รีวิวซีรีส์ Bodies (Netflix) เนื้อเรื่อง 4 ยุคที่เข้มข้น แต่ความลับของเรื่องไม่สดใหม่
Bodies
Summary
สรุปเป็นซีรีส์ 8 ตอนจบที่พล็อตเรื่องแนวไซไฟ 4 ยุคสมัยทำได้น่าติดตาม แม้ช่วง 4 ตอนแรกก่อนเฉลยความลับหลักของเรื่องจะถูกเล่าแบบตัดสลับเรื่องไปมาจนดูสับสนวุ่นวายมากไป แต่พอเฉลยแล้วหลังจากตอน 4 ไปเนื้อเรื่องสนุกลื่นไหล เคลียร์ปมที่ใส่มาทั้งหมดได้ลงตัวสวยงาม มีการเล่นกับปมชีวิตตัวละครทั้ง 4 ได้ลึกเข้มข้น โดยผสมเข้ากับส่วนของไซไฟนิดๆ ได้ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอเดียนี้ของเรื่องไม่ได้ใหม่อย่างที่คิดไว้ในตอนแรกครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- เนื้อเรื่อง 4 แบบ 4 ยุค
- แนวดราม่าไซไฟ
- ปมปัญหาชีวิตเข้มข้น
- มีพากย์ไทย
Cons
- ช่วงแรกเล่าแบบตัดสลับไปมาบ่อยจนดูสับสน
- ไอเดียความลับของเรื่องไม่ได้แปลกใหม่
Bodies ศพ ลิมิเต็ดซีรีส์ Netflix 8 ตอนจบจากอังกฤษ เรื่องราวของ นักสืบ 4 คน ใน 4 ยุคสมัยกับคดีปริศนาที่เชื่อมต่อทั้ง 4 ช่วงเวลาเข้าด้วยกัน เมื่อทุกคนต้องเข้ามาสืบสวนคดีพบศพเปลือยกายในตรอกเล็กๆ ที่ทุกคนมีสภาพบาดแผลเหมือนกันทั้งหมด
รีวิว Bodies ศพ Netflix (ไม่มีสปอยล์)
ซีรีส์จาก Paul Tomalin ผู้สร้างหน้าใหม่ แต่ผ่านงานเขียนบทมาก่อนแล้ว ในเรื่องนี้เขาใช้พล็อตเรื่องแนวไซไฟเกี่ยวกับเวลาเข้ามาเล่น โดยใช้ช่วงเวลาทั้ง 4 ยุคที่เกิดพร้อมกันในตอนแรก ตั้งแต่ปี 1890 ปี 1941 ปี 2023 และอนาคตปี 2053 ซึ่งช่วงเวลาทั้งหมดนี้ใช้ตัวละครที่แตกต่างกันหมด มีเรื่องราวของตัวเองเป็นแนวทางหลักที่ต่างกันด้วย แม้ทุกคนจะสืบคดีเดียวกันก็ตาม
ด้วยความแตกต่างของเนื้อเรื่อง ฉากโลเกชั่นของแต่ละยุค ทีมนักแสดงทั้ง 4 ยุค ก็เลยกลายเป็นจุดเด่นหลักที่น่าติดตามมาก เหมือนเราได้ดูหนัง 4 เรื่องที่แตกต่างกันโดยมีคดีศพแบบเดียวกันเป็นจุดเชื่อมโยงเรื่องทั้งหมด ให้ผู้ชมฉงนสงสัยว่าทั้ง 4 ยุคนี้เกี่ยวข้องกันได้ยังไง แต่ต้องบอกว่าการเล่าทั้ง 4 เรื่องแบบไปพร้อมกันไม่ง่ายเพราะต้องตัดสลับไปมาตลอดเวลาจนดูวุ่นวายมาก ตัวละครก็แตกต่างกันทั้งหมด มีความพยายามใส่ปมปัญหาชีวิตตัวละครในแต่ละยุคที่แตกต่างกัน และการเล่าเรื่องแบบเน้นเพิ่มปมปริศนาให้ผู้ชมสงสัย จึงทำให้ในช่วง 3-4 ตอนแรกแม้พล็อตจะดีน่าติดตาม แต่การเล่าเรื่องก็ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น
