ไฟลต์) ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวดราม่า 6 ตอนจบซีซั่นแรก ของ amazon prime video ร่วมกับ NHK เอ็นเตอร์ไพรส์ จากนิยาย “แองเจิล ไฟลต์ นักขนส่งศพระหว่างประเทศ” ของซาซา เรียวโกะ (สำนักพิมพ์ชูเอฉะ) ที่ “แองเจิล ฮาร์ส” บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการนำผู้เสียชีวิตในต่างประเทศกลับมาส่งครอบครัว นำโดยประธานแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดแกร่ง “อิซาวะ นามิ” ประธานใหญ่หน้าโหด “คาชิวากิ” เต็มไปด้วยพนักงานสุดแปลก พบกับเรื่องราวความรักระหว่างผู้จากไปกับครอบครัว ในละครแนวชีวิต ที่จะมาเรียกทั้งรอยยิ้มและน้ำตา
รีวิว Angel Flight
ซีรีส์ญี่ปุ่นที่เป็นผลงานสร้างลงสตรีมมิ่ง amazon prime video โดยเฉพาะ ซึ่งนานๆ มีทีไม่ได้มีบ่อย แม้แต่เน็ตฟลิกซ์ก็ยังน้อยมากเหมือนกัน แต่อาจจะเพราะว่าต้นสังกัดที่ทำเป็นค่ายทีวีใหญ่ของญีปุ่น NHK ทำให้ซีรีส์ชุดนี้ยังใช้รูปแบบการเล่าดำเนินเรื่องแบบละครลงทีวีแทบจะเป๊ะๆ แตกต่างไปจากผลงานสตรีมมิ่งของค่ายอื่นที่ผ่านมา อย่าง Naked Director กับ Alice in Borderland ของ Netflix หรือเร็วๆ นี้ก็ Gannibal ของดิสนีย์+ ซึ่งรูปแบบการถ่ายทำการเล่าเรื่องพวกนี้แปลกใหม่ ฉากติดเรตรุนแรงสูง แต่พอมาใน Prime เองกลับกลายเป็นซีรีส์ดราม่าเรียกน้ำตาจืดๆ ซึ่งใครที่เคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นแนวอาชีพมาก่อนก็คงรู้สึกได้ว่ามันจำเจเอามากๆ
แม้ประเด็นหลักของเรื่องแนวอาชีพนี้จะดูน่าสนใจ บริษัทรับจัดการดูแลขนส่งศพระหว่างประเทศ ซึ่งน่าจะมีคนรู้จักน้อยมาก แต่เป็นธุรกิจที่ต้องมีกันทุกประเทศแน่นอน เพราะมันมีค่าใช้จ่ายสูง และยังต้องการมืออาชีพเข้ามาดูแลตลอดการขนส่งเดินทางไปให้ถึงมือผู้ว่าจ้างให้เรียบร้อย รวมถึงการแต่งหน้าศพให้กลับมามีสภาพดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งโดยรวมตัวเรื่องทำให้เราได้เห็นขั้นตอนการส่งศพที่ละเอียดทุกจุด รวมถึงบอกเล่าหัวใจของงานนี้ให้เราฟังได้เป็นอย่างดี ฉากศพก็ทำได้สมจริง ทุกตอนก็มีเคสที่คนญี่ปุ่นไปตายที่ต่างประเทศ หรือคนต่างประเทศมาตายที่ญี่ปุ่น ซึ่งต้องไปถ่ายทำที่ประเทศนั้นจริง เป็นผลงานที่เรียกว่าลงทูนค่อนข้างสูงทีเดียวกับการใช้เคสแต่ละตอนต่างประเทศกันแบบนี้
