playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ

Black Doves พิราบเงา

Summary

ซีรีส์สายลับจากอังกฤษที่สร้างโลกของสายลับขายข่าวขึ้นมาใหม่ไม่ยึดติดฝ่ายไหนเป็นเอกเทศของตัวเองเพื่อเงินเท่านั้น (เหมือนสร้างโลกใหม่แบบจอนห์วิค) ทำให้เรื่องหลุดกรอบความเป็นสายลับตะวันตกดาษดื่นออกไป คาดเดาเรื่องไม่ได้ ทุกอย่างในเรื่องเต็มไปด้วยเรื่องโกหกคำโตของทุกคนมารวมกันผ่านเกมสายลับที่ซับซ้อนหักเหลี่ยมกันอย่างคมคายสุดๆ ด้วยบทที่ถูกเขียนมาอย่างดีมากจนทำให้ทุกตัวละครมีคุณค่าของตัวเองและร้อยเรียงทุกเรื่องดราม่าส่วนตัวให้มาเกี่ยวข้องกับงานได้อย่างลึกซึ้ง แม้แต่ฉากแอ็กชั่นก็ยังมีดราม่าความรักแทรกลงไปไม่ใช่เน้นแค่ฉากเท่ๆ ซึ่งเรื่องทำได้โดดเด่นกินใจมาก บวกกับนักแสดงอังกฤษชั้นยอดอย่าง Keira Knightley กับ Ben Whishaw ซึ่งถ่ายทอดทั้งฉากแอ็กชั่นและดราม่าได้อย่างไม่มีที่ติ นี่เป็นซีรีส์สายลับที่ยอดเยี่ยมระดับแทบไร้ที่ติกันเลย ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ

Overall
9.5/10
9.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • จักรวาลสายลับใหม่ไม่ยึดติดฝ่ายไหน
  • เรื่องซับซ้อนคาดเดาไม่ได้
  • ดราม่าตัวละครลึกซึ้งเข้มข้น
  • ฉากแอ็กชั่นโหด แต่ขับเคลื่อนด้วยดราม่า
  • ทุกตัวละครโดดเด่น นักแสดงคุณภาพสูงทั้งเรื่อง
  • เรื่องกระชับ 6 ตอนจบสมบูรณ์มาก
  • มีพากย์ไทย

 

Cons

  • อาจจะไม่ถึงใจแนวคนชอบสายลับแอ็กชั่นระเบิดตูมตาม

ADBRO

Black Doves พิราบเงา ซีรีส์ Original Netflix อังกฤษ แนวสายลับ 6 ตอนจบ เฮเลน ภรรยาของนักการเมืองที่ชีวิตอีกด้านเธอเป็นสายลับให้องค์กรข่าวพิราบเงา เธอเริ่มความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าเธอมีตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร เมื่อชายคนรักของเธอตกเป็นหนึ่งในเหยื่อฆาตกรรม 3 ศพปริศนา นายจ้างของเฮเลนจึงเรียก แซม นักฆ่าขององค์กรมาปกป้องเธอ โดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังเจอกับสถานการณ์ร้ายแรงของสงครามข่าวสารในโลก

Black Doves (2024) on IMDb

รีวิว Black Doves พิราบเงา (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์สายลับที่เข้มข้นสุดๆ ด้วยเนื้อหาเพียงแค่ 6 ตอน แต่ยาวกันเต็มอิ่มตอนละเกือบชั่วโมงเต็ม ซึ่งพอดูผู้สร้างแล้วก็ไม่น่าแปลกใจ เขาคือ Joe Barton ผลงานของเขาที่โดดเด่นก็ ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ Giri/Haji (2019) สายสืบญี่ปุ่นที่มาตามหายากูซ่าในลอนดอนเพื่อหยุดยั้งศึกใหญ่ที่จะเกิดขึ้น (อ่านรีวิวคลิกที่นี่ https://www.playinone.com/folkplay/duty-shame-netflix-giri-haji/) ล่าสุดก็คือ The Lazarus Project บน HBO go (ตอนนี้ Max ถอดไปยังไม่กลับมา) ซีรีส์สายลับไซไฟย้อนเวลากู้โลกแตกที่ทั้งซับซ้อนเรื่องเวลาและการเชือดเฉือนไหวพริบระหว่างตัวละคร (อ่านรีวิวคลิกที่นี่  https://www.playinone.com/folkplay/the-lazarus-project-review-hbo/ ) ซึ่งซีรีส์ 2 เรื่องนี้คือขึ้นหิ้งดีต้นๆ ของผู้เขียนเลย ด้วยเสน่ห์ของตัวละครทุกตัวที่ฉายแววโดดเด่น มีบทลงรายละเอียดลึกตัวละครพร้อมทั้งฉาบหน้าด้วยการโกหกซ่อนเงื่อนแบบสายลับ แล้วก็เนื้อเรื่องที่มักเริ่มจากเล็กๆ ก่อนที่จะขยายใหญ่โตไปถึงระดับโลกกันเลย ซึ่งนี่เป็นเอกลักษณ์ของเขาที่เรื่องนี้ยังถอดแบบออกมาเหมือนกันเป๊ะๆ แถมยังดูเหมือนเขาลับคมฝีมือขึ้นมาจนคมกริบสุดๆ ด้วย

