playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Cyberpunk: Edgerunners อนิเมะแอ็กชั่นไซไฟที่ครบเครื่องถึงอารมณ์ในทุกด้าน (ไม่มีสปอยล์)

Summary

ถือเป็นอนิเมะจากเกมฝรั่งที่ฝั่งญี่ปุ่นทำมาดีเกินกว่าที่คาดไว้ตอนแรกมาก แม้เรื่องราวจะยังคงสูตรสำเร็จมังงะทั่วไปอยู่ แบบเด็กหนุ่มธรรมดามีพลังพิเศษขึ้นมาแล้วก็พัฒนาตัวเองเก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่รายละเอียดที่ดีงามหลายอย่างในเรื่องก็ทำให้เรื่องนี้มีส่วนดีและโดดเด่นขึ้นมา อย่างสีสันฉูดฉาดกับดนตรีประกอบที่เข้าธีมกันมาก ฉากแอ็กชั่นโหดเดือดๆ ติดเรตมากมาย และดีสุดคือพาร์ทความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกที่แม้จะเล่าแบบข้ามๆ ไปไวมาก แต่ตอนใกล้จบเรื่องกลับส่งอารมณ์ให้อินได้มากมาย เป็นฉากจบที่ลงตัวมีซึ้งแอบมีน้ำตา และสมบูรณ์ในตัวเรื่องได้อย่างหมดจรด แนะนำให้ดูได้เลย แม้จะไม่ใช่คอเกมนี้มาก่อนก็สามารถดูเข้าใจได้ครับ

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • เป็นสปินออฟจากเกมดังในชื่อเดียวกัน
  • ฉากโหดติดเรตรุนแรงสูง
  • สีสันฉูดฉาดกับดนตรีประกอบเร้าอารมณ์
  • พาร์มความสัมพันธ์พระเอกนางเอกที่ชวนซึ้ง
  • 10 ตอนจบสั้นๆ สมบูรณ์ในซีซั่นเดียว
  • มีพากย์ไทย

 

Cons

  • เรื่องราวตามสูตรมังงะญี่ปุ่นทั่วไป
  • ตัวเรื่องเล่าข้ามๆ ไปไวในหลายส่วนมาก
  • มีศัพท์เฉพาะจากเกมที่อาจจะงงในตอนแรก
  • งานภาพอาจจะไม่ได้ลื่นไหลมาก

ADBRO

Cyberpunk: Edgerunners อาชญากรแดนเถื่อน อนิเมชั่นแนวแอ็กชั่นไซไฟ 10 ตอนจบจากเกมไซเบอร์พังค์ของค่าย CD projekt ที่ทางค่าย Trigger ของญี่ปุ่นรับงานไปทำเป็นเรื่องราวใหม่แยกออกจากตัวเกมแบบสปินออฟ ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มฐานะยากจนที่หาทางเอาตัวรอดในไนท์ซิตี้ เมืองแห่งอนาคตที่ผู้คนคลั่งไคล้เทคโนโลยีและการปรับแต่งร่างกาย และเขาบังเอิญได้พาร์ทชิ้นส่วนทางทหารมาประกอบติดเข้ากับตัว ทำให้มีพลังความเร็วเหนือมนุษย์ และกลายเป็นเอดจ์รันเนอร์ ทหารรับจ้างนอกกฎหมายที่รู้จักกันในชื่อ “ไซเบอร์พังก์”
 Cyberpunk: Edgerunners (2022) on IMDb

ตัวอย่าง Cyberpunk: Edgerunners

รีวิว Cyberpunk: Edgerunners (ไม่มีสปอยล์)

เกริ่นก่อนว่าผู้เขียนไม่ได้เล่นเกมนี้มาก่อน แต่ก็พอรู้จักเกมนี้คร่าวๆ ซึ่งในอนิเมะนี้เล่าเรื่องก่อนเกม และไม่จำเป็นที่ต้องเล่นเกมมาก่อนก็สามารถดูรู้เรื่องได้เช่นกัน แต่แค่อาจจะต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจโลกในเรื่องไปในแต่ละตอน ที่จะค่อยๆ อธิบายหรือทำให้ผู้ชมเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งก็ไม่ได้ลึกอะไรมากเพราะเรื่องราวยังคงเป็นสูตรสำเร็จแบบสายมังงะพลังพิเศษแบบที่คุ้นเคยกัน

 

ด้วยความที่เป็นญี่ปุ่นทำจากงานของฝรั่งก็มีการให้ตัวเอกกลายเป็นเด็กหนุ่มวัยเรียน ซึ่งในยุคนั้นถ้าตามจริงการไปโรงเรียนไม่น่าจะสำคัญอะไรแล้ว แต่เรื่องก็ยังคงใช้รูปแบบเด็กนักเรียนฐานะยากจนที่โดนเพื่อนในชั้นรังแกเพราะชนชั้น ก่อนที่จะบังเอิญไปได้พาร์ทชิ้นส่วนติดกระดูกสันหลังที่เพิ่มพลังความเร็วให้กับร่างกายได้แบบเหนือมนุษย์ ก่อนนำมันมาใช้ต่อสู้กกับเพื่อนที่มาข่มเหง แล้วก็เลยกลายเป็นการผจญภัยไปเข้ากลุ่มแก๊งทหารรับจ้างนอกกฎหมาย “ไซเบอร์พังก์” ตัวเรื่องก็จะดำเนินไปแบบตอนละ 1 งานที่มีผู้ว่าจ้างมาแตกต่างกัน มีบอสเล็กๆ ในแต่ละตอน พระเอกก็พัฒนาความสามารถและเรียนรู้โลกนอกห้องเรียนนี่ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนละคน จนเจอบอสใหญ่ของเรื่องในที่สุด


