รีวิว Bank Under Siege (Netflix) การปล้นธนาคารสเปนที่ซับซ้อนอิงประวัติศาสตร์จริงผสมทฤษฎีสมคบคิด

Bank Under Siege ปล้นสะเทือนเมือง ลิมิเต็ดซีรีส์สเปน 5 ตอนจบ สร้างจากเรื่องจริงของการปล้นธนาคารครั้งใหญ่สุดของสเปน โดยจับตัวประกันนับร้อยคนไว้พร้อมข้อแลกเปลี่ยนทางการเมืองช่วยคณะรัฐประหารที่พึ่งล้มเหลวไป แต่ในแผนการนี้มีความจริงลวงอยู่อีกหลายชั้น

รีวิว Bank Under Siege ปล้นสะเทือนเมือง

ซีรีส์แนวปล้นธนาคารที่สร้างจากเรื่องจริงนี้มีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อยู่ด้วยจริงๆ แต่ไม่ได้เป็นที่ยืนยันได้ทั้งหมด เรียกว่าเป็นการนำเสนอทฤษฎีสมคบคิดให้ออกมาเป็นซีรีส์ดูสนุกๆ มากกว่า โดยเรื่องราวนำเสนอการบุกเข้าปล้นของกลุ่มคนบ้านๆ ยึดธนาคารไว้พร้อมเงินมหาศาลกับตัวประกันนับร้อย แต่กลับเสนอข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษที่ก่อคดีกบฎรัฐประหารรัฐบาลประชาธิปไตยที่พึ่งล้มเผด็จการลงได้ ทำให้คดีนี้ใหญ่โตเกินกว่าแค่การปล้นธนาคารปกติไปมากจนถึงขั้นถ้ารัฐทำผิดพลาดก็ล้มครืนลงได้ทันที

ตัวเรื่องเล่าแบบรวดเร็วเพราะซีรีส์มีเพียงแค่ 5 ตอน เวลาในตอนก็ 30-40 นาทีเท่านั้นเองด้วย โดยเรื่องช่วงแรกคือฉากการปล้นที่ทำให้เห็นว่าพวกโจรนี้มีระบบการทำงานที่มืออาชีพทั้งการเรียกชื่อกันเป็นตัวเลข การทำงานที่เตรียมอุปกรณ์ความพร้อมมาปล้นกันอย่างจริงจัง แต่กลับยื่นข้อเสนอปล่อยนักโทษทางการเมืองอย่างเด็ดขาดไม่งั้นจะฆ่าตัวประกันและระเบิดตึกทั้งหมด นั่นทำให้หัวหน้าตำรวจที่คุมคดีนี้สงสัยว่าข้อเรียกร้องนี้จริงหรือไม่ หรือแค่เป็นแผนการถ่วงเวลาการปล้นเพื่อหอบเงินหนีไป แต่สิ่งที่เขาสงสัยก็ขัดแย้งกับทางรัฐบาลเมื่อไม่อยากรับความเสี่ยงว่านี่เป็นการปล้นปกติและอาจจะทำให้รัฐบาลล้มได้ ตัวเรื่องจึงเป็นแนวสืบสวนว่าข้อสันนิษฐานของใครถูก โดยมีนักข่าวสาวกับช่างภาพเข้ามาเกี่ยวข้องในวงลึกกับเรื่องนี้โดยตรงอีก ซึ่งเรื่องก็นำเสนอนักข่าวนี้ให้เป็นตัวเอกหลักของเรื่องที่พยายามสืบค้นทุกวิถีทางเพื่อหาความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งซีรีส์ก็สับขาหลอกผู้ชมไปมาได้อย่างสนุกกับความจริงที่ค่อยๆ เผยออกมาพร้อมกับฉากการทำงานของโจรภายในธนาคาร โดยมีเรื่องการขัดแย้งของโจรด้วยกันเองและกับตัวประกันนำเป็นฉากแทรกคั่นเป็นระยะๆ โดยมีโจรเบอร์ 1 ที่เป็นหัวหน้าวางแผนการทั้งหมดมาเป็นตัวละครเอกสำคัญที่จะไขปริศนาของเรื่องนี้อีกที ซึ่งยอมรับเลยว่าเรื่องมันซับซ้อนกว่าแค่ที่เห็นในพล็อตตอนแรกมากมาย แต่ก็ต้องเข้าใจว่านี่น่าจะเป็นทฤษฎีสมคบคิดมากกว่า เพราะสุดท้ายเรื่องจริงตัวละครโจรเบอร์ 1 นี้ก็ไม่ได้เฉลยความลับนี้ออกมาให้ใครรู้จริงๆ อยู่ดีครับ แต่ซีรีส์ก็น่าจะโน้มน้าวให้คนเชื่อได้จริงๆ แล้วล่ะครับ

