playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Chosen งานไซไฟสูตรสำเร็จสเกลเล็กทุนต่ำของ Netflix

สรุป

ซีรีส์แนวไซไฟลึกลับในเมืองเล็กตามสูตรสำเร็จเดิมๆ แบบ Super 8 / Stranger things แต่ปรับอายุตัวละครเป็นวัยรุ่นทีนเอจ มีเรื่องรักความสับสนทางเพศสภาพมาเกี่ยวข้อง เนื้อเรื่องแนวไซไฟไม่ได้ฉีกอะไรแปลกใหม่นัก แต่ตัว CG ต่างๆ ทำได้ดีในงานสเกลเล็กทุนต่ำ แต่เรื่องไม่สมูธจากการตัดสลับชีวิตวัยรุ่นกับไซไฟอยู่เรื่อยๆ จบแบบทิ้งปมไว้เยอะ ไม่แนะนำให้ดูถ้ายังไม่มีข่าวทำ SS2 ต่อครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • พล็อตแนวสูตรสำเร็จลึกลับสเกลเล็กในเมืองเล็กๆ แต่ใช้ตัวละครวัยรุ่นเดินเรื่อง
  • CG ออกมาดูดีในงานสเกลเล็กทุนต่ำ
  • นางเอกเป็นไบเซ็กชวล
  • 6 ตอนจบสั้นๆ ตอนละ 40 กว่านาที

 

Cons

  • มีพล็อตโฮลกับความไม่เมคเซนส์อยู่หลายจุด
  • ตัดสลับชีวิตวัยรุ่นกับการเดินเรื่องไซไฟไม่ดีเท่าไหร่
  • ทิ้งปมไว้เยอะจนดูไม่เคลียร์หลายอย่างมาก

 

ADBRO

Chosen ผู้ถูกเลือก ซีรีส์ Netflix แนวไซไฟวัยรุ่นจากเดนมาร์ค 6 ตอนจบซีซั่น เรื่องราวลึกลับในเมืองหนึ่งที่มีเอเลี่ยนแฝงตัวอยู่มานาน ก่อนที่ความลับอันนี้จะถูกเปิดเผยจากกลุ่มวัยรุ่นที่ตามล่าหาความจริง

 Chosen (2022) on IMDb

ตัวอย่าง Chosen ผู้ถูกเลือก

ซีรีส์แนวไซไฟจากเดนมาร์ค เป็นเทศเล็กๆ ที่มีประชากรแค่ 5.8 ล้านคน เราจึงไม่ค่อยได้เห็นหนังซีรีส์จากชาติในเน็ตฟลิกซ์บ่อยนัก และด้วยความที่เดนมาร์กเป็นประเทสที่สงบสุขมากๆ อะไรหลายๆ อย่างในเรื่องนี้เลยดูชนบทเรียบๆ ทั้งๆ ที่ใช้พล็อตเรื่องไซไฟต่างดาวใหญ่โต ก็เป็นอะไรที่แปลกดีกับการรับชมเหมือนกันครับ

เรื่องย่อ

เมืองมิดเดลโบ เมืองเล็กๆ ริมทะเลของเดนมาร์กที่มีจุดขายอยู่ที่เป็นเมืองที่มีอุกาบาตตกใส่เมื่อ 17 ปีก่อน จนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ กลุ่มเด็กวัยรุ่น 5 คนผู้สงสัยในเหตุการณ์เมื่อ 17 ปีก่อนว่าอาจจะไม่ใช่อุกาบาตที่ตกลงมา แต่เป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวที่ตกมายังโลกมากกว่า จึงพยายามค้นหาจริงในเรื่องนี้ ในขณะที่ชาวเมืองทั้งหลายกลับพยายามปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น

 

รีวิว Chosen

ซีรีส์เรื่องนี้ใช้พล็อตโครงเรื่องสูตรสำเร็จแนวไซไฟในเมืองเล็กแบบเดียวกับหนังสมัยก่อนอย่างพวก ET, COCOON หรือที่ถูกนำมาปรับเป็นสมัยใหม่หน่อยก็อย่าง SUPER 8 กับ Stranger Things ซึ่งพล็อตแนวความลับในเมืองเล็กที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือต่างมิติเป็นอะไรที่นิยมมากในสมัยก่อนจนถึงในปัจจุบันเองก็ยังถือว่ามีทำออกมาเรื่อยๆ เพราะตามสูตรมันคือการทำหนังทุนต่ำในสเกลเล็กที่ผูกเรื่องราวยิ่งใหญ่ไว้ในตัว มีความระทึกน่าตื่นเต้น ทำให้คนดูสนใจติดตามการเฉลยความลับในเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็แทบไม่ได้มีอะไรฉีกแปลกใหม่ออกไปจากที่ผ่านมาเลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวเรื่องจะทำได้แย่ เพราะในงานทุนต่ำของเรื่องนี้ สิ่งที่น่าชมเชยที่สุดคือตัว CG เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่ดูแล้วผ่านใช้ได้เลย ซึ่ง CG ในเรื่องก็มีทั้งเอเลี่ยนในแบบชุดรบ ยานอวกาศรูปร่างเหมือนสิ่งมีชีวิตแปลกตา สกิลของเอเลี่ยนที่ใช้ในโลก ฉากรังเอเลี่ยนที่ดูน่ากลัวสมจริง ฉากวาร์ปไปต่างดาวที่ดูล้ำ เรียกว่าทีมงานที่คิดทำซีรีส์เรื่องนี้ก็คงตั้งใจปิดจุดอ่อนตรงนี้มาอย่างดี แม้ในเรื่องจะยังเห็นถึงความทุนต่ำที่เซฟสเกลเรื่องไว้แคบๆ อยู่ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบก็ตามที