เรื่องนี้สร้างองค์กรสายลับขึ้นมาใหม่ในชื่อ Black Dove เป็นองค์กรขายข่าวอิสระที่ไม่สังกัดประเทศหรือหน่วยงานไหน จุดมุ่งหมายขององค์กรคือขายข่าวแลกเงินเท่านั้น ใครให้ราคาข่าวสูงสุดคือได้ไป ไม่สนว่าประชาธิปไตยหรือคอมมิวนิสต์แบบจีน ซึ่งทำให้ตัวเรื่องเหมือนเปิดโลกสายลับขึ้นมาใหม่ที่มีอิสระเล่นกับทุกเรื่องแบบไร้ขีดจำกัดกันไปเลย แม้ว่าจะเป็นซีรีส์ที่สร้างโดยตะวันตกก็ไม่มีการอวยอเมริกาหรืออังกฤษแม้แต่น้อย ซึ่งจุดนี้ทำให้ต่างกับหลายเรื่องที่พอเล่าๆ ไปสุดท้ายตัวร้ายก็มักเป็นฝ่ายตรงข้ามจีน รัสเซีย หรือพวกตะวันออกกลางอิสลาม วนเวียนกันแบบนี้ประจำ เพราะนักเขียนตะวันตกมักยึดติดกับประเทศที่ตนอยู่ ต้องทำให้คนดูเหมือนต้องโดนโปรปากันด้าไปซะทุกเรื่อง ซึ่งคนดูจริงๆ ต้องการเนื้อหาที่ซับซ้อนคาดเดาไม่ได้มากกว่าจะเป็นอะไรที่ซ้ำๆ แบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้ตัวเอกทั้งหลายคือคนของ Black Dove ทั้งหมด เฮเลน (แสดงโดย Keira Knightley) คือสาวอังกฤษที่แฝงตัวเป็นสายลับเกาะติดนักการเมืองเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ความสัมพันธ์นั้นทำให้เธอกลายเป็นภรรยาที่มีลูกแฝดให้กับเขา จนกระทั่งเขากลายเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจจ่อคิวนายกรัฐมนตรีอังกฤษแล้ว ส่วนแซม (แสดงโดย Ben Whishaw) หนุ่มเกย์อังกฤษที่เป็นมือปืนคอยปกป้องสายลับให้องค์กรและเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย รี๊ด (แสดงโดย Sarah Lancashire) นายจ้างของทั้งคู่ที่ดูแลองค์กรนี้อยู่ในบทบาทที่เธอเชื่อว่าทุกคนต้องมีเรื่องโกหก และแม้แต่ลูกจ้างของเธอเองก็โกหก ซึ่งเรื่องเล่าถึงความสัมพันธ์ของ 3 คนนี้เป็นหลักที่ต่างก็อยู่ด้วยคำโกหกปิดบังอะไรบางอย่าง และต่างฝ่ายพยายามหาความจริงนั้นออกมา ในขณะที่ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองไปในเกมสงครามสายลับที่เรื่องก็ดำเนินไปอยู่อย่างซับซ้อนมากอีกด้วย