สิ่งที่อาจจะเป็นปัญหาในฐานะผู้ชมชาวไทยก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้ต้องอาศัยความเข้าใจประวัติศาสตร์สเปนค่อนข้างมากอยู่เหมือนกัน เพราะจุดเริ่มของเรื่องนี้คือการยกเอาคดี ความพยายามรัฐประหารในประเทศสเปน วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ปี 1981 มาใช้ด้วยบทพูดของตัวละครต่างๆ ว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับ 23 กุมภายังไง ซึ่งก็มีการยกชื่อตัวคณะรัฐประหารนั้นจริงๆ มาใช้หลายครั้งเป็นการโยงความสัมพันธ์ที่ดูจบผู้ชมที่ไม่รู้จักคดีนี้ก็คงยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องดีนัก นอกจากนี้ยังมีบทพูดถึงความเกี่ยวข้องของกษัตริย์สเปนที่มีส่วนช่วยให้การรัฐประหารนี้ไม่สำเร็จอยู่ด้วย (กษัตริย์สเปนออกสื่อทีวีประณามการรัฐประหาร) ซึ่งในเรื่องมีการโหนพระราชอำนาจกษัตริย์เข้ากับคดีในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องมันค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร เหมือนอยู่ๆ ไทยทำซีรีส์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาก็ไม่สามารถจะเล่าให้คนนอกประเทศหรือแม้แต่คนไทยด้วยกันเองเข้าใจได้ด้วยข้อเท็จจริงไปทั้งหมด เพราะการเมืองมันคือการชักใยซ่อนเร้นแสวงหาอำนาจกันโดยไม่เปิดตัวจริงกัน ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ก็ชี้เป้าผู้ร้ายตัวจริงของเรื่องไว้ แม้แต่การโยงไปถึงอเมริกาเลยด้วย แต่ก็จบแบบไม่มีหลักฐานให้เห็นชัด ยกเว้นสิ่งที่เรื่องเล่าไว้เท่านั้นครับ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงแค่ไหนเหมือนกัน

สรุป ซีรีส์จากสเปน 5 ตอนจบที่สร้างจากเรื่องจริงของกลุ่มโจรที่เข้าปล้นธนาคารและจับตัวประกันไว้นับร้อยพร้อมกับข้อเรียกร้องปล่อยตัวนักโทษรัฐประหาร โดยมีการยื่นคำขาดจะระเบิดตึกฆ่าตัวประกันทั้งหมด แต่ว่าเรื่องเล่าโดยเป็นแนวสืบสวนหาความจริงว่าสิ่งที่โจรต้องการนี้เป็นเรื่องจริงหรือแค่แผน โดยมีฉากภายในธนาคารเป็นเรื่องรอง ซึ่งเรื่องทำได้สนุกตื่นเต้นในมุมของตัวเอกนักข่าวสาวที่ไม่ยอมหยุดค้นหาความจริงแม้การปล้นจะจบลง แต่ก็ออกเป็นแนวทฤษฎีสมคบคิดผสมลงไปด้วยมากกว่าเรื่องจริงทั้งหมด เพราะสุดท้ายก็ไม่มีหลักฐานยืนยันได้ชัดในข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์ครับ ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องโดยอิงประวัติศาสตร์สเปนช่วงนี้เยอะแบบสั้นๆ ทั้งทหาร รัฐบาล กษัตริย์ ที่มีความสัมพันธ์กันทางอำนาจคนละแบบ ซึ่งผู้ชมชาวไทยก็อาจจะไม่เข้าใจในจุดนี้แม้จะดูจนจบครับ

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่