รีวิวซีรีส์ Defending Jacob (Apple TV+) สังคมตราหน้า ตราบาปฆาตกรเด็ก (อัพเดทจบ 8 ตอน)
Defending Jacob
สรุป
ซีรีส์สืบสวนคดีฆาตกรรมเด็ก ที่มุ่งเน้นเล่าถึงแง่มุมผลผลกระทบของตราบาปจากคนในสังคมที่ลามมาถึงครอบครัวตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมกับปล่อยความคลุมเคลือให้คนดูติดตามว่าช่องว่างของเวลาที่หายไปในตอนแรกเปิดเรื่อง ที่เป็นตอนจบสุดท้ายของเหตุการณ์ไปแล้วว่า จริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้กันแน่? แต่ด้วยความที่เรื่องราวเดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ เน้นดราม่ามากกว่าเชิงสืบสวนหาว่าใครเป็นฆาตกร ก็อาจจะไม่เหมาะกับคนชอบแนวสืบสวนแบบปกติที่ให้อารมณ์ระทึกตื่นเต้นเป็นหลัก
Overall
7.5/10User Review
( vote)Pros
- การตัดสลับเล่าเรื่องราวในอดีตกับปัจจุบันที่ชวนให้น่าสงสัยตลอดเวลา
- ตัวเรื่องเน้นดราม่าเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดกับครอบครัวที่ต้องคดีอาชญากรรม
- งานโปรดักชั่นคุณภาพสูง
- Chris Evans ขวัญใจของหลายๆ คน
- ฉากจบที่ชวนให้คิดได้หลายแง่มุมอย่างน่าสนใจ
- ทีมนักแสดงเล่นได้เข้าถึงบททุกคน
Cons
- เรื่องราวไม่ได้เน้นเชิงสืบสวนแบบให้อารมณ์ระทึกตื่นเต้นสักเท่าไหร่นัก
- ช่วงตอนท้ายเรื่อง บางอย่างดูตกหล่นไม่ค่อยสมเหตุผล
ADBRO
Defending Jacob ซีรีส์ใหม่ของ Apple TV+ ซีรีส์สืบสวนคดีฆาตกรรมของเด็กชายอันเป็นที่รักของครอบครัว ที่ถูกสังคมตราหน้าไปก่อนแล้วว่าเขาคือ “ฆาตกร” จนกลายเป็นปัญหาร้าวลึกในครอบครัวแสนอบอุ่นที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ตัวอย่าง Defending Jacob
มีสปอยล์บางจุดแต่ไม่ได้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง
ซีรีส์สร้างจากนิยายดัง New York Times best selling เมื่อปี 2012 ในชื่อเดียวกันของผู้เขียน William Landay โดยมาเป็นซีรีส์ความยาว 8 ตอนจบ นำแสดงโดย Chris Evans มาเล่นเป็นตัวเอกหลัก Andy Barber หัวหน้าครอบครัวที่ตำแหน่งอัยการเขต ที่ลูกชายตัวเอง Jacob Barber (แสดงโดย Jaeden Martell หนึ่งในแก๊งเด็กจากหนัง IT) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมเพื่อนร่วมชั้น แล้วทิ้งศพไว้ในสวนสาธารณะของเมือง โดยที่ผู้เป็นแม่ Laurie Barber (รับบทโดย Michelle Dockery) ก็ไม่เชื่อว่าลูกชายตัวเองเป็นฆาตกร แต่ลึกๆ แล้วเธอก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่อาจจะเชื่อมโยงถึงสิ่งนี้เช่นกัน