ตัวเรื่องนี้เต็มไปด้วยคำโกหกกองโตของทุกคนมากองรวมกัน ซีรีส์เล่าถึงปัญหาส่วนตัวของ เฮเลน ที่มีชู้ แต่ดึงแซมเข้ามาปกป้องเพราะเฮเลนเรียกใช้ โดยต้องตามหาว่าใครฆ่าชู้รักของเฮเลนเพื่อปิดเรื่องให้จบ แต่เรื่องกลับขยายขอบเขตมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงสายลับจีน อเมริกา อังกฤษ ถูกดึงมาเกี่ยวข้อง และยังมีพวกองค์กรอาชญากรรมอื่นๆ ลามเข้ามาอีก โดยเรื่องเล่าทั้งย้อนอดีตความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเอก 3 คน ที่มีความผิดพลาดบางอย่างเมื่อ 7 ปีก่อนซ่อนไว้ ก่อนที่จะเอาส่วนนี้มาเป็นฐานเล่าถึงเหตุการณ์ผลกระทบจากอดีตสู่ปัจจุบันได้อย่างคมคาย ทั้งดราม่าชีวิตส่วนตัวของทั้งแซมกับเฮเลนที่มีปัญหาหนักอกจนแทบจะอยู่ต่อไม่ไหว ซึ่งเรื่องก็เดินหน้าคู่ขนานเหตุการณ์ส่วนตัวนี้ให้มาเชื่อมต่อกับเหตุการณ์สายลับหลักที่ไปๆ มาๆ ใกล้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 กันเลยทีเดียว โดยบทถูกเขียนขึ้นมาเชื่อมต่อเหตุการณ์ทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างไร้ที่ติ เหมือนทฤษฎีบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟ็กต์ ซึ่งอย่าง The Lazarus Project ก็มาแนวนี้เช่นกัน ต้องขอคาราวะเลยว่าผู้สร้าง Joe Barton นี่คือตัวจริงของแนวสายลับซับซ้อนโลกแตกจริงๆ ครับ

ซีรีส์ไม่ใช่แค่เด่นที่ตัวละครหลักเท่านั้น แต่ตัวละครรองตัวในเรื่องก็โดดเด่นสุดๆ จนเป็นเหมือนซีรีส์เรื่องนี้กำลังสร้างโลกใหม่แบบจอห์นวิคขึ้นมาในลอนดอน โดยทุกตัวละครที่มาเกี่ยวข้องกับทั้งสามคนนี้จะมีบทขยายตัวเองออกไปให้เห็นว่าไม่ได้มาเล่นๆ อย่าง คนที่แซมปล่อยไปเมื่อ 7 ปีก่อนกลายเป็นคนยังไงในปัจจุบัน นักฆ่าที่มาตามฆ่าเฮเลนที่เปิดตัวแค่ฉากเดียว แต่บทก็ยังวางรายละเอียดเขาให้เหมือนเป็นมินิบอสที่ช่วยทำให้เห็นว่าเฮเลนเก่งกาจแค่ไหนในระดับที่ทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเธอคือมือโปรสายลับจริงๆ ไม่ใช่แค่แม่บ้านดูแลลูก หรืออย่างมือปืนหญิงที่โผล่มาสั้นๆ ตอนแรกก็ถูกขยายให้เห็นเรื่องราวของเธอตอนหลังอีกด้าน ซึ่งบทในเรื่องนี้ใส่ใจทุกตัวละครอย่างแท้จริง แล้วก็นำตัวละครเหล่านี้มายกระดับเรื่องหลักให้เข้มข้นขึ้นไปอีก จนถึงขนาดว่าบางคนกลายเป็นตัวละครองค์กรใหญ่ในโลกใต้ดินของลอนดอนไปเลยครับ ซึ่งเชื่อเลยว่าถ้าซีรีส์ได้ทำต่อก็น่าจะเหมือนเปิดจักรวาลสายลับนี่ให้กว้างไกลแบบเดียวกับจอห์นวิคได้แน่นอนครับ 

ส่วนฉากแอ็กชั่นในเรื่องก็ยังถูกใส่มาได้อย่างดุเดือดกำลังดีเป็นระยะๆ โดยที่ยังมีความโรแมนติกตลกร้ายผสมลงไปด้วย อย่างฉากที่แซมพาคู่เกย์ของเขาหนีวงล้อมศัตรู ตัวเรื่องบรรจงถ่ายทอดฉากนี้ออกมาให้เห็นว่ามันคือการส่งสารความรักบริสุทธิ์ออกมาหลังจากปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว ซึ่งฉากแบบนี้ในเรื่องไม่ได้มีแค่ฉากเดียว ทุกฉากแอ็กชั่นในเรื่องมีดราม่าขับเคลื่อนอยู่เสมอ ซึ่งมันทำให้เรื่องมีมิติลึกขึ้นมากกว่าแค่ยิงๆ ไปเน้นเท่ไว้ก่อนแบบจอห์นวิค แต่ถ้าใครคาดหวังฉากระเบิดตูมตามใหญ่โตอันนี้ก็ต้องบอกว่าแทบไม่มี เพราะนี่เป็นซีรีส์สายลับที่พยายามคงคอนเซ็ปต์ไว้เสมอว่าเป็นเกมแย่งชิงข่าวสารความลับที่เป็นสิ่งพิราบเงาหามาขาย ไม่ใช่การต่อสู้กับองค์กรร้ายหมายยึดโลกแบบนั้นครับ (ด้วยงบของซีรีส์ด้วยที่คงไม่พอให้ไปทำอะไรแบบนั้นได้ด้วย) 

