รีวิว Citadel (6 ตอนจบ) ซีรีส์แอ็กชั่นสายลับเนื้อเรื่องเชยๆ แต่อลังการงานสร้างคุ้มค่าสุดๆ (ไม่สปอยล์)
Citadel
Summary
โดยรวมนี่คือผลงานซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่สมราคา แม้ว่าแทบทั้งหมดจะดูเชยๆ ตกยุคไปหน่อย มีจุดไม่สมเหตุผลให้เห็นหลายครั้ง แต่ก็ทำให้ว้าวมากกับตอนจบที่ขมวดเรื่องราวทุกอย่างได้ลงตัวสมเหตุผล ทำให้นี่คือซีรีส์ที่คุณควรต้องดูเพราะมันคุ้มค่ามากในระดับที่ไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ อีกแล้ว ในยุคที่สตรีมมิ่งกำลังมีปัญหาขาดทุนหนักกันทุกเจ้าขนาดนี้ ดูเถอะยังไงก็คุ้ม!
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- แอ็กชั่นฟอร์มยักษ์ทุนสร้างสูง
- นักแสดงเล่นได้สมบทบาทเต็มไปด้วยเสน่ห์
- เรื่องราวซับซ้อนหักมุมหลายรอบ
- ตอนจบที่น่าทึ่ง!
- มีพากย์ไทย
Cons
- พล็อตเรื่องเชย
- ย้อนอดีตบ่อยเกินไป
- มีจุดไม่สมเหตุผลบ่อยหลายครั้ง
- จำนวนตอนสั้น เวลาในตอนก็สั้น
Citadel ซีรีส์แอ็กชั่นสายลับ 6 ตอนผลงานสร้างของ Amazon Prime เรื่องราวของ ซิทาเดล องค์กรสายลับอิสระระดับโลกถูกแมนติคอร์ที่เป็นสมาคมใหม่ทำลายลง ความทรงจำของสายลับแถวหน้าอย่างเมสัน เคน (ริชาร์ด แมดเดน) และนาเดีย ซินห์ (ปริยังกา โจปรา โจนาส) ถูกลบไป ทำให้พวกเขาเกือบหนีเอาชีวิตไม่รอด 8 ปีต่อมา เบอร์นาร์ด ออร์ลิค (สแตนลีย์ ทุชชี่) อดีตเพื่อนร่วมงานของเมสันมาขอให้เขาช่วยเพื่อป้องกันไม่ให้แมนติคอร์จัดระเบียบใหม่ให้โลก
รีวิว Citadel Amazon Prime (ไม่มีสปอยล์)
ซีรีส์สายลับฟอร์มยักษ์ทุน 300 ล้านเหรียญของ amazon prime ที่ได้เครดิตผู้สร้างพี่น้องรุสโซ่ปะหน้ามาด้วย แต่ดูเหมือนจะเป็นผลงานฟอร์มตกตาม The Gray Man หนังสายลับฟอร์มยักษ์ของ Netflix ไปเช่นกัน ที่แม้จะถูกใจคนดูไม่น้อย แต่คะแนนวิจารณ์ก็ออกมาค่อนข้างแย่ จากปัญหาบทที่เชยตกยุคเป็นหลัก
ปัญหาของ Citadel ก็เช่นเดียวกัน พล็อตสายลับความจำเสื่อมถูกนำมาใช้บ่อยมาก จนทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกถึงความสดใหม่อีกแล้ว แม้ตัวเรื่องจะพยายามให้ดูทันสมัย แต่ก็ไม่อาจจะสลัดภาพตรงนี้ไปได้ เพราะมันเป็นเมนหลักของเรื่องแทบทุกตอนที่เน้นย้อนความทรงจำเรื่องสายลับพระเอกกับนางเอก พยายามผูกเรื่องให้ซับซ้อนว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นใคร ใครคือคนทรยศองค์กร การย้อนอดีตถูกนำมาใช้เล่าเรื่องมากกว่าจะดำเนินเรื่องไปข้างหน้า ในสัดส่วนย้อนอดีต 70% เดินหน้า 30% ทำให้เรื่องในปัจจุบันแทบไม่ได้ขยับไปไหน เสียเวลาไปกับการย้อนอดีตซ้ำซ้อนไปเรื่อยๆ แม้ว่าวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้จะเหมาะกับซีรีส์สายลับ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้สร้างฉากแอ็กชั่นได้ง่ายขึ้นในทุกตอน โดยเนื้อเรื่องไม่ต้องเดินหน้าไปไหนมาก แต่มันก็ทำให้คนเบื่อในจุดนี้เมื่อเรื่องไปไม่ถึงไหนสักที
