รีวิว Aranyak ป่าคลั่ง ซีรีส์สืบสวนอินเดียที่ผูกโยงตำนานท้องถิ่นเข้ากับการเมืองผู้มีอิทธิพล

Aranyak ป่าคลั่ง ซีรีส์สืบสวนอินเดียของ Netflix 8 ตอนจบซีซั่น 1 เรื่องราวการสืบสวนคดีฆาตกรรมเด็กสาวในป่า ที่โยงใยไปถึงตำนานเก่าแก่ของหมู่บ้าน โดยมีอิทธิพลการเมืองคอยซ่อนเร้นปกปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองห่างไกลติดชายแดนเนปาล

ตัวอย่าง Aranyak ป่าคลั่ง

ซีรีส์สืบสวนโปรดักชั่นค่อนข้างสูงของ Netflix อินเดียที่ไม่มีมานาน มาคราวนี้เป็นแนวสืบสวนคดีฆาตกรรมที่อิงกับตำนานเรื่องเล่าเหนือธรรมชาติสไตล์เอเชีย จากการปรากฎตัวของอสุรกายในตำนาน “มนุษย์เสือดาว” ที่ออกจากป่ามาฆ่าข่มขืนเด็กสาวแล้วแขวนคอบนต้นไม้ จนเป็นที่หวาดหวั่นไปทั่วของเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ แห่งนี้

เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็น 3 ตัวละครหลัก สารวัตรกัสตุริ สารวัตรอังคาด  และอดีตนายตำรวจใหญ่มหาเทพ โดยกัสตุริคือตัวเอกหลักสำคัญสุดของเรื่อง เป็นสารวัตรหญิงที่กำลังขอพักงาน 1 ปีเพื่อไปช่วยดูแลครอบครัว แต่กลับต้องมาเจอคดีฆาตกรรมสำคัญที่เธอเฝ้ารอมาตลอดในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้วันลาวันสุดท้ายของเธอกลับเป็นการกลับมาทำงานต่อไป โดยมีความขัดแย้งกับสารวัตรอังคาดที่ถูกย้ายมาแทนที่เธอในช่วง 1 ปีนี้ ซึ่งตัวอังคาดเองก็มีเรื่องราวเกริ่นนำว่าลูกชายถูกลักพาตัวไป 7 ปีก่อนโดยชายใส่หน้ากากเสือ ซึ่งเรื่องราวตรงนี้จะมีส่วนเกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรมจากตำนานมนุษย์เสือดาวที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนคนสุดท้ายอดีตนายตำรวจใหญ่มหาเทพ เขาเป็นพ่อตาของกัสตุริเอง เป็นคนที่ความจำเลอะเลือนจากโรคชรา แต่ว่าเขามีความหลังฝังใจกับคดีมนุษย์เสือดาวที่ฆ่าเด็กสาว 9 ศพแล้วแขวนคอบนต้นไม้ ทุกศพมีรอยแผลกรงเล็บขนาดใหญ่ที่คอ ซึ่งคดีนี้เองเป็นจุดเริ่มตำนานที่ร่ำลือกันในเมืองแห่งนี้ว่ามนุษย์เสือดาวออกมาล่าเหยื่อในวันจันทรุปราคา ซึ่งเป็นคดีที่เขาปิดไม่ลงและทำให้ไม่อาจไปต่อในตำแหน่งที่สูงกว่านี้ นอกจากนี้เขาเองยังเป็นเหยื่อที่โดนกรงเล็บกรีดคอแต่ไม่ตายด้วย การที่คดีฆาตกรรมรูปแบบเดียวกันกลับมาทำให้เขาไล่ตามสืบหาเพียงลำพังเพื่อหาตัวตนของมันให้ได้ แม้ว่าจะเป็นอสุรกายตัวจริงก็ตาม