CG Chosen
งาน CG ในเรื่องถือว่าทำได้ดีเลย

แต่สิ่งที่เรื่องนี้อาจจะหลุดจากแนวสูตรสำเร็จที่พูดถึงไว้นิดนึงตรงที่ตัวละครในเรื่องนี้ไม่ใช่เด็กเล็กแบบเรื่องอื่นๆ แต่เป็นเด็กวัยรุ่นทีนเอจมีอายุขึ้นมาหน่อย แล้วก็อยู่ในช่วงวัยสับสนค้นหาตัวเอง ซึ่งตามสไตล์เน็ตฟลิกก็หนีไม่พ้นเรื่องตัวตนเพศสภาพ ตัวเรื่องให้เอ็มม่านางเอกหลักของเรื่องเป็นไบเซ็กชวล คือมีความรักกับเพศไหนก็ได้ ซึ่งเนื้อเรื่อง 6 ตอนของเรื่องนี้มีเรื่องรักของนางเอกแทรกปนไปตลอดเรื่อง มีฉากติดเรตนิดหน่อย โดยผูกเรื่องราวความรักกับคนในกลุ่มของเธอ ระหว่างผู้ชายที่เชื่อในตัวเธอทุกอย่างกับผู้หญิงที่เนิร์ดๆ ติสๆ ในโรงเรียนถูกกลั่นแกล้งตลอดเพราะบอกใครต่อใครว่าเธอเป็นแวมไพร์ที่ไม่กินเลือด จนเข้ากับเอ็มม่าได้ดีเพราะตัวเอ็มม่าเองก็เข้ากับใครไม่ได้เช่นกันจากนิสัยส่วนตัวที่ชอบชวนใครต่อใครทะเลาะอยู่เรื่อย ซึ่งเรื่องราวความรักของเรื่องนี้มีการผูกไว้ให้ดูสำคัญกับเรื่องราวอยู่นิดๆ เพราะทั้งคู่คือคนที่คอยช่วยเธอสืบเรื่องในเมือง แต่โดยรวมก็ยังมองว่าเป็นการยัดเข้ามาตามสูตรเน็ตฟลิกซ์มากกว่าที่มักให้ตัวละครในเรื่องเป็นเกย์หรือ LGBTQ ตามสมัยนิยมในปัจจุบัน ไม่ใช่ความจำเป็นอะไรกับเรื่องมากนัก แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้มีเนื้อหาในส่วนนี้เยอะมากจนกลบเรื่องราวไซไฟที่เป็นเมนหลักของเรื่องนี้

ส่วนเมนหลักของเรื่องนี้อย่างที่บอกไปโครงเรื่องราวทั้งหมดค่อนข้างเป็นไปตามสูตรสำเร็จมากๆ ขึ้นต้นด้วยความลึกลับว่าเอเลี่ยนลงมายังโลกจริงหรือไม่ แล้วก็โผล่มาในเวลาไม่นาน ก่อนที่ตัวละครจะเริ่มสืบสวนหาความจริง ซึ่งทีมตัวเอกจะแบ่งเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายนางเอกที่มีคนรักสองคนคอยซัพพอร์ท นางพยายามค้นหาเรื่องราวลึกลับในเมืองที่เชื่อมต่อกับตัวเธออย่างบังเอิญเกินไป ส่วนอีกฝ่ายคือ แมดส์ หัวหน้าทีมที่ตามสืบสวนเรื่องราวนี้มานานก่อนเอ็มม่า เขาเป็นหนุ่มขาพิการนั่งบนรถเข็นที่ผูกโยงเรื่องราวต่างๆ ประกอบเข้าด้วยกันเป็นทฤษฏีสมคบคิดใหญ่โต และก็พยายามหาหลักฐานมาสนับสนุน ซึ่งเขาเป็นคนชวนนางเอกเข้าทีมเอง แต่แล้วกลับปฏิเสธเรื่องเล่าของเธอที่ไปพบเจอเอเลี่ยนที่ดูเว่อร์ๆ จนกลายเป็นความขัดแย้งกัน ซึ่งเรื่องราวก็วางไว้ให้แมดส์เป็นตัวละครที่จะไปเข้ากับฝ่ายตัวร้ายของเรื่องในภายหลัง ซึ่งเป็นบริษัทยักใหญ่ที่มาตั้งโรงงานอู่ต่อเรือในเมืองเล็กๆ จนเป็นที่สงสัยตามทฤษฏีสมคบคิดของแมดส์ว่าบริษัทนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวพันกับความลับต่างดาวที่เขาคิดไว้แน่ๆ