จะเห็นว่าการดำเนินเรื่องมันจะพื้นๆ มาก ซึ่งเอาจริงๆ ผู้เขียนค่อนข้างเฉยๆ เพราะเรื่องมันไม่ได้แหวกแนวอะไรมากเลย แต่กระนั้นก็ต้องยกความดีในรายละเอียดของเรื่องมากกว่าที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้โดดเด่นขึ้นมากว่าเรื่องอื่นทั่วไป อย่างแรกเลยคือ การใช้สีสันสดแบบฉูดฉาดและวูบวาบมาก แม้เป็นงานของญี่ปุ่น แต่ก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นแบบฝรั่งมาก ประกอบกับดนตรี+เพลงประกอบในฉากที่เร้าอารมณ์ได้ตลอดเข้ากับธีมของเรื่องที่เป็นไซเบอร์พังค์ได้อย่างดี
อย่างที่สองคือฉากแอ็กชั่นที่มีต่อเนื่องทุกตอนแบบโหดๆ ติดเรต ตัวเรื่องไม่ยั้งที่จะมีฉากทางลามกทางเพศ ฉากโหดเลือดสาดมากทั้งเรื่อง และด้วยลายเส้นแบบฝรั่ง เลยให้ความรู้สึกเหมือนว่าทีมทำอาจจะอยากตามรอย invincible (ยอดมนุษย์อินวินซิเบิล) เรื่องดังของ Prime VDO ไม่นานนี้ที่ขึ้นชื่อว่าติดเรตสุดๆ แบบเดียวกัน คือมีฉากฉีกคนขาดเป็นว่าเล่นบ่อยๆ ในเรื่องนี้ก็ด้วย ซึ่งก็ทำให้ฉากแอ็กชั่นในเรื่องนี้ดุเดือดมาก โดยเฉพาะ 2 ตอนสุดท้าย 9-10 ที่ใส่กันยับแบบเว่อร์สุดๆ และยังมีอาวุธปืนแรงโน้มถ่วงแบบ Gantz ใช้เป๊ะๆ จนเหมือนหยิบยืมมาแน่ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเรื่องนำมาใช้แบบสนุกถึงใจมากๆ

อย่างที่สามที่น่าจะเป็นส่วนดีสุดของเรื่องนี้คือ พาร์ทความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกในเรื่อง ที่นางเอกเป็นคนพาพระเอกเข้าวงการนี้ ก่อนที่จะรู้สึกว่าเธอกำลังพาเขามาตาย และอยากให้เขาหลุดจากวังวนนี้ไป แต่ในขณะที่พระเอกจากเด็กหนุ่มที่ไร้ซึ่งความฝันเมื่อได้มาพบเธอ กลับมีฝันอยากให้เธอทำได้สำเร็จกับการขึ้นไปบนดวงจันทร์ที่ต้องใช้เงินมากมายไปบนนั้น ซึ่งตัวเรื่องเกริ่นไว้แรกๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่กลายมาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปเรื่อยๆ แม้จะมีช่วงที่ก้าวกระโดดแบบข้ามๆ ไปมากว่ารักกันง่ายๆ แต่ตอนจบของเรื่องเป็นตอนจบที่ลงตัวมาก ขนาดที่คนเขียนก็ไม่ค่อยอินกับความสัมพันธ์ที่ปูมาไวๆ สักเท่าไหร่ แต่ตอนท้ายของเรื่องก็ยังรู้สึกว่าอินไปกับเรื่องราวความสัมพันธ์นี้ได้จริงๆ มีซึ้งแอบมีน้ำตาได้เลยครับ
นอกจากนี้ตัวละครสมทบต่างๆ ในเรื่องก็เฉลี่ยบทบาทสำคัญได้ดีทุกตัวละคร เรียกว่าไม่มีตัวละครไหนเป็นส่วนเกินของเรื่อง และก็มีบทสำคัญทำให้เรื่องมีพลิกไปมาได้ แม้จะไม่ถึงขนาดหักมุมว้าวอะไร แต่ก็ถือว่าทุกตัวละครในเรื่องนี้ถูกใส่มาเสริมเติมแต่งให้เรื่องนี้จบได้อย่างสมบูรณ์ลงตัวทั้งหมด ไม่มีซีซั่นต่อไปที่เกี่ยวกับตัวละครชุดนี้แล้ว และก็ยังมีส่วนที่เชื่อมไปถึงเกมทิ้งไว้ด้วยครับ

ถือเป็นอนิเมะที่ดีเกินกว่าที่คาดไว้ตอนแรกมาก แม้เรื่องราวจะยังคงสูตรสำเร็จทั่วไปอยู่ แต่รายละเอียดที่ดีงามในเรื่องก็ทำให้เรื่องนี้มีส่วนดีและโดดเด่นขึ้นมา จบแบบสมบูรณ์ลงตัวด้วย แนะนำให้ดูได้เลย แม้จะไม่ใช่คอเกมมาก่อนก็ตามครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!