รีวิว ATLAS (Netflix) หนังแอ็กชั่นไซไฟ AI ที่บทเชยสะบัดมาก (ไม่สปอยล์)
ATLAS
Summary
หนังแอ็กชั่นไซไฟทุนสูงของ Netflix ที่มีดีแค่ CG หุ่นเพียงอย่างเดียว นอกนั้นคือแย่มาก ตั้งแต่บทที่เชยทุกอย่างตั้งแต่พล็อตไปจนถึงการปมความลับหรือแนวคิดตัวร้าย ฉากแอ็กชั่นที่ไม่มีอะไรใหม่ๆ ขายเลยนอกจากหุ่นวิ่งไล่ชนกี้กี้แอนดรอยด์โง่ๆ คาแรกเตอร์นางเอกก็น่ารำคาญมากถึงมากที่สุด ตัวร้ายก็ขัดตากับความพยายามเล่นให้เหมือนหุ่นจนไม่เป็นธรรมชาติ โดยรวมคือผ่านได้เลย แต่เชื่อว่าผู้ชมก็คงดูแล้วรับได้เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ Netflix เข็นผลงานทุนสูงแย่ๆ แบบนี้ออกมาครับ
Overall
5/10User Review
( votes)Pros
- หนังแอ็กชั่นไซไฟทุนสูงของ Netflix
- CG หุ่นที่ดี
- มีพากย์ไทย
Cons
- เนื้อเรื่องแนว AI โหลๆ
- ศัตรูมีแต่พวกง่อยๆ
- บทนางเอกน่ารำคาญมาก
- ฉากแอ็กชั่นจืดชืด
ATLAS ภาพยนตร์แอ็กชั่นไซไฟ Original Netflix เรื่องราวของ แอตลาส เชพเพิร์ด (เจนนิเฟอร์ โลเปซ) นักวิเคราะห์ข้อมูลที่เข้าร่วมภารกิจในการจับหุ่น AI ตัวร้ายที่ทำลายโลกแล้วหนีไปยังดวงดาวอื่น โดยต้องเชื่อมต่อประสานร่วมมือกับ AI ในหุ่นยนต์ยักษ์ที่เธอขับขี่อยู่ แต่เธอมีไม่สามารถทำมันได้จากอดีตอันเลวร้ายที่เธอปกปิดไว้
รีวิว ATLAS (ไม่สปอยล์)
หนังแอ็กชั่นไซไฟทุนสูงระดับ 100 ล้านของ Netflix ซึ่งก็ยังหนีไม่พ้นกับปัญหาเดิมๆ เมื่อหนังตั้งใจขายหลักๆ คือดารานำอย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ มาชูโรงขับหุ่นยักษ์ที่ดูแล้วก็เหมือนหุ่นใน Avatar หรือเกม Titanfall ซึ่งมันไม่เวิร์คตั้งแต่ไอเดียคอนเซ็ปต์ที่เชยมากแล้วกับแนวนี้ โดยตัวบทเธอก็ไม่ได้เป็นทหารขับหุ่น แต่เป็นนักวิเคราะห์ที่เกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าทำให้เธอมาติดในหุ่น บนดาวที่ต้องพึ่งหุ่นเดินทางเพราะไม่มีอากาศให้มนุษย์หายใจ เธอไม่มีทักษะการขับหุ่นอะไรทั้งสิ้น ฉากแอ็กชั่นในเรื่องจึงเป็นฉากลุยตามมีตามเกิด วิ่งชนลุยให้ดูเหมือนแอ็กชั่นผ่านๆ ไปเท่านั้น ฝ่ายศัตรูเองก็ง่อยเพราะดันเป็นแค่หุ่นแอนดรอยด์แบบมนุษย์ถือปืนสู้ ซึ่งมันสู้ไม่ได้ด้วยกายภาพอยู่แล้ว ทั้งเรื่องเลยเป็นหุ่นยักษ์วิ่งไล่ฟาดหุ่นพวกนี้แบบดูแล้วโง่ซ้ำซากมากๆ ซึ่งขัดกับพล็อตเรื่องว่าหุ่นพวกนี้ฉลาดกว่ามนุษย์ แต่ไม่ได้สร้างอะไรที่ดูแล้วฉลาดกว่าให้เห็นเลย แถมยังต้องมาพึ่งอาวุธจากมนุษย์ไปใช้อีก