แต่เมื่อซีรีส์เฉลยปริศนาจุดร่วมทั้ง 4 ยุค โดยเริ่มจากตอนที่ 4 เป็นต้นไป เรียกว่าเป็นช่วงเฉลยเนื้อเรื่องที่ใส่มาเป็นปริศนาในตอนแรกทั้งหมด แต่ก็เป็นความลับที่ทุกคนก็คงเดาเรื่องได้แน่นอน 100% เพราะมันไม่ได้แปลกใหม่ แต่ข้อดีคือเมื่อเฉลยความลับนี้แล้วก็ทำให้ซีรีส์สามารถเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นแบบตรงไปตรงมาได้ง่ายๆ ทำให้เนื้อเรื่องช่วงหลังลื่นไหลสนุกกว่าในช่วงครึ่งแรกที่เต็มไปด้วยปริศนาอย่างชัดเจน โดยมีการเล่าเรื่องซ้อนกลับไปยังเหตุการณ์ต่างๆ อีกครั้งในอีกรูปแบบหนึ่งที่เกือบจะเหมือนเดิม แต่เพิ่มความแตกต่างขึ้นมาทีละนิดๆ จนในที่สุดก็เคลียร์เรื่องราวได้หมดอย่างสวยงาม ในรูปแบบดราม่าชีวิตผสมไซไฟนิดๆ ซึ่งนี่ก็คือจุดเด่นที่สุดของเรื่องนี้
ทีมนักแสดงทั้งหมดก็เล่นในเรื่องของตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยมี Amaka Okafor เป็นตำรวจหญิงอิสลามในยุคปัจจุบันเป็นคนหลักของเรื่องที่เชื่อมโยงเรื่องทั้งหมด และก็แสดงให้เห็นภาพลักษณ์ของตำรวจอิสลามมีฮิญาบติดตัวตลอดได้ดี ส่วน Kyle Soller เล่นเป็นตำรวจยุค 1890 ที่วิธีการสืบสวนรวบรวมข้อมูลยังไม่ดีมาก และยังมีกฎหมายจับกุมเกย์ที่ในยุคนั้นถูกรังเกียจจากสังคมอีก เป็นยุคที่ตัวละครถูกกดขี่ทารุณหนักที่สุด ส่วนยุคปี 1941 ที่ Jacob Fortune-Lloyd เล่นเป็นตำรวจเลวที่ต้องรับใช้ผู้มีอิทธิพล เนื้อเรื่องก็มีปมขัดแย้งในใจเมื่อเขาต้องรับงานฆ่าคนครั้งแรก และก็เป็นเด็กน้อยวัย 11 ขวบเท่านั้น ส่วนยุคอนาคต 2053 ได้ Shira Haas มาเล่นเป็นตำรวจหญิงที่ขาพิการ แต่ในยุคนั้นมีเครื่องมือช่วยติดไว้ที่หลัง และเธอก็เป็นตำรวจที่ทำงานตามคำสั่งโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เป็นเหมือนหุ่นยนต์รับใช้องค์กรตำรวจในยุคนั้น
งานโปรดักชั่นทั้งหมด 4 ยุคใช้โลเกชั่นกรุงลอนดอนเหมือนกัน แต่ก็ลงทุนทำออกมาได้แตกต่างสมจริงดีในทั้ง 4 ยุค เพียงแต่พวกอุปกรณ์ไฮเทคในโลกอนาคตอาจจะดูไม่ค่อยสมจริงมากเท่าซีรีส์แนวไซไฟจริงจัง อย่างรถตำรวจก็ยังดูธรรมดาทั่วไป รวมถึงเครื่องมือไฮเทคต่างๆ ก็น้อยด้วยเช่นกัน
สรุปเป็นซีรีส์ 8 ตอนจบที่พล็อตเรื่องแนวไซไฟ 4 ยุคสมัยทำได้น่าติดตาม แม้ช่วง 4 ตอนแรกก่อนเฉลยความลับหลักของเรื่องจะถูกเล่าแบบตัดสลับเรื่องไปมาจนดูสับสนวุ่นวายมากไป แต่พอเฉลยแล้วหลังจากตอน 4 ไปเนื้อเรื่องสนุกลื่นไหล เคลียร์ปมที่ใส่มาทั้งหมดได้ลงตัวสวยงาม มีการเล่นกับปมชีวิตตัวละครทั้ง 4 ได้ลึกเข้มข้น โดยผสมเข้ากับส่วนของไซไฟนิดๆ ได้ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอเดียนี้ของเรื่องไม่ได้ใหม่อย่างที่คิดไว้ในตอนแรกครับ