playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Chastity High โรงเรียนห้ามรัก (Netflix) ลงลึกเรื่องรักหลากหลายในโรงเรียนได้อย่างน่าประทับใจ

โรงเรียนห้ามรัก

Summary

ซีรีส์ที่พล็อตเรื่องดูง่ายๆ แต่เนื้อในกลับเจาะลึกถึงประเด็นความรักที่แตกต่างในสังคมโรงเรียนได้อย่างน่าประทับใจ โดยไม่มีเรื่องเหยียดชนชั้น เรื่องกล้าลงลึกฉากล่อแหลมกว่าซีรีส์ญี่ปุ่นปกติค่อนข้างมาก จนเหมือนเป็นซีรีส์ฝรั่งย่อมๆ ในรูปแบบสังคมเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นไฮโซ โดยหยิบเอาเรื่องความรักความชอบทางเพศที่เปิดกว้างหลากหลายในสังคมจริงปัจจุบันมาถกเถียงกันด้วยเหตุและผล ผ่านธุรกิจรักษาความลับของนางเอกที่ออกเทาๆ เหมือนแบล็คเมล์เพื่อนด้วยกัน แต่อีกนัยหนึ่งคือการช่วยสนับสนุนต่อต้านกฏเกณฑ์ที่ผู้ใหญ่ออกกันขึ้นมา ซึ่งนางเอก Ai Mikami แบกรับบทนำทั้งเรื่องมากกว่าพระเอกได้อย่างน่าประทับใจ แต่เรื่องไม่ได้จบลงแบบฟินสวยงาม ซึ่งซีรีส์ขึ้นบอกไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมสายหวานนักครับ และยังทิ้งเรื่องไว้มีต่อซีซั่น 2 ด้วย

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ประเด็นความรักที่แตกต่างในสังคมโรงเรียนหลายหลายแบบ
  • มีฉากทางล่อแหลมค่อนข้างเยอะ 16+
  • ลงลึกประเด็นปัญหาโครงสร้าง
  • ไม่มีเรื่องเหยียดชนชั้น
  • นางเอก Ai Mikami โดดเด่นมาก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ตอนจบค่อนข้างรวบรัดและมีเปิดประเด็นใหม่ทิ้งไว้ทำต่อซีซั่น 2
  • บางนักเรียน Geek เบาบางกว่าที่ปูเรื่องไว้เข้มข้น
  • พระเอกในเรื่องบทน้อยเหมือนนักแสดงสมทบ

Chastity High โรงเรียนห้ามรัก ซีรีส์ญี่ปุ่น แนวดราม่ารักวัยรุ่น 8 ตอนจบซีซั่น 1 มีพากย์ไทย เรื่องราวของโรงเรียนชั้นนำบังคับใช้กฎ “ห้ามมีความรัก” อย่างจริงจัง ใครที่สานสัมพันธ์เชิงชู้สาวจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่ยังมีนักเรียนสาวที่เอากฏนี้มาทำเป็นบริการหาเงินช่วยรักษาความลับนั้นไว้

 

รีวิว Chastity High โรงเรียนห้ามรัก (มีสปอยล์โครงเรื่องบางส่วน)

ซีรีส์วัยรุ่นที่มีเนื้อเรื่องง่ายๆ แค่โรงเรียนมีกฏห้ามมีความรัก นักเรียนก็เลยหาทางเอากฏนี้มาหาเงินซะเลย แต่ว่าพอเป็นญี่ปุ่นทำเรื่องกลับจมดิ่งลึกลงไปในรายละเอียดของความรักมากกว่าที่คิด

 

เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากโรงเรียนชายและหญิงถูกยุบมารวมกันด้วยเหตุผลที่เด็กเกิดน้อยตามปัญหาของโลกยุคนี้ และด้วยความเป็นโรงเรียนไฮโซค่าเทอมแพงจึงต้องมีกฏเข้มงวดมากๆ เพื่อให้ผู้ปกครองมีอันจะกินไว้ใจส่งลูกมาเรียน ซีรีส์ค่อยๆ ใช้เวลาเล่าเรื่องราวผลกระทบของกฏนี้ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่เริ่มแรกด้วยการให้สังคมนักเรียนไฮโซค่อยๆ พบกับความเปลี่ยนแปลงร่วมกัน จากที่เหล่านักเรียนบ้านรวยปกติก็ไม่ค่อยสนใจกฏอยู่แล้ว และรู้สึกว่ากฏนี้คงจะใช้จริงไม่ได้ อารมณ์พ่อแม่รวยยังไงก็ช่วยได้ กลายเป็นโรงเรียนเอาจริง เหยื่อคู่แรกถูกเชือดให้ทั้งโรงเรียนดู แล้วต่อมาก็ลามไปถึงนักเรียนต่างสอดแนมส่งภาพถ่ายจับผิดกันเองให้โรงเรียน ตามด้วยการแต่งตั้งหน่วยนักล่าที่มาจากสภานักเรียนคอยตรวจทั้งในและนอกโรงเรียนอย่างเข้มข้น ซึ่งเรื่องค่อยๆ ปูพื้นพวกนี้ไปพร้อมกับการเล่าพื้นเพชีวิตตัวละครประกอบเรื่องได้อย่างสมเหตุผล