นอกจากนี้ในเรื่องยังแบ่งฝ่ายเพิ่มอีกเป็นเอเลี่ยนที่ลงมายังโลกกับเอเลี่ยนที่ตามสืบพวกที่ลงมายังโลก โดยเอ็มม่าจะได้ไปรู้จักกับ ลูคัส นักสืบเอเลี่ยนที่ค่อยตามหาพวกที่มายังดาวโลกนี้ โดยเขาให้เธอช่วยสืบหาพวกมัน โดยบอกว่าพวกนี้คือต่างดาวที่ลงมายึดครองร่างมนุษย์แบบที่ดาวบ้านเกิดของเขา ซึ่งเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดูเหมือนเพื่อนต่างวัยมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน แต่ในส่วนของเอเลี่ยนที่ลูคัสตามหาก็เป็นกลุ่มคนลึกลับที่แมดส์เคยขึ้นบัญชีติดตามไว้ ซึ่งฝ่ายนี้ถูกทำให้ดูเป็นกลุ่มลึกลับน่ากลัว โดยบางคนเกี่ยวพันกับคนรู้จักใกล้ชิดของนางเอกเองด้วย ซึ่งทำให้เรื่องดูสับสนว่าเอเลี่ยนฝ่ายไหนกันแน่ที่เป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่ด้วยความที่บทค่อนข้างสูตรสำเร็จมาก อะไรๆ ที่ตั้งใจไว้หักมุมในเรื่องพอเฉลยออกมาก็ตามคาดเฉยๆ ไปทั้งหมด

ส่วนด้อยสุดของซีรีส์คงเป็นตัวบทที่ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นเชื่อมต่อกันไม่ได้ดีเท่าไหร่ คือโครงเรื่องราววางไว้ตามสูตรแบบนี้ควรจะดูลื่นไหลสมูธ แต่เนื้อเรื่องกลับตัดสลับชีวิตวัยรุ่นกับตัวไซไฟไม่ลงตัว แบบอยู่ๆ นางเอกก็มีอะไรกับเพื่อนปุ๊บปั๊บแทรกมาทันทีในตอนที่กำลังเดินเรื่องไซไฟ หรืออยู่ๆ ก็มีโมเมนต์รักๆ แทรกมาระหว่างทางแบบไม่เข้าท่า รวมถึงตัวละครแมดส์ที่เป็นตัวหลักของเรื่องคนพิการก็ดูเกรี้ยวกราดเจ้าบงการไปทุกอย่างแบบไม่มีปูสาเหตุให้เรารู้ว่า เพราะอะไร ทำไม เขาถึงมาสืบเรื่องราวนี้เอง ตัวเรื่องเปิดมาจู่ๆ ก็มีกลุ่มนี้อยู่แล้ว แถมสืบเรื่องราวได้ลึกซะเหมือนเป็นสายลับรัฐบาล โดยไม่มีแบ็คกราวน์รองรับให้เข้าใจเลย

แล้วตัวเรื่องก็ค่อนข้างวางเรื่องเพื่อไปต่อที่ SS2 มากแบบชัดเจนเกินไปหน่อย เพราะค้างปมปัญหาไว้มากมาย อีกทั้งยังมีพล็อตโฮลไม่สมเหตุผลว่านางเอกหนีรอดในตอนท้ายได้ไง ทั้งๆ ที่ตัวร้ายมีความสามารถขนาดนั้น ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูหลุดๆ หลายอย่างมากพอตัวครับ

 

สรุป Chosen สนุกและดีไหม

เป็นซีรีส์ที่ดูเพลินๆ พอได้ เพราะเรื่องราวแนวนี้ก็เป็นสูตรสำเร็จที่ผู้ชมส่วนใหญ่ชอบ แต่โดยรวมการเดินเรื่องมีปัญหาพอสมควร ทิ้งปมไว้เยอะมาก ก็เลยไม่ได้เป็นซีรีส์ที่ดีขนาดแนะนำให้ดู และอาจจะไม่ได้ทำ SS2 ต่อก็เป็นไปได้

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!