รีวิว Daredevil: Born Again (Disney+) การกลับมาของฮีโร่ที่ไร้หน้ากาก…แต่เต็มไปด้วยเงาในใจ
Daredevil: Born Again
Summary
การกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งของซีรีส์ Daredevil จาก Netflix มาสู่ Disney+ ที่เนื้อเรื่องเล่าต่อเนื่องกันและต่อจาก Echo ด้วย เป็นการปูเรื่องด้วยเส้นทางชีวิตใหม่ของตัวละครก่อนจะค่อยๆ กลับสู่เส้นทางแห่งความขัดแย้งแบบเดิม แม้จะเน้นเนื้อหาสังคมและการเมือง แต่ก็ยังคงฉากบู๊เดือดๆ ไว้โดยเฉพาะฉากเปิดเรื่องลองเทคที่โดดเด่นมาก และมี Punisher ที่เข้ามาเพิ่มฉากโหดฆ่าแบบไม่ยั้งมือ (แต่ใช้ความมืดกลบไปเยอะ) ซีรีส์ยังเชื่อมโยงเข้ากับจักรวาล MCU ได้แนบเนียน ทั้งการเปิดตัว White Tiger และการเชื่อมกับ Ms. Marvel ถือเป็นซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ที่หันมานำเสนอเรื่องราวในโลกความจริงมากขึ้น ผสมความขัดแย้งภายในจิตใจ และตั้งคำถามถึงความหมายของ “ความยุติธรรม” ที่เกี่ยวข้องกับการสวมหน้ากากได้อย่างน่าสนใจ พร้อมปูทางสู่บทสรุปในซีซั่นหน้าอย่างน่าติดตาม
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
-
ฉากเปิดเรื่องเป็นลองเทคแอ็กชันยาว 10 นาทีที่ยอดเยี่ยมมาก
-
โครงเรื่องเน้นพัฒนาการตัวละคร โดยเฉพาะการต่อสู้ภายในใจของเมอร์ด็อก
-
เน้นโลกความจริงทางกฎหมายและการเมือง
-
มีฉากร่วมกับ Punisher
-
มีการเชื่อมโยงจักรวาล MCU
Cons
-
ต้องดูซีรีส์ก่อนหน้า (Daredevil, Echo) เพื่อเข้าใจรายละเอียดบางฉาก
-
ฉากแอ็กชันหลังจากตอนเปิดเรื่องค่อนข้างดรอปลง ใช้ความมืดบังมากเกินไป
- บางช่วงรวบรัดเนื้อเรื่องไว
ADBRO
Daredevil: Born Again ซีรีส์ 9 ตอนบน Disney+ ถ่ายทอดเรื่องราวของแมตต์ เมอร์ด็อกที่หวนกลับมาทำหน้าที่ทนายความเต็มตัว ขณะที่วิลสัน ฟิสก์หันเหสู่เส้นทางการเมืองด้วยการลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ทว่าเส้นทางของทั้งสองยังคงต้องมาบรรจบกันอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้
รีวิว Daredevil: Born Again (ไม่สปอยล์)
แม้จะใช้ชื่อว่า Born Again (เกิดใหม่อีกครั้ง) แต่แท้จริงแล้วซีรีส์ชุดนี้คือซีซั่นที่ 4 ต่อจากฉบับ Netflix (2015–2018) ที่ดำเนินเรื่องราวต่อเนื่องกันมาตลอด โดยมีเนื้อหาหลังเหตุการณ์ในซีรีส์ Echo ซึ่งตัวเอกคือ Maya ลูกบุญธรรมของคิงพิน ผู้ชมที่ไม่เคยดูมาก่อนอาจพลาดรายละเอียดบางส่วน แต่โดยรวมซีรีส์ก็วางโครงเรื่องใหม่ให้สามารถเริ่มต้นรับชมได้โดยไม่สับสน
เรื่องราวเปิดฉากด้วยการฉายภาพด้านมืดของแดร์เดวิลอย่างเข้มข้น ก่อนจะพาไปสู่โศกนาฏกรรมที่ทำให้เมอร์ด็อกตัดสินใจถอดหน้ากากและกลับสู่ชีวิตทนาย ส่วนฟิสก์เองก็ได้รับบทเรียนจากความพ่ายแพ้ในโลกใต้ดิน และปล่อยให้อาณาจักรถูกภรรยาขึ้นปกครองในทิศทางที่สงบกว่า เขาจึงเลือกลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี พร้อมนโยบายจัดการศาลเตี้ยแบบไร้หน้ากาก ด้วยกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองตกลงกันว่าจะไม่ย้อนกลับสู่เส้นทางเดิม แม้ในใจจะยังไม่เคยไว้ใจกันเลย