สิ่งที่เชยอีกอย่างในเรื่องคือพล็อตสายลับที่มีใจให้กัน แต่ด้วยหน้าที่อันตราย ทำให้ความสัมพันธ์นี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นมา ซึ่งหนังสายลับหลายๆ เรื่องก็เอาพล็อตนี้มาใช้กันจนเกร่ออีกเช่นกัน และด้วยความที่เนื้อเรื่องในซีรีส์ไม่ค่อยเดินหน้าไปไหน ความสัมพันธ์ที่ผู้ชมจะได้เห็นก็คือเรื่องราวในอดีตเป็นส่วนใหญ่ ก็เหมือนหนังสายลับเชยๆ ที่ค่อยๆ ปูความสัมพันธ์สายลับด้วยกันแบบปากร้ายปะทะคารมแต่ก็แอบรักกัน ทำให้เรื่องดูเลี่ยน+เชยเข้าไปอีก แม้ว่านักแสดง Richard Madden กับ Priyanka Chopra Jonas จะแสดงได้อย่างมีเสน่ห์ เคมีของทั้งคู่เข้ากันมากก็ตาม
แต่ถ้าตัดเรื่องความเชยทั้งหลายออกไป ดูโดยไม่มีอคติในเรื่องนี้มาเจือปน นี่ก็เป็นซีรีส์สายลับที่ลงทุนสูงเหมือนหนังฟอร์มยักษ์ลงฉายโรงดีๆ ได้เลย ทุกตอนต้องมีภารกิจลับเว่อร์ๆ ฉากแอ็กชั่นหวือหวาอลังการสมราคา 300 ล้านเหรียญ (มี 6 ตอน ตกตอนละ 50 ล้านเหรียญ) และใช้เวลาในแต่ละตอนกระชับ เล่าเรื่องไว ตอนละ 30-40 นาทีเท่านั้น นี่จึงเป็นผลงานที่ทำมาเพื่อเอนเเตอร์เทรนคนดูอย่างแท้จริง แม้ว่าคนอาจจะด่าๆ ไม่ชอบเรื่องนี้แค่ไหน แต่ก็ติดตามดูเรื่องนี้จนจบได้ไม่ยากอยู่ดี
และที่สำคัญคือเมื่อผู้ชมดูจนจบตอนที่ 6 ของซีซั่นแรก ความลับสุดท้ายของเรื่องที่หักมุมเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างเป็นเหตุผลลงตัว ทำให้เรื่องเชยๆ ทั้งหมดที่ผ่านมา 5 ตอนกลายเป็นการปูทางมาเพื่อจุดนี้ได้อย่างสมเหตุผล คือแม้ว่ามันจะเชย แต่มันก็จำใจเชยเพื่อให้ตอนจบเป็นอะไรที่น่าทึ่งอย่างถึงที่สุดครับ และก็มีต่อ SS2 (โดยขึ้นเรื่องราวใหม่) เพราะทาง Amazon อนุมัติให้สร้างตั้งแต่แรกแล้ว รวมถึงการเปิดจักรวาลภาคแยกเพิ่มมาอีก
โดยรวมนี่คือผลงานซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่สมราคา แม้ว่าแทบทั้งหมดจะดูเชยๆ ตกยุคไปหน่อย มีจุดไม่สมเหตุผลให้เห็นหลายครั้ง แต่ก็ทำให้ว้าวมากกับตอนจบที่ขมวดเรื่องราวทุกอย่างได้ลงตัวสมเหตุผล ทำให้นี่คือซีรีส์ที่คุณควรต้องดูเพราะมันคุ้มค่ามากในระดับที่ไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ อีกแล้ว ในยุคที่สตรีมมิ่งกำลังมีปัญหาขาดทุนหนักกันทุกเจ้าขนาดนี้ ดูเถอะยังไงก็คุ้ม!
https://www.playinone.com/folkplay/citadel-diana-review-amazon-prime/