แต่ไม่ว่าเคสทั้งหมดจะต่างประเทศกันทั้งหมด แต่แพทเทิร์นการเล่าเรื่องกลับซ้ำซากจำเจ โดยเริ่มจากมีเคสตายให้เห็นสั้นๆ ก่อนเดินทางไปขนส่งศพแล้วเจออุปสรรคดราม่าคั่นเล็กๆ ที่ทีมต้องช่วยให้ศพนี้กลับมาให้ได้ ก่อนที่จะมีฉากแต่งหน้าศพ แล้วก็ตามด้วยการขนส่งศพไปที่หมายพร้อมเปิดเรื่องราวดราม่าที่ซ่อนไว้เป็นชุดว่าผู้ตายไปตายที่นั่นได้ยังไง ไม่ใช่แบบที่เรารู้ในตอนต้นเรื่อง รวมถึงดราม่าผู้เกี่ยวข้องในตอนนั้นก็จะถูกขุดมาขยี้ต่อเนื่องกะให้ผู้ชมน้ำตาแตกให้ได้ ซึ่งจริงๆ มันก็ชวนซึ้งไม่น้อย เรียกว่าใครที่ออ่นไหวกับอะไรแบบนี้ก็คงได้ผล แต่ก็ต้องบอกว่าตัวซีรีส์ดันใช้ลำดับสูตรนี้เป๊ะๆ ทุกตอนไม่ต่างกันเลย แถมตอนที่ 4 5 เหมือนดีเทลเคสเดียวไม่พอลเยอัดมา 2 เคสต่อตอน ให้ทีมตัวเอกแยกทีมไปทำภาระกิจ แต่ก็เป็นการเล่าเรื่องแบบเดิมทั้งหมด
สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้มีจุดที่หลุดออกไปจากแพทเทิร์นมีอยู่บ้าง โดยเป็นเรื่องแทรกมานิดๆ ในแต่ละตอนของ ตัวเอกท่านประธานหญิงสุดแกร่ง นามิ มีปมลึกๆ ว่าเป็นแม่เลี้ยงลูก 2 ไร้พ่อ โดยไม่บอกว่าทำไม ก่อนมาเปิดปมไว้ในตอนจบเพื่อไปต่อซีซั่น 2 แบบงงๆ กับอีกปมคือตัวริงโกะ พนักงานสาวหน้าใหม่มีปัญหาบางอย่างกับแม่แบบที่คลุมเครือว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหินห่างเหมือนไม่ลงรอยกัน ซึ่งในซีซั่นแกจะเคลียร์เรื่องราวของริงโกะหมดในตอน 6 พร้อมพัฒนาการของตัวละครจากที่แรกๆ รู้สึกไม่ดีกับบริษัทนี้ กลายมาเป็นคนที่ผูกพันเข้ากับงานที่ลึกซึ้ง
และไม่รู้ว่าทำไมซีรีส์ญี่ปุ่นถึงสลัดความโอเวอร์แอ้กติ้งออกไปยากมาก อย่าง Gannibal ของดิสนีย์+ นี่แทบไม่มีแล้ว แต่เรื่องนี้คือตัวละครทุกตัวยังถูกเขียนบทกำกับให้ติดโอเวอร์แอ้กติ้งมันกับทุกอย่าง ส่วนใหญ่จะเป็นแนวตลกโอเวอร์กับท่าทางเหวอๆ ของตัวละครตามสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งบางครั้งมันก็ฮาดี แต่ด้วยเนื้อหาที่หนักแน่นแบบนี้บางทีมันก็ไม่ได้จำเป็นเลย แถมยังทำให้อารมณ์ของเรื่องดูขึ้นๆ ลงๆ แปลกๆ ไปอีก
แต่โดยรวมนี่ก็เป็นซีรีส์ที่ถูกสร้างมาอย่างมีคุณภาพทางด้านบท โปรดักชั่นการถ่ายทำทุกอย่างออกมาดี เพียงแค่มันไม่ได้แปลกใหม่ไปจากซีรีส์แนวอาชีพที่ญี่ปุ่นนิยมทำเป็นประจำอยู่แล้วครับ