สามตอนแรกของซีรีส์ปูทางให้เห็นชีวิตใหม่ของทั้งคู่ — เมอร์ด็อกว่าความเพื่อช่วยเหลือลูกความที่ถูกตำรวจใช้อำนาจเกินขอบเขต โดยไม่ต้องพึ่งพาอัตลักษณ์ฮีโร่อีกต่อไป ขณะที่ฟิสก์เดินเกมการเมืองอย่างชาญฉลาด ตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากเพื่อดึงคะแนนเสียงจากชาวเมือง โดยมีเรื่องของความรักของทั้งคู่มาเสริม เมอร์ด็อกพบรักใหม่กับคุณหมอนักจิตบำบัดคนดังของเมืองที่มีลูกค้าเป็นฟิสก์กับภรรยามาปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ที่กำลังจะแตกหักกันด้วย ซึ่งช่วงนี้ของเรื่องถือว่าสนุกและแปลกใหม่ โดยชูมุมมองชีวิตของซูเปอร์ฮีโร่ในโลกความเป็นจริงได้อย่างน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ความจริงอันโหดร้ายเริ่มปรากฏหลังตอนที่ 4 เมื่อความพยายามของเมอร์ด็อกในฐานะทนายกลับไม่อาจปกป้องลูกความจากอันตราย เขาจึงเริ่มถูกผลักให้ใช้พลังพิเศษเข้าช่วยเหลือผู้คนอีกครั้ง ความขัดแย้งภายในใจของเขาถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างหนักแน่น โดยเฉพาะการสนทนากับ Punisher ที่เผยให้เห็นจุดยืนตรงข้ามระหว่างสองคนนี้อย่างลึกซึ้ง
การกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมของเมอร์ด็อกมีชนวนสำคัญคือ Muse วายร้ายรองที่ทำให้ทั้งเขาและฟิสก์กลับมาใช้ด้านมืดในการจัดการปัญหา ฟิสก์เริ่มใช้อำนาจในทางที่ผิด จนกลายเป็นคิงพินเวอร์ชันใหม่ที่มีอำนาจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง ทุกคนจึงจำใจต้องยอมรับ ในขณะที่ความลับสำคัญของเรื่อง — ใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในตอนเปิด — ก็ถูกเฉลยในตอนท้าย พร้อมกับการตัดสินใจของฟิสก์ว่าเขาจะจัดการกับเมอร์ด็อกที่หวนกลับมาเป็นแดร์เดวิลอีกครั้งอย่างไร
จุดเด่นของซีรีส์ยังคงเป็นฉากแอ็คชั่นอันน่าทึ่ง โดยเฉพาะฉากเปิดเรื่องที่โชว์ลองเทคการต่อสู้กับพ้อยท์เด็กซ์เตอร์ยาวเกือบ 10 นาที เต็มไปด้วยจังหวะการปา ปัด และต่อสู้แบบดิบเถื่อน ซึ่งเป็นฉากที่ดีที่สุดในเรื่อง ส่วนฉากอื่นยังคงเน้นการบู๊แบบดุดัน แม้ไม่มีพลังพิเศษ แต่ก็ยังมีฉากปะทะร่วมกับพันนิชเชอร์ที่เดือดดุเลือดสาดมาชดเชย แม้ว่าซีรีส์จะใช้ความมืดช่วยบังฉากความรุนแรงไปพอสมควร
ด้วยความที่ซีรีส์อยู่ภายใต้จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลโดยตรง จึงมีการเปิดตัวฮีโร่รุ่นใหม่ White Tiger ซึ่งได้รับพลังจากเครื่องรางเสือขาว แม้ในซีซั่นนี้ยังไม่มีฉากสวมชุดเต็มตัว และยังเน้นแค่การเล่าที่มาผ่านฉากในศาล ขณะเดียวกันยังเชื่อมโยงไปยังซีรีส์ Ms. Marvel ด้วยการปรากฏตัวของพ่อเธอในตอนที่ 5 ที่มีฉากธนาคารถูกปล้นและเมอร์ด็อกเข้าไปช่วย
ซีรีส์จบลงแบบเปิดประตูสู่ซีซั่น 2 ซึ่งตามรายงานจะเป็นบทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมดใน 2 ซีซั่นนี้
โดยสรุป Daredevil: Born Again เป็นซีรีส์ที่สมดุลระหว่างแอ็คชั่นดุเดือดกับการพัฒนาตัวละครได้อย่างลงตัว แม้จะมีช่วงที่เนื้อเรื่องเนิบๆ ตามสไตล์ซีรีส์อยู่บ้าง แต่ก็ยังนับว่าเป็นภาคต่อจาก Netflix ที่ดีพอกับการเกิดใหม่อีกครั้งครับ