รีวิว Birds of Prey ทีมนกผู้ล่า การันตีความมันส์จากทีมงานคิวบู๊ John Wick
Birds of Prey
สรุป
นี่เป็นหนังที่สนุกตลอดเวลาที่รับชม แม้อาจจะผิดหวังที่หนังไม่ได้แรงตามเรต R หรือการโปรโมทมาก่อนหน้านี้ แต่ด้วยความลื่นไหลของเรื่อง การเล่าเรื่องฉลาดๆ ในมุมโลกอาชญากรรมกับคนจิตบิดเบี้ยวฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่ไม่เหมือนใครและก็ไม่มีใครมาเหมือนเธอได้ ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นมากจนไม่ผิดหวังเลยถ้าจะมาแค่ดูเธอก็ยังได้ แต่หนังทำได้ถึงมากกว่านั้นด้วยตัวละครสมทบอื่นๆ ที่ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน แถมด้วยฉากแอ็กชั่นโดดเด่นและลากยาวแทบจะกินเวลาในเรื่องเยอะมากจากทีมสร้าง John Wick ที่การันตีได้เลยว่าติดตาติดใจแน่นอนครับ
Overall
8/10User Review
( votes)Pros
- ได้เห็นพัฒนาการของฮาร์ลีย์ ควินน์ ในมุมมองใหม่
- ตัวละครในทีมมีคาแรกเตอร์โดดเด่นเป็นของตัวเอง
- ครีเอทฉากแอ็กชั่นได้ดี แถมอัดแน่นลากยาวจุใจ
- เนื้อเรื่องเป็นอิสระจาก DC เรื่องอื่น แต่ก็ยังรวมกลับเข้ากันได้
- เพลงประกอบเข้ากันดีกับทุกฉาก
- หมาไฮยีน่าออกน้อยแต่น่ารัก
Cons
- ตัวร้ายสองตัวในเรื่องไม่มีฉากแอ็กชั่นให้เล่น
- เนื้อเรื่องเบาไม่ลึกง่ายเกินไปในหลายจุด
- เรต R แต่ไม่ได้แรงมากมายอะไร
Birds of Prey รีวิว ทีมนกผู้ล่า กับฮาร์ลีย์ ควินน์ ผู้เริดเชิด หนังจากคอมิครวมตัวละครฮีโร่หญิงฝ่าย DC ที่พ่วงด้วยฮาร์ลีย์ ควินน์ เข้ามาอีกคน มามิกซ์ปั่นรวมกันจนกลายเป็นเส้นทางสายใหม่ของจักรวาล DC ต่อไปแบบอนาคตสดใสแน่นอน!
ตัวอย่าง+ซาวด์แทร็คหนัง Birds of Prey
Birds of Prey รีวิว
Birds of Prey เป็นชื่อของทีมฮีโร่หญิงของ DC ออกมาเป็นคอมิควางขายตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งก็มีตัวละคร Black Canary เป็นจุดเริ่มต้นก่อนจะขยายใหญ่โตในอนาคต (คลิกอ่านข้อมูลตัวละครเวอร์ชั่นคอมมิคได้ที่นี่) แต่ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้ได้ฮาร์ลีย์ ควินน์ มาเป็นตัวนำทีมแต่แรก ด้วยพลังแม่เหล็กของตัวละครสุดแซ่บถูกใจคนดูมาตั้งแต่ Suicide Squad กับพลังดาราของ Margot Robbie ที่เล่นได้แซ่บเหมาะกับบทเหลือร้าย ทำให้ทีมนกผู้ล่ากลายเป็นหนังที่โดดเด่นแตกแขนงโลกของ DC ออกมาได้เท่ๆ แล้วยังมีอิสระในการดำเนินเรื่องจากแนวทางใหม่ตามใจฉันได้อย่างเหลือร้ายจริงๆ