 

ตัวนักแสดง Keira Knightley นั้นเด่นอยู่แล้ว การที่เธอมารับบทนี้ก็ยิ่งถีบตัวให้เห็นว่าเธอเก่งสมกับเป็นนักแสดงแอ็กชั่นและดราม่าได้พร้อมๆ ในบทที่ต้องโกหกชีวิตครอบครัวกับสามีและลูกๆ อยู่ตลอดเวลา แถมยังมีชู้รักที่เธอเชื่อว่ารักจริงกว่าและหวังหนีไปด้วยกัน บทมีความซับซ้อนถ่ายทอดให้เห็นทั้งความลังเลว่านี่คืองานที่จะไปต่อดีจริงๆ หรือไม่ 

Ben Whishaw ในบทแซมนักฆ่าที่ดูเหมือนตัวละครเสริมนางเอก แต่ว่าจริงๆ ไม่ใช่ เพราะบทของแซมไปๆ มาๆ โดดเด่นน่าติดตามกว่าเฮเลนเสียอีก เพราะเรื่องของเขามีความซับซ้อนจากอดีตมาถึงปัจจุบันโดยตรง โดยมีเรื่องความสัมพันธ์เกย์ที่ต้องห้ามเข้ามาเกี่ยว กลายเป็นการโกหกที่โหดร้ายที่สุดกับคนที่เขารัก ซึ่งนักแสดงถ่ายทอดความรักที่มีผ่านสายตาท่าทางให้คนดูเชื่อได้อย่างสนิทใจจริงๆ จนสงสัยว่าตัวจริงเขาเป็นเกย์ด้วยหรือไม่เลยครับ 

 

Sarah Lancashire ในบทรี๊ด นายจ้างที่ลึกลับที่ยื่นโอกาสให้เฮเลนคว้าไว้อยู่เสมอ เพราะเห็นว่าเธอกำลังอยากออกจากวงการ แต่องค์กรต้องการเธอไว้ เป็นตัวละครที่มีความลับอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ดูลับลมคมในเหมือนเชื่อไม่ได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าถ้ามีองค์กรสายลับแบบนี้จริงๆ ก็ต้องมีคนแบบเธอนี่แหละคอยดูแลองค์กรให้คงอยู่เสมอ ซึ่งแม้เธอจะไม่ได้ออกโรงภาคสนาม แต่ความร้ายกาจของเธอก็แสดงผ่านตัวนักแสดงและบทบาทที่สำคัญมากในเรื่องอยู่ตลอดเวลาครับ

 

ซีรีส์จบเรื่องราวได้สมบูรณ์ใน 6 ตอนแบบเกลี้ยงเกลามาก โดยที่ทิ้งเรื่องไว้ไปต่อได้อย่างสวยๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง ตอนนี้ก็คงต้องมารอลุ้นกันแหละว่าเน็ตฟลิกซ์จะไฟเขียวเมื่อไหร่ ซึ่งผู้เขียนเชื่อเลยว่าคงได้ทำต่อแน่นอนครับ


สรุป ซีรีส์สายลับจากอังกฤษที่สร้างโลกของสายลับขายข่าวขึ้นมาใหม่ไม่ยึดติดฝ่ายไหนเป็นเอกเทศของตัวเองเพื่อเงินเท่านั้น (เหมือนสร้างโลกใหม่แบบจอนห์วิค) ทำให้เรื่องหลุดกรอบความเป็นสายลับตะวันตกดาษดื่นออกไป คาดเดาเรื่องไม่ได้ ทุกอย่างในเรื่องเต็มไปด้วยเรื่องโกหกคำโตของทุกคนมารวมกันผ่านเกมสายลับที่ซับซ้อนหักเหลี่ยมกันอย่างคมคายสุดๆ ด้วยบทที่ถูกเขียนมาอย่างดีมากจนทำให้ทุกตัวละครมีคุณค่าของตัวเองและร้อยเรียงทุกเรื่องดราม่าส่วนตัวให้มาเกี่ยวข้องกับงานได้อย่างลึกซึ้ง แม้แต่ฉากแอ็กชั่นก็ยังมีดราม่าความรักแทรกลงไปไม่ใช่เน้นแค่ฉากเท่ๆ ซึ่งเรื่องทำได้โดดเด่นกินใจมาก บวกกับนักแสดงอังกฤษชั้นยอดอย่าง Keira Knightley กับ Ben Whishaw ซึ่งถ่ายทอดทั้งฉากแอ็กชั่นและดราม่าได้อย่างไม่มีที่ติ นี่เป็นซีรีส์สายลับที่ยอดเยี่ยมระดับแทบไร้ที่ติกันเลย ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