อิจิกะ นางเอกของเรื่องคือเด็กสาวบ้านจนที่แม่พยายามส่งมาเรียนเพียงคนเดียวในเรื่อง เธอคือตัวละครเด็กสาวนิสัยดีเพื่อนๆ รักในตอนแรก เพราะสังคมในโรงเรียนนี้ก็ไม่มีการเหยียดชนชั้นและเพื่อนๆ ก็ยังพยายามช่วยเธออย่างไม่รังเกียจ (ซีรีส์เรื่องนี้ตัดเรื่องเหยียดชนชั้นออกไปหมด ด้วยเหตุผลที่ปกติญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องพวกนี้มากด้วย) ทำให้เธอพยายามวางสถานะตัวเองเป็นคนดีเงียบๆ เพื่อให้เรียนจบได้อย่างที่แม่ต้องการ แต่เรื่องก็พลิกผันเมื่อพ่อที่แยกทางไปทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ และโดนพวกทวงหนี้มาข่มขู่ ทำให้เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้ช่วยแม่ลับๆ นั่นจึงทำให้เธอได้ไอเดียบริการรักษาความลับ “เลิฟคีปเปอร์” แลกกับเงินก้อนโตจากเพื่อน ซึ่งเธอทำเพื่อเงินล้วนๆ ใครไม่จ่ายก็โดนไป เรียกว่าแบล็คเมล์แบบสมยอมก็ได้เช่นกัน เรื่องค่อยๆ ลงลึกให้เห็นว่าเธอค่อยๆ เปลี่ยนไป ด้วยเหตุผลว่าพวกนี้ก็รวยอยู่แล้ว เงินแค่นี้คือเศษเล็กน้อยเท่านั้น เรื่องเริ่มมืดมนขึ้นนิดๆ เมื่อเธอต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องความรักลับๆ ของแต่ละคน และต้องหาทางปกปิดความลับนี้ไว้ ด้วยวิธีการที่ตัวเองก็เสี่ยง และเธอเองก็อยู่ในสภานักเรียนที่ไล่ตามจับนักเรียนที่ผิดกฏพวกนี้ไปด้วย ซึ่งนี่คือครึ่งแรกเป็นช่วงเวลาการเล่าเรื่องการแหกกฏของเกมที่สนุก มีรายละเอียดลึกๆ หลายที่วางไว้ให้เป็นเหตุการณ์ลุ้นระทึกเล็กๆ ให้เอาใจช่วยอิจิกะเอาตัวรอดให้ได้   

ซีรีส์ใช้เวลาช่วงครึ่งแรกปูพื้นตัวละครแต่ละตัวโดยมีนางเอกเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง จากเด็กสาวคนดีบริสุทธิ์มาเป็นคนเลวบริสุทธิ์ ด้วยการอ้างเหตุผลความจำเป็นของตัวเองรองรับไว้ ซึ่งผู้ชมก็รู้สึกเข้าใจไหลตามเหตุผลนี้ได้ แล้วก็ค่อยๆ หยอดเรื่องการเปลี่ยนของเธอในครึ่งหลัง เมื่อเธอเองเริ่มรู้จักกับความรักเอง หลังพบกับมากิ เด็กหนุ่มไฮโซเจ้าชู้ที่เธอก็ไม่ชอบเขาเท่าไหร่ แต่เพราะเขาตามจับจนรู้ตัวตนของเธอได้และขอร่วมทำบริการนี้เพื่อหาเงินด้วย โดยที่มีเหตุผลส่วนตัว ซึ่งการเข้าคู่กันทำให้ธีมเรื่องค่อยๆ กลายมาเป็นแนวธุรกิจ หาทางบริหารจัดการโปรโมท ก่อนที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ มากขึ้น และเริ่มมองว่าความรักสำคัญกว่าเงิน ซึ่งนี่คือช่วงที่พาให้เรื่องเข้มข้นขึ้นในหลายๆ ทาง ทั้งความรักของเธอ และการต่อสู้กับกฎของโรงเรียนที่มี ผอ.เข้มงวดไม่ปราณีใครทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องพาตัวเองไปในตอนจบที่ไกลมากกว่าการต่อสู้ภายในโรงเรียน ถือเป็นความกล้ายกระดับซีรีส์ขึ้นสูงมองในเชิงการแก้ปัญหาโครงสร้างทางสังคม ซึ่งเป็นข้อดีของซีรีส์ญี่ปุ่นเอาประเด็นความรักในโรงเรียนมาชำแหละว่ากฏนี้เหมาะสมแค่ไหนในทุกแง่มุม แต่ว่าเรื่องก็เลือกจบแบบขัดใจสายฟีลกู๊ดอยู่พอสมควร ไม่สวยหรูมาก แต่ก็ปิดจบประเด็นส่วนใหญ่ไปได้ สาเหตุคงเพราะว่าผู้สร้างต้องการเปิดประเด็นทำต่อในซีซั่น 2 ด้วยครับ ซึ่งก็จะมีบริการใหม่มาแข่งกับนางเอกที่ดาร์คกว่าแบบชัดเจน

