รีวิว City Hunter อีกหนึ่งผลงาน Live Action จาก Netflix ที่ถอดแบบมาได้เป๊ะมากๆ
City Hunter
Summary
สรุป เป็นผลงาน Live Action จากต้นฉบับญี่ปุ่นที่ได้ทำเองสักที แล้วก็ถ่ายทอดออกมาได้ตรงเป๊ะเกือบ 100% หนังมีความทะลึ่งทะเล้นจากมุกบี๊บในมังงะที่ใส่กันมาเต็มที่พร้อมออฟชั่นเสริมความฮาครบ ฉากแอ็กชั่นการใช้ปืนที่โม้แบบเว่อร์ๆ เหนือกว่าจอห์นวิคซะอีก นักแสดงเล่นได้อย่างเนียนเป็นธรรมชาติกับบทบ้าๆ บอๆ แต่ต้องเท่ทุกจังหวะอย่างลงตัว คาโอริอาจจะผอมแห้งไปนิดๆ แต่ก็ยังเข้ากันได้ดี แต่เนื้อเรื่องของภาคนี้เป็นแค่จุดเริ่มสตาร์ทเรื่องเท่านั้นจึงยังไม่ได้ลงลึกอะไร เป็นแค่การแนะนำโครงสร้างโลกซิตี้ฮันเตอร์ให้ผู้ชมเท่านั้นครับ
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- Live Action จากญี่ปุ่นทำเองครั้งแรกของเรื่องนี้
- ถอดแบบมังงะมาได้แทบทั้งหมด
- มุกทะลึ่งเพียบ
- ฉากแอ็กชั่นยิงปืนเว่อร์สุดๆ
- นักแสดงเป็นธรรมชาติ
- มีพากย์ไทย
Cons
- เนื้อเรื่องเส้นตรงแหน่วไม่มีความซับซ้อนเลยสักนิด
- เรื่องเป็นแค่จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์กับคาโอริเท่านั้น
City Hunter ซิตี้ฮันเตอร์ ภาพยนต์ Live Action Original Netflix จากมังงะดังของ Tsukasa Hojo เมื่อปี 1985 เรื่องราวของ ซาเอบะ เรียว นักสืบเอกชนผู้มีทักษะแม่นปืนขั้นเทพและเจ้าชู้ตัวพ่อ จับพลัดจับผลูมาร่วมมือกับ คาโอริ น้องสาวของคู่หูเก่าผู้ล่วงลับ เพื่อไขความจริงเบื้องหลังการตายของเขา
รีวิว City Hunter ซิตี้ฮันเตอร์ Netflix
มังงะขึ้นหิ้งที่ถูกเกาหลีกับฝรั่งเศสนำไปสร้างโดยใช้คนแสดง นี่เป็นครั้งแรกที่เรื่องนี้ถูกสร้างโดยญี่ปุ่น และถูกสร้างโดย Netflix ที่ช่วงหลังนี่มือขึ้นมากกับงาน Live Action ติดๆ กันหลายเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็สอบผ่านฉลุยไปอีกเช่นกัน
เนื้อเรื่องเริ่มใหม่ตั้งแต่แรกโดยเป็นจุดเริ่มต้นของ ซาเอบะ เรียว (แสดงโดย Ryohei Suzuki) กับ คาโอริ (แสดงโดย Misato Morita) น้องสาวของคู่หูที่ตายไปจากเหตุฆาตกรรมปริศนาที่เกี่ยวพันกับองค์กรลับและ Angel Dust ยาทำให้คนมีพลังเหนือมนุษย์ซึ่เกี่ยวพันกับอดีตของตัวพระเอกเอง แต่ในเรื่องนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่ม เนื้อเรื่องจึงเป็นแค่ช่วงออร์เดิร์ฟโชว์ความสามารถกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ก่อนจะมาเป็นคู่หูกันในภาคต่อไป ซึ่งเนื้อเรื่องแทบจะง่ายๆ กลวงโบ๋เลยก็ว่าได้ เป็นการตามหาสาวน้อยคอสเพลย์ที่ได้รับยาตัวนี้แล้วหนีจากห้องทดลององค์กรลับ เธอจึงถูกตามล่าตัวกลับไปทดลองต่อ โดยมีซาเอบะ เรียวคอยช่วยป้องกันเธอไปพร้อมกับคาโอริที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยเพื่อสืบเรื่องพี่ชายที่ตายไปของเธอ ก่อนที่จะพบกับบอสเป็นคนในองค์กรในตอนท้ายแบบง่ายๆ เรื่องแทบจะเป็นเส้นตรงแหน่วไม่มีความซับซ้อนเลยสักนิด แต่มันก็ช่วยทำให้การเดินเรื่องสนุกแบบเรียบง่าย เล่าโครงสร้างของโลกกับตัวละครสำคัญในซิตี้ฮันเตอร์ให้ผู้ชมได้รู้จัก และก็ทิ้งเนื้อหาลึกๆ ของตัวละครไว้อย่างอดีตอันเจ็บปวดของคาโอริที่น่าติดตามไปยังภาคต่อไป
