รีวิว Day Shift หนังแวมไพร์สายบ้องตื้นที่เนื้อเรื่องกลวงโบ๋สุดๆ
Day Shift
Summary
หนังเน้นแอ็กชั่นติดตลกเล่นมุกฆ่าแวมไพร์ที่พอดูได้ขำๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าจดจำ ฉากแอ็กชั่นดีฉากแรกกับกลางเรื่อง นอกนั้นก็ค่อยๆ ดรอปลงเรื่อยๆ จนจบไปแบบง่อยมาก ตัวเนื้อเรื่องก็กลวงโบ๋เบาหวิวเหมือนไม่มีอะไรจะเล่า ดูแล้วเหมาะสมกับเป็นหนังทำลงสตรีมมิ่งแค่นั้นจริงๆ
Overall
5.5/10User Review
( vote)Pros
- หนังแวมไพร์แนวแอ็กชั่นตลก
- เจมี่ ฟ็อกซ์ นำแสดง
- ฉากแอ็กชั่นเยอะ
- มุกฆ่าแวมไพร์แบบติดตลก
- มีพากย์ไทย
Cons
- เรื่องกลวงมากแทบไม่มีอะไรเลย
- ฉากแอ็กชั่นเยอะแต่ดูงั้นๆ
- บอสกระจอกมาก
รีวิว Day Shift: งานต้องล่า
เจมี่ ฟ็อกซ์รับบทพ่อชนชั้นแรงงานที่ทำงานหนักเพื่อหวังให้ลูกสาวมากไหวพริบของเขามีชีวิตที่ดี แต่งานทำความสะอาดสระว่ายน้ำในซานเฟอร์นานโดแวลลีย์ที่แสนจำเจกลับเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า เพราะแหล่งรายได้ที่แท้จริงของเขามาจากการล่าและฆ่าแวมไพร์ให้กับสหภาพนักล่าแวมไพร์นานาชาติ
ตัวเรื่องตอนแรกดูเหมือนจะพยายามเซ็ตโลกแวมไพร์แบบใหม่ที่มีสมาพันธ์นักล่า เอาเขี้ยวแวมไพร์มารับเงินรางวัลได้ โดยนักล่าเป็นอาชีพปกติที่หาเช้ากินค่ำเหมือนคนทั่วไป ออกล่าแวมไพร์ทุกวันไม่หยุดหย่อน แต่ทั้งเรื่องก็มีแค่นั้นจริงๆ เพราะนอกจากนี้แล้วตัวเรื่องก็ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรลึกกว่านี้เลย ทั้งๆ ที่ในตัวอย่างพยายามขายว่าเป็นทีมงานจอห์นวิคมาทำ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในผู้เขียนภาค 3 ที่ชื่อ Shay Hatten แค่นั้นเอง (มีคนเขียนบทหลายคน) ส่วนผู้กำกับก็หน้าใหม่เรื่องแรกชื่อ J.J. Perry มีเครดิตเป็นสตันท์แมนมาก่อนเท่านั้น
ด้วยความที่ตัวเรื่องกลวงจนไม่มีอะไรให้พูดถึงมากหรือมีความคิดริเริ่มแปลกใหม่ให้กับหนังแวมไพร์เลย นอกจากแค่แวมไพร์พวกนี้ทาครีมกันแดดสูตรใหม่ทำให้ออกมาสู้ตอนกลางวันได้เท่านั้น (สมาพันธ์นักล่านี่เรื่องอื่นๆ ก็มีหลายเรื่องแล้ว) ที่เหลือก็เลยมีแต่ฉากแอ็กชั่นไล่ฆ่าแวมไพร์ลูกกระจ๊อก ก็อารมณ์ราวๆ จอห์นวิคเลยคือมาเป็นฝูง แต่กรูกันมาเพื่อให้โดนยิงตายง่ายๆ ไม่ได้มีความลุ้นระทึกอะไรทั้งสิ้นเลยตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่บอสก็ตายแบบกระจอกงอกง่อยมาก ตัวเรื่องได้แค่ได้ความมันส์สะใจจากฉากฆ่าอยู่บ้าง มีฉากตรงกลางเรื่องดูสนุกกว่าฉากอื่นอยู่นิดนึงกับฉากต้นเรื่องแวมไพร์ป้าแก่อึดทรหดแล้วก็มีท่าทางแปลกๆ ชวนหัวเราะได้มากจริง เพราะนี่เป็นหนังตลก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีฉากฆ่าแวมไพร์ตลกอะไรมากกว่านี้สักเท่าไหร่แล้ว ไปเน้นที่บทพูดตลกๆ กับตัวละครในเรื่องมากกว่า
หนังพยายามทำแนวคู่หูเพิ่มโดยให้มีหนุ่มจากสมาพันธ์ที่โดนไล่ให้มาประกบพระเอกเพื่อจ้องจับผิดว่าทำผิดกฎข้อไหนจะได้ไล่ออก แต่เรื่องก็ไม่ได้เน้นไปทางคู่หูอะไรนัก เพราะหมอนี่ก็เป็นแนวไก่อ่อนธรรมดา แม้ตอนหลังจะมีอัพเกรดเพิ่มพลังขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้มีบทประกบเป็นคู่หูโดดเด่นอะไรกับพระเอก ต่างกับสาวแวมไพร์ตัวดีที่มาช่วงหลังที่กลายมาเป็นจุดสนใจใช้ดาบเป็นอาวุธที่ดูเท่ห์ดี แต่บทก็ออกมาน้อยไม่ได้โชว์ของมาก แล้วก็จบบทไปง่ายๆ ไม่ได้มีสานต่ออะไรอีก
สรุปเลยว่าเป็นหนังแอ็กชั่นติดตลกเล่นมุกแวมไพร์ที่พอดูได้ขำๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าจดจำ เนื้อเรื่องกลวงเบาหวิวจนเหมาะกับหนังทำลงสตรีมมิ่งเท่านั้นจริงๆ