รีวิว Back Street Girls: Gokudols หนังที่สร้างจากอนิเมะสุดกาว แต่ไม่ฉาวเท่าต้นฉบับ

รีวิว Back Street Girls Gokudols ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย หนังที่สร้างจากอนิเมะสุดกาว (รับชมได้ทาง Netflix ที่นี่) ว่าด้วยเรื่องราวของ 3 หนุ่มยากูซ่าที่ถูกหัวหน้าแก๊งลงโทษโดยการจับไปแปลงเพศเป็นสาวน้อยน่ารัก เพื่อนำมาตั้งเป็นวงไอดอลชื่อ “โกคุดอลล์” (Gokudols) แล้วดันฮิตแจ้งเกิดในวงการได้ซะด้วยสิ ซึ่งในรีวิวจะเทียบหนังกับอนิเมะไปพร้อมกันนะครับ

หนังเป็นแนว Live Action สร้างถอดแบบมาจากอนิเมะได้ดีทีเดียว แต่การเดินเรื่องต่างกัน ในอนิเมะจะเป็นตอนสั้นๆ ไม่เกี่ยวข้องกัน โดยเป็นภารกิจไอดอลในในแต่ละวัน มาเล่นมุกเสียดสีก่อนตัดจบสั้นๆ รวบรัดทุกตอน ส่วนหนังจะมีตัวเรื่องหลัก มีเส้นเรื่อง มีบอสของเรื่อง เป็นภารกิจยาวไปจนจบ ความเจ๋งของเรื่องนี้คือมันกาวได้ใจจริงๆ ครับ เนื้อเรื่องเป็นการเสียดสีเล่นมุกแรงๆ ล้อไปกับเทรนด์ไอดอลทุกรูปแบบ ถ้าใครที่เป็นโอตะดูเรื่องนี้อาจจะขำๆ เข้าใจมุกเยอะอยู่ แต่ก็อาจจะแอบมีเดือดปุดๆ ถึงมุกสัปดนล้อเลียนโหดๆ ในเรื่องได้เหมือนกัน ที่หน้าฉากไอดอลต้องเหมือนนางฟ้าตลอดเวลา สะอาดทั้งตัวทั้งหัวใจเปอร์เฟ็กซ์สมบูรณ์แบบ แต่หลังฉากตัวเอกทั้ง 3 คนก็ปล่อยตัวสุดๆ ไม่มีเหลือไว้ซึ่งภาพลักษณ์นางฟ้าบนเวทีไว้เลย ซึ่งผู้สร้างเรื่องนี้ก็ตั้งใจจิกกัดธุรกิจไอดอล โอตะ รวมถึงตัวไอดอลตรงๆ แค่ใช้แบ็คกราวด์ตัวเอกยากูซ่ามาบังหน้าไว้ หลายคนอาจจะคิดว่าพล็อตมันดูหลุดโลก แต่ที่จริงแล้ววงการยากูซ่าก็หันมาจับธุรกิจหลายอย่างที่ทำกำไรงาม (อย่างตอนนี้ก็หันมาเปิดร้านชาไข่มุกในญี่ปุ่นกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน) ซึ่งการที่ยากูซ่าจะหันไปสนใจธุรกิจไอดอลก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะวงไอดอลในญี่ปุ่นมีเกลื่อนกลาดมาก ขนาดที่จัดเป็นงาน EXPO IDOL ได้เลยทีเดียว ซึ่งเรื่องราวในหนังจะใช้ตรงนี้เป็นการเดินเรื่องหลัก ตัวเอกทั้ง 3 คนได้ไปเกี่ยวพันกับงานไอดอลซัมมิทที่เบื้องหลังถูกจัดโดยแก๊งอาชญากรรมล่อลวงหญิงสาวมาบำเรอ ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 3 ก็เป็นเหยื่อที่ถูกหลอกมาด้วยเช่นกัน และก็ต้องทำลายแก๊งนี้เพื่อช่วยให้เหล่าไอดอลในวงการได้เป็นอิสระ