รูปแบบการเดินเรื่องก็ตามแนวสืบสวนทั่วไป ตัวเรื่องทิ้งปมไว้หลายอย่างมากมายในตอนแรก ทั้งจาก 3 ตัวละครหลัก และตัวละครเสริมเรื่องที่มีมากมายหลายคนจริงๆ ยิ่งด้วยชื่อตัวละครในเรื่องเป็นอินเดียด้วย ทำให้การจดจำตัวละครเหล่านี้ยิ่งยากไปใหญ่ แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้การรับชมงงมาก คือไม่ต้องสนใจจดจำชื่อก็ได้ เพราะหลักๆ คือการเดินเรื่องของ 3 ตัวละครนั้นเป็นเส้นเรื่องสำคัญ ตัวละครอื่นเพียงแค่ปูให้เรื่องราวแตกทิศทางออกไป เป็นซีรีส์สืบสวนที่เน้นการขยายวงเรื่องราวให้แตกแขนงซับซ้อนมาก เป็นทั้งแนวการเมือง มาเฟียผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด ความรักต้องห้าม ชีวิตวัยรุ่น ซึ่งต้องบอกว่ากว่าจะเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดผูกโยงเกี่ยวข้องกันยังไงก็ปาไปตอน 7-8 แล้ว และหลายเรื่องที่ปูไว้ในซีซั่นนี้ก็ยังไม่ถูกเฉลยออกมาทั้งหมดด้วย อย่างเรื่องราวลูกชาย สารวัตรอังคาดต้องไปต่อซีซั่น 2 หรือตำนานมนุษย์เสือดาวที่เป็นคีย์หลักของเรื่องก็ยังไม่จบหมดในทีเดียวมีต่ออีก ตรงนี้นับว่าเป็นจุดด้อยของเรื่องเลยก็ได้ เพราะการที่พยายามเอาเนื้อเรื่องที่ยังไม่เฉลยมาใส่ไว้ในซีซั่นแรกเป็นระยะๆ ทำให้คนดูเข้าใจว่าฉากนั้นต้องเกี่ยวกับคดีหลักในภาคนี้ แต่กลับกลายเป็นตัวหลอกไปในภายหลังจนรู้สึกเฟลๆ กับอะไรแบบนี้พอสมควร

แต่ถ้าตัดเรื่องตัวหลอกเหล่านั้นไป ในเส้นเรื่องมนุษย์เสือดาวจริงๆ ถือว่าทำได้น่าติดตาม จากการที่คดีแรกค่อนข้างโหดร้ายมาก ตัวซีรีส์เองก็ไม่มีการเซ็นเซอร์อะไรด้วยกับศพเด็กสาวถูกแขวนคอห้อยกลางป่า ต่อมายังมีคดีพิสดารที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกลางวันแสกๆ อีกด้วย เรื่องราวดำเนินไปแบบกึ่งๆ เหนือธรรมชาติโดยมีเสือดาวสีดำปรากฎตัวออกมาเป็นระยะๆ เชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ให้คนดูฉงนสงสัยว่าสุดท้ายแล้วคดีฆาตกรรมในเรื่องมาจากฝีมือมนุษย์หรืออสุกรกายในตำนานกันแน่ ซึ่ง CG เสือดำที่ออกมาในเรื่องถือว่าค่อนข้างเนียนใช้ได้เลยไม่หลอกตาจนน่าเกลียด

ในเรื่องยังมีเส้นเรื่องความรักอยู่จางๆ ระหว่างตัวนางเอกกัสตุริกับอังคาด โดยครอบครัวตัวนางเอกเองมีปัญหากับสามีมาตลอด จากการที่เธอทุ่มเทให้กับงานมากกว่าครอบครัว ซึ่งการเข้ามาสืบสวนทำคดีร่วมกันของอังคาดที่เป็นพ่อหม้ายหย่าร้าง ลูกชายก็หายตัวไป ทำให้เธอเริ่มมีใจให้เขา ซึ่งอังคาดเองก็เริ่มรู้สึกถึงตรงนี้เช่นเดียวกัน ทั้งๆ คู่เลยกลายเป็นคู่หูที่เริ่มทำงานเข้าขาพึ่งพิงปกป้องกันและกันมากขึ้น แต่ในเรื่องก็ไม่ได้ล้ำเส้นทางศีลธรรม เพราะตัวสามีของนางเอกเองก็ยังอยู่และมีปมในใจกับปัญหาครอบครัวนี้ ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับคดีหลักอีกด้วย

ตัวซีรีส์จบเคลียร์ในเรื่องคดีหลักมนุษย์เสือดาวกับคดีย่อยอื่นๆ ทั้งหมด แต่ก็มีเปิดปมใหม่ต่อกันทันที ซึ่งก็ไปไกลในแนวเหนือธรรมชาติมากกว่าซีซั่นแรกเข้าไปอีก คาดว่าซีรีส์น่าจะได้ไปต่อ เพราะยอดผู้รับชมของอินเดียถือว่าสูงมาก ซึ่งใครที่สนใจแนวสืบสวนแปลกแตกต่างจากตะวันตกก็แนะนำว่าดูได้โอเคเลยครับ

ติดตามรีวิวหนังอินเดีย Netflix เรื่องอื่นได้ที่นี่