จุดที่ซีรีส์ออริจินัลเรื่องนี้กล้าแตกต่างมากจากซีรีส์ญี่ปุ่นปกติอย่างเห็นได้ชัดคือ ความแรงของเนื้อหาที่เปิดมาแค่ตอนแรก เรื่องก็เล่นกับฉากรักกอดจูบเอากันของนักเรียนอยู่ทุกที่จนเหมือนซีรีส์ฝรั่ง ซึ่งนี่คือจุดที่ซีรีส์ขายปมแนวคิดจากมุมผู้ใหญ่ที่ออกกฏว่ามันคือความผิด ทำให้เด็กวัยรุ่นใจแตก สังคมเสื่อมทรามลง แต่เบื้องลึกก็คือเงินบริจาคที่พ่อแม่ต้องการควบคุมลูกไว้อีกที โดยมีโรงเรียนเป็นตัวกลางช่วยทำตามความต้องการของพ่อแม่ 

 

ตัวซีรีส์เองก็ท้าทายสังคมญี่ปุ่นกว่าปกติด้วยการให้มีความรักที่แตกต่างมากมายไว้ครบ อย่างหญิงรักหญิง ชายรักชาย ประเด็นเกย์ในเรื่องถูกแอบไว้ในตอนแรกเหมือนปกติ แต่ตอนเปิดเผยเรื่องนำมาใช้ได้ไกลกว่า เมื่อหญิงที่เปิดเผยตัวว่ารักเพศเดียวกันไม่ได้เอาความแค้นนี้ไปลงกับคนอื่นเมื่อเธอมีอำนาจ เกย์ชายเองก็เปิดเผยกับสังคมโรงเรียนได้ แต่ก็พบว่าเป็นความว่างเปล่าเมื่อโรงเรียนกลับมองข้ามไม่คิดจะใช้กฏ ทำให้พวกเขากลายเป็นคนรสนิยมแปลกในสังคม ไม่คิดว่านี่คือความรัก ซึ่งเรื่องยกระดับประเด็นนี้ขึ้นมาให้ได้คิดได้ดีมาก 

นอกจากนี้ยังมีประเด็นความรักต้องห้ามครูกับนักเรียน ทั้งครูผู้หญิงที่เป็นนักจิตวิทยาประจำโรงเรียนกับเด็กชายที่มาหลงรัก และครูหนุ่มรูปหล่อกับเด็กนักเรียนหญิงที่เจอกันในแอปหาคู่และตกหลมรักกันจากการโกหกสถานะตัวตนในตอนแรก ซึ่งเรื่องก็ผูกประเด็นให้เป็นความรักหลายเส้าซ้อนทับเกี่ยวข้อง และมีผลเชื่อมโยงไปยังความสัมพันธ์ของคู่ตัวเอกอิจิกะกับมากิได้ดีมากในช่วงครึ่งหลัง เป็นการเขียนบทที่ค่อยๆ วางปมมาซ้อนทับกันได้อย่างฉลาดมากทีเดียวครับ และเรื่องก็จบเนื้อหาส่วนนี้เป็นการ Coming of Age ของตัวละครเด็กวัยรุ่นที่สมเหตุผลและดูแข็งแกร่ง ว่านี่เป็นแค่บทเรียนความรักในช่วงวัยที่เราทุกคนผิดพลาดกันได้ทั้งนั้นครับ

