playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Bogota: City of the Lost (Netflix) หนังอาชญากรรมที่ไม่เดือด เน้นขายซงจุงกิ

Bogota: City of the Lost

Summary

หนังเกาหลีที่ขายนักแสดงซงจุงกิในบทแบบเดิมๆ โดยที่เนื้อเรื่องอาชญากรรมก็เบาเพราะเป็นแค่การลักลอบขนเสื้อผ้าเถื่อนเข้ามาขาย หนังแทบไม่มีความดุเดือดรุนแรงเลยจนกระทั่งใกล้ๆ จบถึงมีโผล่มาสั้นๆ  แต่มันก็ไม่เพียงพอจะช่วยยกระดับให้เป็นหนังอาชญากรรมที่น่าตื่นเต้นได้เลย มีดีแค่การไปถ่ายทำในโบโกตาที่โคลอมเบียจริงเท่านั้น แต่ฉากก็วนๆ อยู่แค่ในชุมชนเกาหลีเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าใครชอบนักแสดงกับหนังเกาหลีก็พอดูได้เพราะมันก็ไม่ได้แย่จนเกินไปนักครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • การถ่ายทำในโบโกตาเพิ่มความสมจริง มีนักแสดงท้องถิ่นร่วมแสดง
  • ตัวนักแสดงซงจุงกิ

Cons

  • เนื้อเรื่องขาดความแปลกใหม่ เน้นอาชญากรรมเล็กๆ ไม่สมกับแนวอาชญากรรมจริงๆ
  • การพยายามขายตัวซงจุงกิมากเกินไปในบทซ้ำๆ
  • ปูเรื่องตอนไต่เต้ายาวนาน แต่บทบาทเจ้าพ่อตอนท้ายถูกนำเสนออย่างรวบรัด

ADBRO

Bogota: City of the Lost  โบโกตา เมืองคนหลง ภาพยนตร์ Original Netflix เกาหลี แนวดราม่าอาชญากรรม เรื่องราวของ “กุกฮี” ชายหนุ่มชาวเกาหลีที่อพยพไปยังโบโกตา เมืองหลวงของโคลอมเบียในช่วงปี 1990 เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน เขาต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในโลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยการหักหลังและอำนาจมืด จนกระทั่งเขาก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญในเครือข่ายอาชญากรรม
Bogota: City of the Lost (2024) on IMDb

 

รีวิว Bogota: City of the Lost (ไม่สปอยล์)

หนังโรงที่ฉายเกาหลีแบบเงียบๆ แล้วก็ย้ายมาลง Netflix โดยมีซงจุงกิเป็นนักแสดงนำ แล้วก็ยังไปถ่ายทำถึงเมืองโบโกตา ในประเทศโคลอมเบีย ในแนวเนื้อเรื่องดราม่าอาชญากรรมคนต่างชาติที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนกลายเป็นอาชญากรตัวใหญ่ในต่างแดน ซึ่งดูจากองค์ประกอบทั้งหลายแล้วก็ไม่น่าจะผิดพลาดได้ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้มันค่อนข้างเฟลมากนั่นก็คือ หนังมันแทบเป็นสูตรสำเร็จเรื่องเดิมๆ บวกกับการพยายามขายตัวนักแสดงนำในบทเดิมๆ จนเกินไปนั่นเอง

เนื้อเรื่องคนต่างแดนที่ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวในประเทศอื่นไม่ได้แปลกใหม่ ในเรื่องก็อิงจากชุมชนเกาหลีในโบโกต้าที่มีจริง ๆ ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานในเมืองนี้ตั้งแต่ช่วงปี 1990 โดยเฉพาะหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจในเกาหลีใต้ในปี 1997 ที่ทำให้หลายครอบครัวต้องอพยพไปหาชีวิตใหม่ในต่างประเทศ แต่อาชญากรรมในเรื่องถูกแต่งเติมขึ้นมาเอง โดยเป็นธุรกิจลักลอบเอาเสื้อผ้าเถื่อนเข้ามาขาย ไม่ได้เป็นยาเสพติดโคเคนที่ขึ้นชื่อในโคลอมเบีย ทำให้เรื่องมันค่อนข้างธรรมดามากทั้งเรื่อง เริ่มจากเข้าไปช่วยขับรถขนเข้ามา มีเจ้านายไว้ใจ จากนั้นก็ค่อยๆ หาจังหวะทำให้ตัวเองใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นความขัดแย้งกับเจ้านายในภายหลัง ซึ่งอาชญากรรมที่ทำก็มีแค่การติดสินบนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเท่านั้นเอง แต่หนังพยายามทำให้ดูเหมือนเป็นธุรกิจใหญ่โตจนทำให้ชุมชนเกาหลีต้องมาเจอกับคนโคลอมเบียที่หากินแบบเดียวกัน จนมีฉากเล่นงานกันเกิดขึ้น แต่ความขัดแย้งทั้งหมดก็แค่การขายเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้น หนังแทบไม่ได้มีรูปแบบความรุนแรงของแนวอาชญากรรมจริงๆ เลย แม้ในเรื่องจะมีการจ้างมือปืนมาตามฆ่า แต่ก็เหมือนฉากธรรมดาในหนังทั่วไปที่ไม่ได้มีความรุนแรงอะไรมาก ซึ่งถ้าเทียบกับซีรีส์ Narcos ในเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้คือเหมือนเด็กวัยรุ่นตีกันมากกว่าจะเป็นแนวเจ้าพ่ออาชญากรรมจริงๆ มีแค่ช่วงฉายท้ายๆ เท่านั้นที่มีความรุนแรงแบบยิงกันจริงๆ เกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรแล้วเพราะที่ผ่านมามันจืดทั้งเรื่องครับ