ส่วนพล็อตเรื่องหุ่น AI ล้างโลกก็มาแบบเทอมิเนตอร์ที่ไม่ได้มีความสดใหม่หรือทำได้ดีกว่าเลย เรื่องพยายามซ่อนปมว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมหุ่นถึงปลดล็อคคำสั่งโจมตีคนได้ โดยใช้การเดินเรื่องของตัวนางเอกที่ต้องเชื่อมต่อประสานกับ AI ในหุ่น แต่นางเอกไม่ยอมรับสิ่งนี้เพราะไม่ไว้ใจ AI แต่ความลับที่เรื่องซ่อนไว้นั้นก็ทำได้แค่หักมุมนิดๆ ไม่ได้สมเหตุผลเลยเมื่อเทียบกับเทอมิเนเตอร์ที่วางโครงเรื่องสกายเน็ตไว้ลึกกว่า นอกจากนั้นแล้วยังทำให้คาแรกเตอร์ของนางเอกดูแล้วน่ารำคาญออกแนวงี่เง่าอยู่ตลอดเรื่องจากการซ่อนปมความลับนี้ไว้ด้วยครับ
ตัว Simu Liu เองที่มาเป็นวายร้ายหุ่น AI ในเรื่องก็แย่จากบทที่ไร้มิติ ไม่มีความสดใหม่ เรื่องก็ยังเดินไปแบบแพทเทิร์นเดิมๆ AI มองว่ามนุษย์คือภัยคุกคามโลก ก็เลยปลดล็อกหุ่นตัวอื่นขึ้นมาฆ่าล้างบางมนุษย์ ซึ่งแม้เรื่องตอนต้นเล่าแล้วสคิปเวลาข้ามไป 28 ปีว่าตัวร้ายหนีไปนอกโลกแล้ว แต่ตอนกลับมาก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังใช้พล็อตวิธีการเดิมๆ ทำลายโลกแบบที่เชยไปแล้ว และด้วยคาแรกเตอร์ที่พยายามเล่นให้เหมือนเป็นหุ่นในยุคสมัยที่ล้ำขนาดนั้นก็ยิ่งดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูแล้วขัดตาทุกครั้ง (ถ้าเทียบหุ่นแอนดรอยด์กับเรื่องอื่นๆ จะเห็นเลยว่ามันไปทางสมจริงจนแยกไม่ออกหมดแล้ว)
CG หุ่นคือสิ่งเดียวที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้ ซึ่งหุ่นในเรื่องถือว่าทำได้ดี ลื่นไหล แต่ถ้าเทียบกับ Avatar ก็ยังห่างไกลเยอะในเรื่องดีเทลรายละเอียด และการใช้โลเกชั่นต่างดาวในเรื่องก็โชว์ออกมาน้อยมากจนแทบจะไม่รู้สึกว่าไม่ได้อยู่บนโลกเลย มีแค่ดอกไม้ต่างดาวที่นางเอกไปเจอแล้วตั้งชื่อไว้เท่านั้นที่เรื่องโฟกัสไว้นิดๆ เชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ของ AI เพื่อทิ้งเรื่องไว้ในตอนจบ แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ปรัชญาเรื่องจิตวิญญาณที่เรื่องพยายามเกริ่นทิ้งไว้กับ AI เลย (AI เชื่อว่ามีจิตวิญญาณแม้ตายไป ต่างกับนางเอกที่ไม่เชื่อ)
สรุป หนังแอ็กชั่นไซไฟทุนสูงของ Netflix ที่มีดีแค่ CG หุ่นเพียงอย่างเดียว นอกนั้นคือแย่มาก ตั้งแต่บทที่เชยทุกอย่างตั้งแต่พล็อตไปจนถึงการปมความลับหรือแนวคิดตัวร้าย ฉากแอ็กชั่นที่ไม่มีอะไรใหม่ๆ ขายเลยนอกจากหุ่นวิ่งไล่ชนกี้กี้แอนดรอยด์โง่ๆ คาแรกเตอร์นางเอกก็น่ารำคาญมากถึงมากที่สุด ตัวร้ายก็ขัดตากับความพยายามเล่นให้เหมือนหุ่นจนไม่เป็นธรรมชาติ โดยรวมคือผ่านได้เลย แต่เชื่อว่าผู้ชมก็คงดูแล้วรับได้เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ Netflix เข็นผลงานทุนสูงแย่ๆ แบบนี้ออกมาครับ