ด้วยความที่ Back Street Girls Gokudols ฉบับหนังต้องมีเมนเรื่องหลักยาวๆ การดัดแปลงเรื่องนี้จากอนิเมะจึงลำบากพอควร จากต้นฉบับตอนสั้นๆ ดูแปบๆ จบ ตบมุกฮาอย่างไว (ในเน็ตฟลิกซ์มีทั้งหมด 58 ตอน แต่แบ่งซอยเป็น 10 พาร์ท พาร์ทละ 24 นาที) แต่พอมาเป็นหนังที่ต้องมีสตอรี่ยาวต่อเนื่องหากันในแต่ละซีน ก็เลยต้องจับมุกในหลายๆ ตอนมายิงใส่ในหนังต่อๆ กันให้เป็นเรื่องราวแทน ซึ่งกว่าจะเข้าเรื่องหลักไอดอลซัมมิทก็ปาไปจนถึงช่วงครึ่งหลังหนังแล้ว ซึ่งตรงนี้ถูกเพิ่มเข้ามาให้ดูจริงจังกว่าการ์ตูนแก๊ก จนกลายมาเป็นหนังไอดอลสู้เพื่อไขว่คว้าหาความฝันเต็มตัว ซึ่งก็ถือว่าหลุดโทนไปจากอนิเมะพอสมควร ที่ตัวเอกทั้ง 3 ไม่ได้มีกระจิตกระใจอยากเป็นไอดอลตัวจริงเลยจนจบ แต่ในหนังทั้ง 3 ได้กลายเป็นไอดอลจากใจได้อย่างหน้าตาเฉย! แม้เรื่องจะถูกปรับไปแบบนี้ก็ยังดูแล้วสนุกอยู่ แต่ก็รู้สึกว่าหนังตั้งใจทำให้โลกของไอดอลดูสวยงามเกินจริง ผิดกับในอนิเมะที่เป็นการตั้งใจจิกกัดได้อย่างแสบสัน โดยอ้างอิงจากกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ ที่วงการไอดอลคิดมาเพื่อทำเงินทำทองกับแฟนๆ โดยเฉพาะ ซึ่งนี่เป็นจุดขายหลักของเรื่องนี้ คิดว่าทางผู้สร้างคงเลือกเพลย์เซฟไว้ก่อน เพราะถ้าเล่นหนักแบบในอนิเมะคงติดเรตและดูจะทำร้ายน้ำใจวงการไอดอลไปสักหน่อย (อย่างมุกอ้าขาโชว์กางเกงในพร่ำเพรื่อ) ซึ่งนั่นทำให้หนังดูซอฟท์ลงจนเหลือแค่มุกตลกผิวๆ เท่านั้น แม้จะยังตลกอยู่ แต่ก็เทียบกับความกาวสุดๆ ของอนิเมะไม่ได้จริงๆ

ส่วนของนักแสดง หนังให้บททั้ง 3 ในแบบยากูซ่าชายและในบทสาวน้อยไอดอล 3 คน สลับกันออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจได้ดี เฉลี่ยกันออกมาไม่มีใครถูกลืม รวมถึงเปิดซีนบู๊หนักให้นักแสดงชายและนักแสดงหญิงเต็มๆ เท่ากันอีกด้วย (แม้ฝ่ายหญิงจะดูบู้ง่อยๆ ไปหน่อยก็ตาม) นักแสดงที่เล่นเป็นไอดอลทั้ง 3 คนก็แสดงความเป็นยากูซ่าแบบหลุดๆ ออกมาได้ดีทั้งหน้าตาและท่าทางแบบฉบับอนิเมะเหมือนกันครับ

Back Street Girls Gukudols หนังทำออกมาสนุกลื่นไหลไปจนจบ ดูได้ไม่เสียดายเวลา แต่สำหรับคนที่ดูอนิเมะมาคงรู้สึกว่าหนังตั้งใจหลบเลี่ยงขยี้มุกไอดอลน้อยเกินไป ซึ่งถ้าใครดูหนังมาก่อน แนะนำว่าควรดูอนิเมะต่อด้วยจะได้ความสนุกแบบหลุดโลกเต็มๆ มากกว่า รับรองว่านี่เป็นอนิเมะที่แปลกแหวกแนวจนคุณต้องจดจำไว้ตลอดกาลแน่นอนครับ

รีิวิวหนัง Back Street Girls Gokudols ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย

ดูรีวิวหนังเรื่องอื่นได้ที่นี่