playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Dive Club ซีรีส์แก๊งสาววัยรุ่นล้วนผจญภัยหาขุมทรัพย์เหมือน Outer Bank แต่เบากว่า

Dive Club

สรุป

ซีรีส์แนวล่าขุมทรัพย์เหมือน Outer Bank แต่เนื้อเรื่องเบากว่ามาก แล้วก็เป็นสาววัยรุ่นล้วน มีจุดขายตรงฉากดำน้ำที่สวยงามและก็เน้นหนักมาทางนี้มากทุกตอน ซึ่งก็ทำได้ดีพอสมควร จะติดก็ตรงจำนวนตอนเยอะไปถึง 12 ตอน ที่เสียเวลาไปกับดราม่าวัยรุ่นไม่เกี่ยวกับเรื่องหลักสักเท่าไหร่ และบทก็ยังไม่เป็นธรรมชาติมากจนดูแล้วไม่อินไปกับเรื่องได้เลย

Overall
5.5/10
5.5/10
Sending
User Review
4.67 (3 votes)

Pros

  • แนววัยรุ่นหญิงผจญภัยหาขุมทรัพย์ที่ไม่ค่อยมีทำออกมา
  • ตัวเอกสาวสวยทุกคน
  • ฉากดำน้ำสวยๆ เยอะ
  • มีเสียงพากย์ไทย

 

Cons

  • กลุ่มตัวเอกลัลล้าเกินเมื่อเทียบกับเหตุการณ์เพื่อนหาย
  • พยายามปูเรื่องรักมาแทรก แต่ก็ไปไม่ถึงไหน แถมไม่ค่อยจำเป็นกับเรื่อง
  • เนื้อเรื่องเบาไม่เข้มข้น

ADBRO

Dive Club ซีรีส์ Netflix แนววัยรุ่นหญิงล้วนผจญภัยหาขุมทรัพย์ เรื่องราวเกิดบนเกาะเล็กๆ ที่มีตำนานผู้บุกเบิกก่อตั้งอันเป็นปริศนา มีฉากดำน้ำที่สวยงามเป็นจุดขายหลักของเรื่อง ส่วนดราม่าชีวิตวัยรุ่นเป็นส่วนประกอบเบาๆ เท่านั้น

 Dive Club (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Dive Club

ซีรีส์วัยรุ่นผจญภัยหาขุมทรัพย์ที่ใน Netflix มีก่อนนี้แค่เรื่องเดียวคือ Outer Bank ซึ่งมีตัวเอกทั้งชายหญิงปนกัน แต่เรื่องนี้กลุ่มตัวเอกเป็นสาววัยรุ่นล้วน ไม่มีตัวละครชายเข้ามาร่วมกลุ่มด้วยเลย บทของตัวละครชายมาแค่เบาๆ แบบหนุ่มตามจีบเรื่องรักนิดๆ ตามประสาวัยรุ่นเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่ามีการมีจุดขายแน่ชัดแบบนี้ทำให้เรื่องนี้แตกต่างออกไปชัดเจน แต่ก็อาจจะเป็นซีรีส์ที่ดูเฉพาะกลุ่มไปหน่อยเท่านั้น

เนื้อเรื่องเริ่มจากแก๊ง 4 สาวนักดำน้ำวัยรุ่นที่ค้นหาสิ่งของจมใต้น้ำเป็นงานอดิเรกคนหนึ่งได้หายตัวไปหลังเกิดพายุใหญ่บนเกาะเคปเมอร์ซี่ สถานที่เกิดเหตุในเรื่อง แต่ดูเหมือนว่าทางตำรวจจะปักใจเชื่อว่าเธอออกทะเลไปช่วงพายุจนสูญหายไปกับทะเล กลุ่มเพื่อนสาวที่เหลือก็เลยต้องตามหาเพื่อนที่หายไปกันเอง โดยมีความเชื่อว่าเธอไม่ได้ล่องเรือไป และยิ่งตามสืบค้นเรื่องนี้มากขึ้นก็ยิ่งพบกับเบาะแสน่าสงสัย ที่ชี้นำพวกเธอไปสู่การผจญภัยที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ผู้บุกเบิกเกาะแห่งนี้