หนังเปิดเรื่องด้วยเสียงเล่าของฮาร์ลีย์ ควินน์ พร้อมกับจุดกำเนิดนิดหน่อยกันคนไม่รู้ เล่าด้วยภาพการ์ตูนที่มีโจ๊กเกอร์กับซีนสั้นๆ จาก Suicide Squad มาเกี่ยวข้องด้วยนิดหน่อย มาเต็มๆ ไม่ได้เพราะ Joker ที่แสดงโดย Jared Leto บ้ายบายย้ายค่ายไปมาร์เวลในหนังชื่อ Morbius ของโซนี่ (คลิกอ่านข้อมูลที่นี่) หลังจบเรื่องเล่าปูจุดกำเนิดก็มาเป็นช่วงเฮิร์ทของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่ตัวละครบอกเลยนี่มันเรื่องเล่าของฉัน ฉันจะเล่ายังไงก็ได้ โอเค๊! ทำให้ลำดับเนื้อเรื่องจากนี้จากนี้ไปไม่ได้เรียงตามสเต็บ แถมยังมีรีเวิร์สกรอย้อนกลับกวนๆ พร้อมกับจังหวะการเอาตัวรอดด้วยสกิล+ฟลุ๊คๆ ที่เธอหันหน้ามาคุยกับคนดูเลย แบบว่ามันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ ทำให้สตอรี่เรื่องเล่านี้มีสีสันแต่งแต้มเกินจริงได้ทุกเมื่อ ผสมกับลูกบ้าของตัวละครฮาร์ลีย์ ควินน์ที่อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ในเรื่องเล่าโลกของ Birds of Prey เรื่องนี้
หนังเล่าเรื่องช่วงเฮิร์ทของฮาร์ลีย์ ควินน์ พร้อมกับการเข้าไปเกี่ยวข้องกับตัวร้าย Roman Sionis หรือ Black Mask มาเฟียผู้มีอิทธิพลใหญ่ในก็อตแธมคนหนึ่ง (รับบทโดย Ewan McGregor) กับการตามหาเพชรก้อนโตที่ถูกเด็กสาวนักล้วง Cassandra Cain ฉกไป ซึ่งเพชรก้อนนี้กุมความลับของขุมทรัพย์มาเฟียในอดีตท แบบที่ใครได้ไปก็กลายเป็นผู้ทรงอำนาจได้ง่ายๆ ทำให้กลายเป็นการผจญภัยแบบร้ายๆ ต่อเนื่องไปเจอตัวละครอื่นๆ จนกลายมาเป็นจุดกำเนิดของทีมนกผู้ล่าที่เก๋ไก๋สไลเดอร์มากๆ
ด้วยความที่เรื่องนี้เล่าแบบตามใจฉัน ก็ทำให้โลกของหนัง DC เรื่องนี้มีสีสันแบบจะตัดฉากร้องเล่นเต้นเพลงตอนไหนก็ได้ ซึ่งเป็นการครีเอทสร้างแนวทางใหม่ให้กับตัวละครฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่ตอนนี้ปีกกล้าขาแข็งไม่ต้องมีโจ๊กเกอร์มาช่วยเติมเต็มเรื่องก็ไปได้ด้วยตัวเองล้วนๆ แน่นอนแล้ว แม้ว่าพล็อตเรื่องจะแทบไม่มีอะไรลึกๆ ใส่ไว้เลย หนังเลือกเดินเรื่องด้วยสตอรี่ง่ายๆ ไม่ได้เล่าตรงๆ มีรีเวิร์สย้อนไปมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวดูงงอะไรสักนิดเดียว แต่สีสันเรื่องเล่าระหว่างทางกลับชวนติดตามได้อย่างเริ่ดๆ เชิดๆ มีสไตล์แนวผู้หญิงอกหักพักใจหน่อยๆ พร้อมด้วยการเติบโตก้าวใหม่ของตัวละครฮาร์ลีย์ ควินน์ ขึ้นนิดๆ จากที่อะไรๆ ก็ต้องโจ๊กเกอร์ กลายมาเป็นมีเธอกับน้องหมาไฮยีน่าบรู๊ซ (ตั้งชื่อตามบรูซเวย์น) พร้อมน้องเด็กสาวสุดกวน Cassandra Cain ที่ไม่ได้มาเป็นตัวประกอบเล่นๆ แต่ยียวนกวนผู้ใหญ่พร้อมสกิลเอาตัวรอดเกินเด็ก ที่ตามคอมิคต่อไปเธอจะกลายเป็นแบทเกิร์ลอีกด้วย ทำให้การฟอร์มทีมใหม่ย่อยๆ นี้เป็นอะไรที่เข้าท่าและน่าติดตามต่อไปมากๆ หรือไม่ได้ทำต่อก็ไม่ได้ค้างคาอะไรอีกด้วย เพราะหนังก็จบในตัวได้อย่างสวยงามในเรื่องราวสั้นๆ นี้เช่นกัน
โดดเด่นด้วยฉากแอ็กชั่นจากทีมงาน John Wick
นอกจากเรื่องเล่าที๋โดดเด่นมีสไตล์แล้ว หนังยังมีฉากแอ็กชั่นคิวบู๊ที่สวยงามเท่และสตรองสไตล์หญิง จากฝีมือของทีม 87Eleven Action Design ที่ก่อตั้งโดย Chad Stahelski ผู้กำกับ John Wick ทั้ง 3 ภาค ซึ่งไม่ใช่แค่ราคาคุยแน่นอน หลายซีนในหนังเรื่องนี้โดดเด่นเอามากๆ แม้ว่าจะไม่ใช่แนวยิงแหลกแจกลูกกระสุน แต่เป็นการต่อสู้ตัวๆ แทบจะทั้งหมดผ่านมือเปล่ากับอาวุธเป็นสิ่งของรอบข้างใกล้ตัว หนังได้ฉากแอ็กชั่นที่สมจริง สวยงาม และขับเคลื่อนเรื่องราวไปพร้อมกันได้อย่างน่าทึ่งเอามากๆ โดยเฉพาะซีนที่ ฮาร์ลีย์ ควินน์ บุกโรงพักถล่มตำรวจด้วยปืนกระสุนสีต่อเนื่องยาวไปถึงเจอนักโทษที่ออกมารุมสกรัมเธอภายใต้สปริงเกอร์ที่น้ำนองพื้นลื่นๆ เป็นแอ็กชั่นสโลวโมชั่นที่ทรงพลังแบบเดียวกับฉาก Wonder Woman เตะตัดขาสวยๆ พร้อมเพลงประกอบเท่ๆ ที่มิกซ์เข้ากันได้อย่างลงตัวเสริมความมันส์เข้าไปอีก และไม่ใช่จบแค่นั้นหนังยังลากฉากแอ็กชั่นยาวต่อเนื่องไปอีกชุดใหญ่ แถมด้วยฉากขับรถไล่ล่ากวนๆ ปิดท้าย ซึ่งบอกเลยว่าฉากแอ็กชั่นในเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ ความมันส์บวกบรรเลงเพลงแดนซ์ชุดใหญ่มาเมื่อนั้น ไม่มีผิดหวัง แต่แค่อาจจะไม่ถึงเลือดเนื้อโหดๆ อะไรแบบที่มีโปรโมทกันมาก่อนว่าเรื่องนี้เรต R และแรงที่สุด หนังไม่ได้แรงอะไรขนาดนั้นครับ แต่รับรองสนุกและก็จุกถึงใจแน่นอน (เพราะเธอเล่นซัดเข้าเป้าผู้ชายล้วนๆ ทุกดอก)
และไม่ใช่แค่ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ได้ซีนไปคนเดียว หนังมาเป็นทีมจริงๆ ตัวละครอื่นอย่าง Black Canary ที่เป็นนักร้องในบาร์ของตัวร้าย ได้บทเด่นทั้งฉากแอ็กชั่นดิบๆ โหดๆ ซึ่งถ้าตามคอมิคเธอคือสาวนักสู้ระยะประชิดอันดับต้นๆ ของ DC เลย แถมยังพ่วงด้วยพลังเหนือมนุษย์ในแบบ Meta Human ที่เป็นไม้ตายของทีมได้อย่างน่าทึ่ง เรียกว่าพลิกเกมกันเลยทีเดียวจากการต่อสู้บู๊ธรรมดาทำให้เรื่องนี้พิเศษ และมีความเป็นแฟนตาซีผสมเข้ามาแบบกำลังดี อีกทั้งคาแรกเตอร์ของแต่ละคนก็แตกต่าง ทำให้คนจดจำได้หมดไม่มีใครถูกทิ้ง แถมมีตัวขโมยซีน Helena Bertinelli หรือ The Huntress ที่รับรองว่าออกไม่เยอะ พูดก็น้อย แต่ฮาหน้าตายด้วยมุกบ้านๆ เรื่องอาวุธหน้าไม้ที่เธอใช้ กับคาแรกเตอร์เด๋อๆ เข้าสังคมไม่เก่ง จากที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็ก หนังแอบมีมุกกัดแสบๆ จิกกัดหนังนักฆ่ากับตำรวจสืบสวนที่ถ้าไม่โดนยึดตราเนื้อเรื่องไม่เดิน ผ่านตัวละคร Renee Montoya ที่เข้ากันมากๆ กับทีม แม้เธอจะได้ไม่สกิลอะไรหวือหวามาก แต่ด้วยเรื่องราวอยุติธรรมในงานตำรวจของเมืองก็อตแธม ที่เราคนดูก็รู้กันว่าเมืองนี้ตำรวจก็เต็มไปด้วยโจรดีๆ นี่เอง ทำให้ตัวละครนี้เติมเต็มทีม และมีส่วนช่วยผลักดันเรื่องราวให้ไปในทิศทางที่กลายเป็นฮีโร่ใต้ดินได้อย่างน่าเชื่อถือ
แต่ที่หนังบกพร่องไปอย่างมากคือตัวร้ายในเรื่องนี้ที่มีถึง 2 คน แต่กลับไม่นำมาใช้กับซีนแอ็กชั่นใดๆ ในเรื่องเลย หนังนำตัว Black Mask ผู้นำองค์กรอาชญากรรมใหญ่ของเมือง กับลูกน้องคนสนิท Victor Zsasz ที่เป็นฆาตกรโฉด แค่แสดงวีรกรรมโหดตอนต้นเรื่อง จากนั้นก็เหลือแค่การแสดงบทพูดแอ้กติ้งธรรมดาทั่วไป แม้ว่าในกรณีของ Black Mask ที่เล่นโดย Ewan McGregor จะแสดงได้น่าเกรงขาม ดูป่วยจิตน่ากลัวๆ แบบโจ๊กเกอร์ และก็มีฉากที่ชวนขนลุกหนาวๆ ว่าเขาจะทำอะไรแบบคาเดาไม่ได้ แต่สุดท้ายหนังกลับให้ตัวละครนี้แค่สวมหน้ากากแล้วก็จบเรื่องราวไปอย่างง่ายๆ จนเกินไป ทำให้ขาดจุดพีคของเรื่องราวตัวร้าย 2 คนนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
นี่เป็นหนังที่สนุกตลอดเวลาที่รับชม แม้อาจจะผิดหวังที่หนังไม่ได้แรงตามเรต R หรือการโปรโมทมาก่อนหน้านี้ แต่ด้วยความลื่นไหลของเรื่อง การเล่าเรื่องฉลาดๆ ในมุมโลกอาชญากรรมกับคนจิตบิดเบี้ยวฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่ไม่เหมือนใครและก็ไม่มีใครมาเหมือนเธอได้ ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นมากจนไม่ผิดหวังเลยถ้าจะมาแค่ดูเธอก็ยังได้ แต่หนังทำได้ถึงมากกว่านั้นด้วยตัวละครสมทบอื่นๆ ที่ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน แถมด้วยฉากแอ็กชั่นโดดเด่นและลากยาวแทบจะกินเวลาในเรื่องเยอะมากจากทีมสร้าง John Wick ที่การันตีได้เลยว่าติดตาติดใจแน่นอนครับ
ปล.หนังมีฉากแถมท้ายหลังเอนด์เครดิตกวนๆ นิดนึงครับ