สิ่งที่หนังพยายามขายมากจนเกินไปก็คือการเอาซงจุงกิมาเล่นในบทเดิมๆ โดยเปิดตัวให้เหมือนเด็กวัย 20 ต้นๆ สภาพหน้าตาโทรมๆ ก่อนไต่เต้าขึ้นเป็นใหญ่ในตอนหลังที่อายุเยอะๆ โดยมีเรื่องราวของครอบครัวปนมาด้วยนิดหน่อยให้พอดูมีปมความพยายามไต่เต้าขึ้นมา ด้วยความที่เขาหน้าเด็กมากด้วยก็เลยขายการแสดงในบทแบบนี้บ่อย แต่มันดูน่าเบื่อไปเพราะแทบทั้งเรื่องหนังให้เวลากับช่วงเด็กหัดใหม่ยาวแทบจะทั้งเรื่อง ก่อนที่องค์สุดท้ายค่อยกลายเป็นบอสของชุมชนเกาหลีนี้ ซึ่งมาดูดีเอาตอนนี้เหมือนลุคเดียวกับตอนเล่น วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย แต่หนังก็เล่นง่ายโดยสคิปข้ามเวลาเป็น 3 ปีผ่านไปหลังจากจุดหักเหก่อนจะเป็นบอสแบบง่ายๆ จากเด็กหนุ่มธรรมดากลายมาเป็นบอสสุดเท่รูปหล่อ ซึ่งมันไม่น่าเชื่อตั้งแต่จุดหักเหที่ไม่สมเหตุผลเลยสักนิด แม้แต่บอสที่พระเอกหักก็ยังดูเหมือนแค่เจ้าพ่อแบบกิ๊กก๊อกไม่น่าเชื่อว่าจะเติบโตมาได้ในประเทศเถื่อนแบบนี้ พอตัวเอกได้มาเป็นเจ้าพ่อตัวเรื่องก็ใกล้จบแล้วจึงรวบรัดเล่ามากแบบไวๆ แล้วก็ใส่ฉากหักหลังทรยศกันตอนท้ายตามสไตล์แนวมาเฟียเท่านั้น แต่มันก็เป็นสูตรสำเร็จเดิมๆ ที่ไม่มีความแปลกใหม่เลย แถมยังจบแบบธรรมดาตามสไตล์เกาหลีที่ไม่กล้าจบแบบดาร์ค ทำให้น่าผิดหวังขึ้นไปอีก

สิ่งที่ดีของเรื่องก็คือการลงทุนไปถ่ายทำในโบโกต้าจริงๆ มีนักแสดงโคลอมเบียเล่นด้วยจริงๆ ทำให้เรื่องดูสมจริง แต่ก็เหมือนเป็นข้อจำกัดทำให้เรื่องไม่ค่อยมีฉากใหม่ๆ อะไรมาก นอกจากในชุมชนเกาหลีเท่านั้น ถ้ามองเรื่องฉากท่องเที่ยวนี่มีแค่ฉากน้ำตกสวยๆ ของโคลอมเบียอยู่ฉากเดียวเท่านั้นครับ

 

 สรุป หนังเกาหลีที่ขายนักแสดงซงจุงกิในบทแบบเดิมๆ โดยที่เนื้อเรื่องอาชญากรรมก็เบาเพราะเป็นแค่การลักลอบขนเสื้อผ้าเถื่อนเข้ามาขาย หนังแทบไม่มีความดุเดือดรุนแรงเลยจนกระทั่งใกล้ๆ จบถึงมีโผล่มาสั้นๆ  แต่มันก็ไม่เพียงพอจะช่วยยกระดับให้เป็นหนังอาชญากรรมที่น่าตื่นเต้นได้เลย มีดีแค่การไปถ่ายทำในโบโกตาที่โคลอมเบียจริงเท่านั้น แต่ฉากก็วนๆ อยู่แค่ในชุมชนเกาหลีเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าใครชอบนักแสดงกับหนังเกาหลีก็พอดูได้เพราะมันก็ไม่ได้แย่จนเกินไปนักครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