ซีรีส์มีตัวละครสาวเริ่มต้น 4 คน แมดดี้ สตีวี่ แอนนา ก่อนหายไป 1 คนคือ ลอเรน ซึ่งตัวลอเรนคือตัวละครที่กุมความลับของเรื่องทั้งหมด และจะมาในรูปแฟลชแบ็คตอนเริ่มต้นทุกตอนให้ค่อยๆ เห็นว่าเธอเป็นคนแบบไหนยังไง เพื่อเชื่อมโยงไปยังการหายตัวไปของเธอนิดๆ ส่วนพวกที่เหลืออีก 3 คนก็จะมีบทออกค้นหาเพื่อนแบบนักสืบจำเป็น โดยมีตัวละครใหม่ อิชซี่ เป็นสาวนอกเกาะที่มากับพ่อเพื่อกู้ภัยจากพายุเข้าร่วมด้วย โดยอิซซี่จะเป็นเหมือนมันสมองของทีมนี้ที่โดยปกติคือลอเรนนั่นเอง ซึ่งตัวเรื่องแนวสืบสวนจะเน้นการออกทะเลไปหาเบาะแสต่างๆ อย่างจุดที่พบเรือ ดำน้ำหามือถือของลอเรน การสืบสวนในเรื่องนี้ 80% จะเป็นการออกไปทะเลดำน้ำแทบทั้งสิ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดขายหลักของเรื่องที่ทำออกมาได้สวยงาม มีภาพวิวใต้น้ำสวยๆ มาให้ชม นักแสดงก็สวยน่ารัก และก็ดำน้ำเองจริงๆ ด้วย ตรงนี้ต้องยอมรับว่าซีรีส์ทำออกมาได้ดีเลย ยิ่งการเซ็ทฉากพวกซากเรือโบราณต่างๆ ใต้นำ้ทำออกมาได้ดีเลย แต่ไม่ได้ออกแนวน่าตื่นเต้นล่าขุมทรัพย์อะไรมากนัก เพราะต้องเข้าไปถึงกลางเรื่อง 6 ตอนไป ถึงจะเชื่อมการหายตัวไปของลอเรนเข้ากับขุมทรัพย์ในตำนานเก่าแก่ของเกาะ ซึ่งก็คือเครื่องประดับของราชวงศ์รัสเซียเก่าที่ประเมิณค่าไม่ได้ โดยเรื่องได้เชื่อมจุดนี้เข้ากับชาติกำเนิดลึกลับของสาวตัวเอกในทีมเพิ่มเป็นอีกปมหนึ่งงอกขึ้นมาภายหลังด้วย โดยตัวโครงเรื่องการล่าสมบัติถือว่าวางได้ดีระดับหนึ่ง อาจจะไม่ว้าว แต่ก็ดูเพลินสนุกไปกับการผจญภัยเบาๆ ในเรื่องได้

เนื้อเรื่องอีกส่วนคือดราม่าปัญหาชีวิตวัยรุ่นต่างๆ ที่ต้องเจอ ต้องบอกว่าจุดนี้นี่แหละที่ทำให้เรื่องนี้มีปัญหา เพราะจำนวนตอนที่ยาวถึง 12 ตอน ตอนละ 30 นาที มันดูยืดเยื้อหมดไปเยอะกับพวกปัญหาวัยรุ่นทั้งหลาย แม้จะเข้าใจได้ว่าซีรีส์แนวนี้มันต้องมีแหละเรื่องดราม่ารักๆ ทั้งหลาย แต่สำหรับเรื่องนี้มันเหมือนส่วนประกอบเรื่องมากกว่าจะมีส่วนกับเรื่องหลักแบบเรื่องอื่นๆ ประมาณว่ามีให้เรื่องยืดไปงั้นๆ ไม่ได้เข้มข้นหรือเน้นอะไรมาก เพราะสุดท้ายเนื้อเรื่องส่วนนี้ก็ไม่เข้ากับเรื่องล่าสมบัติหลักของเรื่องสักเท่าไหร่ ตัวละครชายวัยรุ่นของเรื่องนี้คือไม้ประดับ แล้วก็มีแค่ 2 คน ไม่ได้มีบทเด่นมาก ออกจะไม่จำเป็นกับเรื่องด้วยซ้ำ

แต่สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้แย่สุดคือความเป็นธรรมชาติของบท ตัวเรื่องให้เพื่อนในกลุ่มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่กลับให้เพื่อนในกลุ่มดูชิลๆ หาก็หาแบบชิลๆ ไม่ได้รู้สึกเครีดยกดดันอะไรกันเลย ยิ่งกลุ่มคนในเกาะนี่มองเหมือนเรื่องเด็กหายไปคือปล่อยไปตามเวรกรรมกันง่ายๆ แถมในเรื่องยังให้มีเทศกาลงานรื่นเริงในช่วงนั้นอีกถึง 3 ครั้ง พวกตัวเอกสาวที่เหลือก็มาปาร์ตี้ใส่ชุดเต้นรำกันสนุกทั้งๆ ที่เพื่อนรักหายตัวไป และดูมีแนวโน้มเป็นอาชญากรรมลักพาตัวด้วย แต่ตัวเรื่องกลับเขียนบทให้ทุกคนดูชิลๆ จนเกินไป ทำให้เรื่องขาดความน่าเชื่อถือ ไม่อินไปแกนเรื่องหลักได้ตั้งแต่แรก แม้ว่าช่วงหลังพอเริ่มสืบเข้าใกล้ขุมทรัพย์ที่เกี่ยวกับการหายตัวไปจะมีความน่าสนใจ แต่เรื่องชิลๆ นี่ก็ยังตามไปจนถึงก่อนจบเรื่องเลย ทำให้ดูแล้วย้อนแย้งไม่อินไปในที่สุด (ผิดกับ Outer Bank ที่วางเหตุการณ์ให้ดูเครียดผสมตลกได้ดีกว่ามาก)

ซีรีส์นี้จบแบบตัดจบค้างคา แม้จะมีความน่าติดตามพอตัว แต่ดูกระแสไม่ดีในทั่วโลกจนคิดว่าอาจจะไม่ได้ไปต่อก็ได้ แนะนำว่าถ้าสนใจรอเช็คข่าวไปสักพักก่อนว่าได้ไปต่อหรือไม่ครับ แต่ถ้าใครมองหาซีรีส์แนวล่าขุมทรัพย์แบบ Outer Bank ก็ถือว่ายังพอดูได้ แม้เรื่องจะเบากว่าและไม่สนุกเท่าเรื่องนั้นก็ตามครับ

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!