สิ่งที่ดีสุดของเรื่องนี้คือการถอดแบบทุกอย่างจากมังงะมาได้แทบไม่มีผิดเพี้ยน ตัวซาเอบะ เรียว ทะลึ่งทะเล้นลามกไปทั้งเรื่องกับมุกบี๊บเหมือนมังงะไม่มีผิด ตัวคาโอริเองยังอุตส่าห์สร้างเรื่องราวให้ไปหาฆ้อนมาไล่ทุบได้เหมือนกันอีก โดยออฟชั่นมุกตลกทะลึ่งปึงปังเว่อร์ๆ จากต้นฉบับแทบจะถูกหยิบมาใส่ในเรื่องนี้ได้หมด โดยทุกสิ่งที่ใส่มาก็เนียนลื่นไหลกลมกลืนไปกับเรื่องได้อย่างสนุก แล้วก็ขยันเล่นไม่หยุดใส่มาทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบกันไปเลย
ฉากแอ็กชั่นเว่อร์ๆ เท่ๆ ก็ยังอยู่ครบ หนังใส่ความโม้โอเว่อร์ทุกอย่างทำให้เห็นเลยว่าซาเอบะ เรียว เก่งเกินมนุษย์ขนาดไหน ด้วยฉากยิงปืนในผับที่เต็มไปด้วยคนแต่ยิงเข้าเป้าตัวร้ายได้อย่างสบายๆ แถมยังมีฉากโดนตัวร้ายหลายสิบคนอาวุธครบมือรุมถล่มก็ยังสู้ไปแบบชิลๆ เท่ๆ โดยไม่เสียเลือดสักหยด ยิ่งกว่าจอห์นวิคซะอีก หรือยาเหนือมนุษย์ที่ศัตรูใช้ก็แทบจะทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งผู้ชมที่ไม่เคยอ่านหรือดูมาก่อนก็อาจจะติดใจว่าพระเอกมันเก่งเว่อร์อะไรขนาดนี้ โม้แตกเกินไปรึเปล่า แต่นี่คือความสนุกของเรื่องนี้จากต้นฉบับเป๊ะๆ และความเก่งของพระเอกมีที่มาที่ไปที่ซ่อนอยู่ ซึ่งน่าจะนำมาเล่าในภาคต่อไป
นักแสดง Ryohei Suzuki สอบผ่านฉลุยกับการเล่นเป็นตัวละครในตำนานนี้ เขาทะลึ่งทะเล้นแบบเป็นธรรมชาติมาก ฉากเต้นโชว์ช้างน้อยในผับนี่ฮามาก ฉากที่ต้องขรึมเครียดก็เปลี่ยนได้ฉับพลัน ซึ่งบทในเรื่องต้องสลับอารมณ์เคร่งขรึมกับทะลึ่งทันทีอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ขณะสู้ๆ อยู่ก็ต้องเล่นมุกตลกออกมาให้ได้ ซึ่งเขาทำได้ถึงมาก ส่วน Misato Morita ที่เล่นเป็นคาโอริอาจจะดูผอมแห้งๆ หน่อย โดยก่อนนี้เธอก็เล่นบทนางเอกใน The Naked Director ที่อวบอิ่มมาก ซึ่งลุคผมสั้นดูแปลกๆ ไป แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะการแสดงเธอได้และเคมีของเธอกับพระเอกก็ผ่านได้ดี แต่บทของเธอยังเป็นแค่จุดเริ่มเลยยังไม่มีความลึกมากนัก รวมถึงตัวละครอื่นที่เหลืออย่าง โนงามิ ซาเอโกะ ตำรวจสายสืบที่หว่านเสน่ห์กับเรียวเพื่อหลอกใช้ก็ยังไม่มีบทสำคัญอะไรในเรื่องให้เห็นนัก
สรุป เป็นผลงาน Live Action จากต้นฉบับญี่ปุ่นที่ได้ทำเองสักที แล้วก็ถ่ายทอดออกมาได้ตรงเป๊ะเกือบ 100% หนังมีความทะลึ่งทะเล้นจากมุกบี๊บในมังงะที่ใส่กันมาเต็มที่พร้อมออฟชั่นเสริมความฮาครบ ฉากแอ็กชั่นการใช้ปืนที่โม้แบบเว่อร์ๆ เหนือกว่าจอห์นวิคซะอีก นักแสดงเล่นได้อย่างเนียนเป็นธรรมชาติกับบทบ้าๆ บอๆ แต่ต้องเท่ทุกจังหวะอย่างลงตัว คาโอริอาจจะผอมแห้งไปนิดๆ แต่ก็ยังเข้ากันได้ดี แต่เนื้อเรื่องของภาคนี้เป็นแค่จุดเริ่มสตาร์ทเรื่องเท่านั้นจึงยังไม่ได้ลงลึกอะไร เป็นแค่การแนะนำโครงสร้างโลกซิตี้ฮันเตอร์ให้ผู้ชมเท่านั้นครับ