เรื่องราวเปิดมาเป็นช่วงเวลาที่ตัวเอก Andy ต้องเข้ามาให้การกับคณะลูกขุนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจสั่งฟ้องคดีอะไรสักอย่างแก่ศาล ในเรื่องตอนต้นอธิบายไว้ว่าเป็นขั้นตอนการครั้งสุดท้ายของเรื่องราวนี้ ซึ่งตัว Andy เองก็จะถูกซักถามทีละข้อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมเด็กวัยรุ่นในสวนตั้งแต่แรกเริ่ม โดยลูกชายของเขาเองตกเป็นผู้ต้องหา ตัวเรื่องก็จะตัดกลับไปช่วงเวลานั้นเป็นระยะๆ ก่อนตัดกลับมาที่ห้องพิจารณาคดีอีกครั้ง ด้วยอารมณ์ของเรื่องที่แตกต่างกันของ Andy ในอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งช่วงเวลาที่หายไปนี้แหละคือจุดขายของเรื่องนี้ที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไม Andy ถึงต้องมาให้การต่อคณะลูกขุนเพียงคนเดียว ในคดีอะไรก็ไม่ปรากฎให้เห็นชัด รวมถึงตัวละครอื่นในอดีต แม้แต่เพื่อนร่วมงานของเขาก็หายไปจากเรื่องราวในปัจจุบันทั้งหมด นี่คือสิ่งที่เป็นปริศนาคาใจสำคัญของเรื่องนี้ที่ชวนให้คนดูติดตาม
หนังเน้นโฟกัสไปที่ช่วงเวลาในอดีตที่ตัว Andy เองกลายเป็นนักสืบจำเป็น ทำงานนอกระบบ (ปกติอัยการไม่ได้มีหน้าที่ลงมาสืบคดีด้วยตนเอง) ทำให้ขัดแย้งในสายตาคนที่เคยทำงานด้วยกันว่าโน้มเอียงช่วยลูกชาย ในขณะเดียวกันก็เป็นพ่อที่ต้องปกป้องดูแลลูกสุดชีวิตไปพร้อมกับการทำหน้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจลูกชายที่บอบช้ำ หนังใส่มุมมองความเป็นพ่อรักลูกไว้สูงมากให้กับ Andy ในขณะที่คนเป็นแม่ Laurie แม้จะรักลูกชายมากเช่นกัน แต่เรื่องก็เผยให้เห็นว่าเธอมักเล่าเรื่องขัดแย้งกับสามีหลายอย่างเกี่ยวกับอดีตของ Jacob ในวัยเด็ก เมื่อทนายที่จ้างมาต้องการความจริงทั้งหมดในครอบครัวนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าในช่วงที่ Jacob บอกเล่าว่าตัวเองบริสุทธิ์เท่านั้น
ตัวเรื่องไม่ได้เดินหน้าไปในแนวทางสืบสวนจริงจังนัก ออกแนวดราม่ากับสังคมสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ครอบครัวนี้ต้องพบเจอ โดยนิยายต้นฉบับต้องการถ่ายทอดเรื่องราวอีกด้านของครอบครัวที่ถูกสังคมตราหน้าว่ามีคนในบ้านก่อคดีอาชญากรรม เป็นที่รังเกียจของชุมชน และถูกสังคมตัดสินไปก่อนแล้วว่ามีความผิด แม้ว่าคดีพึ่งเริ่มต้นขึ้นที่ศาลชั้นต้นเท่านั้น ซึ่งเรื่องราวแบบนี้แม้แต่ในต่างประเทศที่เจริญแล้วก็ยังเกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่แค่ความผิดของลูกเท่านั้น สังคมมักจับเหมารวมไปหมดเป็นความผิดถึงพ่อแม่ว่าเลี้ยงลูกมายังไงถึงทำให้กลายเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงแบบนี้ได้ (อายุไม่ถึงแต่รัฐนี้ฟ้องและไต่สวนในฐานะเดียวกับผู้ใหญ่ ถ้าคดีมีความรุนแรงสูง) กลายเป็นเรื่องของตัวละครพ่อแม่อย่าง Andy กับ Laurie ต้องเข้ามาปกป้องลูกชายจากทุกสิ่งที่กำลังรุมทิ่มแทงลูก และก็ส่งผลร้าวลึกกับความสัมพันธ์ครอบครัว อย่างเช่น ไม่กล้าออกไปทานข้าวในเมือง ไม่กล้าพบเจอใคร หวาดระแวงกับการที่ผู้คนมอง แม้แต่ในสื่อสังคมออนไลน์โซเชียลมีเดียก็เช่นกัน ซึ่งตัวหนังทำจุดนี้ออกมาได้น่าสนใจในมุมผลกระทบสังคมจากลูกมาสู่พ่อแม่ และไม่ใช่แค่เรื่องในปัจจุบัน ในอดีตก็ดูเหมือนมีเรื่องเลวร้ายเคยเกิดขึ้นกับ Andy เช่นเดียวกัน เรื่องจึงเป็นเหมือนการย้อนรอยปัญหาในอดีตจากรุ่นพ่อสู่ลูก เมื่อลูกโตขึ้นมาก็มีบาดแผลนี้ฝังลึกอยู่ และสิ่งนี้เองได้เกิดกับ Jacob จนกลายเป็นบาดแผลใหม่ที่ลามกลับไปหาคนเป็นพ่อ Andy อีกครั้ง แต่อะไรล่ะคือจุดเชื่อมของเรื่องราวตรงนี้ในอดีตมาสู่ปัจจุบัน ตัวเรื่องมีเผยไว้ แต่ก็ไม่ได้ฟันธงลงไปว่าใช่หรือไม่ในตอนนี้
หนังโยงเรื่องพันธุกรรมในอดีตที่พ่อของ Andy เป็นฆาตกรฆ่าข่มขืนเด็กผู้หญิงว่าอาจจะถูกนำมาใช้อ้างอิงว่ามีแนวโน้มส่งต่อมาถึง Jacob รวมถึงบาดแผลในจิตใจที่มีพ่อเป็นฆาตกรก็กำลังย้อนกลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง
ส่วนตัว Jacob เองที่เป็นชื่อเรื่องนี้ ภาพที่ออกมาคือเด็กขยันเรียนซื่อๆ ในสายตาพ่อแม่ แต่สังคมในโรงเรียนกลับนินทาว่าร้ายเขาต่างออกไป ตัวเรื่องเองก็ทำให้คนดูแทบไม่เชื่อว่า Jacob จะเป็นฆาตกรไปได้ในตอนแรก แต่ก็ค่อยๆ เสนอบางแง่มุมที่น่าสงสัยให้อารมณ์ของเรื่องคลุมเคลือ จนคนดูคลางแคลงใจว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใครกันแน่ ในขณะเดียวกันก็มีตัวละครอื่นที่น่าสงสัยปะปนอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับงานสร้างเรื่องนี้จากนิยาย ทางผู้สร้างออกมาบอกแล้วว่าทำออกมาแบบซื่อตรงเกือบทั้งหมด แต่ฉากจบในเรื่องจะถูกปรับใหม่ให้คนอ่านนิยายได้เซอร์ไพรส์อีกครั้ง สำหรับคนที่สงสัยว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วเป็นยังไงกันแน่กับช่วงเวลาที่หายไปของครอบครัว Barber ในตอนแรกที่พระเอกออกมาให้การคนเดียว อ่านที่สปอยล์ด้านล่างนี้เลยครับ เป็นฉบับนิยายที่ต่างออกไปจากตอนจบของเวอร์ชั่นซีรีส์
ฉากจบเวอร์ชั่นนิยาย
หลัง Jacob หลุดพ้นข้อหานี้ไปจากแพตท์ตาย ช่วงท่องเที่ยวเขาได้เจอกับ Hope เด็กผู้หญิงที่พึ่งรู้จัก และต่อมาเธอหายตัวไป แม่ของ Jacob เชื่อว่าลูกชายตัวเองเป็นคนทำ จึงตัดสินใจขับรถชนเพื่อฆ่าตัวตายพร้อมลูกชาย Jacob ตาย ส่วนแม่โคม่า ทางลูกขุนในตอนต้นจึงเรียก Andy มาเพื่อไต่สวนหาสาเหตุว่าแม่ของ Jacob ลงมือฆ่าลูกชายของเธอเองจริงหรือไม่? และยังพบศพของ Hope ถูกฆ่ารัดคอตายบนชายหาด
Jacob เป็นฆาตกรจริงหรือไม่?
ในนิยายหลายอย่างบ่งชี้ว่าเขาเป็นคนฆ่าเบน นอกจากนี้ยังพบศพ Hope เด็กผู้หญิงที่หายตัวไป แต่ในซีรีส์หลายอย่างทำให้ดูคลุมเคลือมากกว่า Hope ไม่ได้ตาย และดู Jacob ก็ไม่ได้เป็นคนที่คุกคามใคร แต่เลือกเก็บตัวเมื่อถูกรังแก ฆาตกรอาจจะไม่ใช่เขา เป็นคนอื่นที่อยู่ในชุมชนนี้ก็ได้ แม้ว่าตอนจบเวอร์ชั่นนี้ทุกคนจะรอด แต่ Jacob ก็คงฝังใจเรื่องแม่ไม่เชื่อเขาแน่นอน ฉากจบจึงเป็นการที่พ่อเข้าไปอยู่ในห้องลูกอย่างสิ้นหวังว่าครอบครัวจะกลับมาเหมือนเดิม
เบื้องหลังงานสร้าง Defending Jacob Apple TV+
ตัวเรื่องนี้มีอัพเดทตอนใหม่ทุกวันศุกร์ ผ่านทาง Apple TV+ เท่านั้นครับ