แต่ว่าความรักของบางคนก็ดูอ่อนไปหน่อย อย่าง Geek ที่หลงรักนางเอกอย่างบริสุทธิ์ใจ และบทช่วงหนึ่งถูกทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นตัวร้าย เรื่องวางตัวละครนี้ได้อย่างน่าสนใจ มีปมลึกในวัยเด็กกับครอบครัวครัวนางเอก แต่เรื่องกลับทิ้งประเด็นนี้ไปในภายหลังแบบง่ายๆ จนไม่แน่ใจว่าผู้สร้างอาจจะต้องการไปทำต่อในซีซั่น 2 หรีอเปล่า หรือความรักต่างชนชั้นที่เรื่องหยิบใส่มาช่วงหลัง ก็ไม่ได้มีการปูพื้นว่าไปรักกันและพบเจอกันตอนไหน เพียงแค่นำมาเป็นประเด็นเคสภารกิจในเรื่องสั้นๆ เท่านั้น ทั้งๆ ที่ตอนจบของเรื่องนี้ค่อนข้างพลิกจากที่คิดมากพอสมควร ซึ่งก็น่าเสียดายว่าน่าจะนำมาขยี้เป็นคู่รักหลักได้ด้วยซ้ำครับ

นักแสดงอย่าง Ai Mikami แบกรับบทนางเอกอิจิกะได้อย่างดีมากตั้งต้นเรื่องยันจบเรื่อง โดยที่พระเอก Ryubi Miyase บทน้อยกว่ามากจนแทบจะเป็นตัวละครสมทบมากกว่า ซึ่งค่อนข้างแปลกมากที่เรื่องโฟกัสกับตัวละครหญิงอย่างเข้มข้นแม้จะเป็นเรื่องความรักที่ต้องมีสองฝั่ง แต่เรื่องก็โฟกัสให้เห็นว่าฝ่ายหญิงต้องเสียเปรียบทุกทางในความสัมพันธ์นี้ ทั้งฐานะทางบ้านที่ยากจน การตั้งท้อง ประเด็นพ่อแม่ที่อับอายลูกสาวใจแตกมากกว่าเด็กผู้ชายที่มั่วไปได้เรื่อยๆ (ตัวมากิเองในตอนแรกก็มีสาวมาติดพันมากมายหลายคนตั้งแต่เปิดเรื่องเลย) ซึ่งเธอเล่นบทนี้ได้อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่สาวบ้านจน ไม่คิดมีความรัก มองตัวเองต่ำต้อย จนค่อยๆ มีความรักผลิบานในใจ และสุดท้ายก็เปลี่ยนตัวเองมาเป็นนักสู้เพื่อสิทธิทางสังคม เธอก็ไม่ใช่สาวที่สวยมาก แต่หน้าตาเด่นแตกต่างสุดๆ จากนักแสดงญี่ปุ่นคนอื่น จนเหมาะมากกับบทเด็กสาววัยรุ่นคนจนคนเดียวในโรงเรียนจริงๆ ครับ (คนอื่นนี่ออร่าลูกคุณหนูออกทั้งนั้น โดยเฉพาะเพื่อนสาวเศรษฐีที่พยายามช่วยเธอตั้งแต่แรก)

 

สรุป ซีรีส์ที่พล็อตเรื่องดูง่ายๆ แต่เนื้อในกลับเจาะลึกถึงประเด็นความรักที่แตกต่างในสังคมโรงเรียนได้อย่างน่าประทับใจ โดยไม่มีเรื่องเหยียดชนชั้น เรื่องกล้าลงลึกฉากล่อแหลมกว่าซีรีส์ญี่ปุ่นปกติค่อนข้างมาก จนเหมือนเป็นซีรีส์ฝรั่งย่อมๆ ในรูปแบบสังคมเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นไฮโซ โดยหยิบเอาเรื่องความรักความชอบทางเพศที่เปิดกว้างหลากหลายในสังคมจริงปัจจุบันมาถกเถียงกันด้วยเหตุและผล ผ่านธุรกิจรักษาความลับของนางเอกที่ออกเทาๆ เหมือนแบล็คเมล์เพื่อนด้วยกัน แต่อีกนัยหนึ่งคือการช่วยสนับสนุนต่อต้านกฏเกณฑ์ที่ผู้ใหญ่ออกกันขึ้นมา ซึ่งนางเอก Ai Mikami แบกรับบทนำทั้งเรื่องมากกว่าพระเอกได้อย่างน่าประทับใจ แต่เรื่องไม่ได้จบลงแบบฟินสวยงาม ซึ่งซีรีส์ขึ้นบอกไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมสายหวานนักครับ และยังทิ้งเรื่องไว้มีต่อซีซั่น 2 ด้วย


รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!