รีวิว Dune: Prophecy (HBO) สร้างมาเพื่อแฟนดูนมากกว่าผู้ชมทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่จะไม่สนุก
Dune: Prophecy
Summary
ซีรีส์พรีเควลจุดกำเนิดดูนดัดแปลงจากนิยายโดยตรงที่สเกลงานสร้างโปรดักชั่นยังทำออกมาได้ดีมากระดับน้องๆ เวอร์ชั่นภาพยนตร์เลย แต่ส่วนเนื้อเรื่องที่ต้องเล่าหลายไทม์ไลน์กับหลายตัวละครทับซ้อนกันมากทำให้มีปัญหา ดูแล้วงงๆ ได้เลย ไม่นับการเล่าเรื่องที่ไปช้าๆ แบบเดียวกับภาพยนตร์ สนุกแบบอืดๆ กับฉากแอ็กชั่นต่อสู้ที่ดูธรรมดามาก ก็คงไม่ถูกใจผู้ชมทั่วไปนัก แถมซีรีส์ก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของดูนให้ผู้ชมหน้าใหม่เข้าใจเลย แต่วางตัวเป็นซีรีส์สำหรับแฟนของดูนโดยเฉพาะทั้งคนที่ชอบภาพยนตร์และอ่านนิยาย ซึ่งกลุ่มนี้ก็น่าจะดูสนุกและเข้าใจการดำเนินเรื่องได้ไม่ยาก แต่ฉากการโชว์พลังพิเศษหลายอย่างของภคินีภาพที่เป็นตัวเอกหลักและเป็นตัวร้ายที่ชักใยจักรวาลนี้อยู่ก็ช่วยทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ยังดูน่าติดตามอยู่ตลอดจนจบเรื่องครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- พรีเควลจุดกำเนิดดูนดัดแปลงจากนิยายโดยตรง
- งานโปรดักชั่นคุณภาพดีมากสำหรับซีรีส์
- โชว์พลังพิเศษของภคินีภาพเยอะ
- มีพากย์ไทย
Cons
- เรื่องเล่าหลายไทม์ไลน์หลายตัวละครมากจนเกินไป
- ฉากแอ็กชั่นต่อสู้ดูธรรมดามาก
- ไม่อธิบายหลายอย่างในเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของดูน
Dune: Prophecy ซีรีส์ HBO แนวไซไฟ 6 ตอนจบซีซั่น 1 เรื่องราวจุดเริ่มต้นของหนึ่งหมื่นปี ก่อนที่พอล อะเทรดีส ตัวเอกในภาพยนตร์จะเกิด โดยมีที่มาจากเหล่าภคินีภาพคอยชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
รีวิวซีรีส์ Dune: Prophecy (ไม่มีสปอยล์)
ซีรีส์ทุนสร้างสูงที่ถือเป็นจักรวาลเดียวกันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของ เดอนี วีลเนิฟว์ แต่สร้างโดย Diane Ademu-John กับ Alison Schapker เป็นเนื้อเรื่องจุดตั้งต้นของเรื่องราวกฏของการสร้างจักรวาลนี้ที่ไม่มี AI จักรกลปัญญาประดิษฐ์ระดับสูงเพราะสงครามจักรกลที่เกือบล้างบางอารยธรรมมนุษย์ ทำให้ผู้คนที่เหลือรอดมาตั้งกฏห้ามพัฒนาสิ่งนี้ขึ้นมาอีก แล้วหันไปพัฒนาจิตประสาทเพื่อให้ก้าวข้ามขอบเขตแทน โดยมีสไปซ์สารที่เก็บเกี่ยวได้จากดาวอาร์ราคิสเป็นตัวช่วยเร่งให้จิตเหนือมนุษย์จนแทนที่การคำนวนแบบ AI ได้ แล้วก็สร้างมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษเหนือกว่านั้นขึ้นไปอีก โดยมีกลุ่มภคินีภาพเป็นผู้กุมอำนาจคนที่มีความสามารถพิเศษแบบนี้ไว้แล้วชักใยบงการจักรวรรดิที่มีอำนาจทางการทหารอีกที
ด้วยความที่ดูนเองเป็นนิยายเก่าแก่มีความยาวมาก เวอร์ชั่นซีรีส์ก็เหมือนภาพยนตร์คือนำนิยายชุด 3 เล่ม Great Schools of Dune ของ Brian Herbert มาดัดแปลง โดยซีรีส์ก็ไม่ได้หวังดึงผู้ชมหน้าใหม่เลย ไม่มีการอธิบายศัพท์เฉพาะที่ใช้ ตัวเรื่องจึงมีแค่การอธิบายจุดกำเนิดสงครามจักรกลกับมนุษย์ในตอนต้นเท่านั้น แล้วก็ข้ามมาอีกหนึ่งร้อยกว่าปีเป็นยุคที่มีภคินีภาพไปแล้ว ซึ่งก็คือกลุ่มผู้หญิงที่รวมตัวกันสร้างความเชื่อว่ามนุษย์สามารถพัฒนาจิตและร่างกายไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยมีแม่ใหญ่ราเควลล่าผู้ก่อตั้งกำลังใกล้ตายและฝากฝังความเชื่อของตนเองไว้กับ วาเลีย ฮาร์คอนเนน หญิงสาวที่อยากกอบกู้ชื่อเสียงจากตระกูลกลับมา ซึ่งนี่ก็คือเรื่องราวที่มีเธอเป็นหนึ่งในตัวเอกหลักที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องทั้งหมด เพราะทุกอย่างคือการวางแผนของเธอ เพียงแต่ว่ามันมีภัยคุกคามที่ซ่อนเร้นอยู่ ซึ่งในเรื่องก็คือ เดสมอน ฮาร์ท ชายผู้รอดมาจากหนอนยักษ์บนดาวอาร์ราคิส และมีความสามารถที่ต่อต้านพลังของวาเลีย ฮาร์คอนเนน ได้
การดำเนินเรื่องจะตัดสลับบนดาว 2 ดวงคือ ดาวจักรวรรดิกับดาวของภคินีภาพ และแบ่งไทม์ไลน์เป็น 2 ยุค มีดารารุ่นชุด วาเลีย ฮาร์คอนเนน ยังสาวๆ กับยุคปัจจุบัน 30 ปีต่อมาที่แก่ลงไปมาก ซึ่งช่วงของวาเลียก็ยังซอยย่อยไปอีกว่ามีน้องสาวอีกคนที่ติดตามเธอมาตั้งแต่ยังสาวจนถึงปัจจุบัน เท่ากับส่วนของพี่น้องคู่นี้มี 4 พาร์ทที่แตกต่างกันไปเลย แต่ทั้งหมดจะเชื่อมโยงถึงกันหมดโดยเล่าถึงลำดับการขึ้นมามีอำนาจของวาเลียในภคินีที่เต็มไปด้วยเลือด และการเดินเกมปัจจุบันสู้กับ เดสมอน ฮาร์ท ที่ปรากฏตัวออกมานอกเหนือแผนที่เธอวางไว้ ซึ่งส่วนนี้จะอยู่ในดาวจักรวรรดิ ส่วนของภคินีภาพจะเต็มไปด้วยการใช้พลังพิเศษมากมาย อย่าง ต้นกำเนิดพลังเสียงสั่งควบคุมคนได้ การจับโกหกคนที่เป็นพลังติดตัวไว้รับใช้งานเจ้าในดาวต่างๆ ซึ่งเป็นเหมือนหัวใจหลักของการเชื่อมโยงอำนาจปกครองดาวนั้นอีกที และยังมีพวกพลังพิเศษแปลกๆ อีกมากมายที่ไม่มีในภาพยนตร์ รวมถึงสกิลการปรุงยาเคมีต่างๆ ที่ได้ทั้งรักษาและสังหาร ซึ่งผู้ชมก็จะได้เห็นต้นกำเนิดของพลังทั้งหมดที่พวกนี้อย่างจุใจเลย เพียงแต่มันไม่ได้เป็นฉากที่มีสเปเชียลเอฟเฟ็กต์อะไรมากแค่นั้นครับ แต่ก็ถูกใจคนชอบแนวพลังพิเศษไซไฟแบบนี้แน่นอนเพราะภคินีภาพก็เหมือนพวกซิธกับเจไดในสตาร์วอร์นั่นแหละครับ
ส่วนเรื่องของทาง เดสมอน ฮาร์ท ก็คือการเล่าเรื่องที่เป็นปริศนาตั้งแต่แรกปรากฏตัวเลยว่าเขาคือใคร ทำไมเขาถึงมาถวายตัวรับใช้จักรวรรดิ พลังที่เขามีมาจากไหน ทำไมต้านพลังเสียงของวาเลียได้ โดยเรื่องของเขาจะเป็นการตามล่าหากบฏที่พยายามโค่นล้มจักรวรรดิกับกลุ่มภคินีภาพที่เขารู้ว่ากำลังครอบงำจักรวรรดิ ก็จะมีตัวละครฝ่ายกบฏที่แฝงตัวอยู่ในวัง การทรยศหักหลังกันในครอบครัวที่มีองค์หญิงกับองค์ชายเตรียมขึ้นครองบัลลังค์ต่อจากพ่อ ในขณะที่แม่ก็มีแผนการของตัวเองเพื่อครองอำนาจเหนือสามีเช่นกัน เป็นแนวแบบ Game of Thrones ชิงไหวพริบทางการเมืองแบบจริงจัง แต่แค่ไม่ซับซ้อนเท่า ฝั่งนี้ไม่มีพลังพิเศษอะไรให้เห็น แต่มีฉากสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ของอุปกรณ์การต่อสู้ของทหาร อย่างเกราะป้องกันตัว ดาบ ระเบิด ยานรบ แต่ฉากแอ็กชั่นส่วนนี้ก็ธรรมดาไปหน่อย คิวบู้แย่เชื่องช้ามาก เหมือนมีไปงั้นๆ พลังของ เดสมอน ฮาร์ท ก็เป็นแค่ผิวหนังของเหยื่อที่เขาจ้องเปลี่ยนสภาพไปเท่านั้น แต่มันก็ดูลึกลับดีตรงที่ว่าเขาทำได้ยังไง ในเมื่อมีเพียงพวกภคินีเท่านั้นที่มีพลังพิเศษต่างจากมนุษย์ปกติได้ โดยรวมส่วนนี้จะเล่าเรื่องอืดๆ มากกว่าส่วนของภคินีภาพที่ตัวละครฝั่งนั้นดูน่าติดตามกว่าทุกคนครับ
ด้วยความที่ตัวเรื่องทั้งหมดเล่าสลับไทม์ไลน์ทั้งอดีตกับปัจจุบันกันอย่างเยอะมาก ผู้ชมที่ไม่คุ้นเคยกับจักรวาลของ Dune ก็จะตามทันบ้างไม่ทันบ้างแน่ๆ เพราะหลายอย่างต้องพึ่งพาความรู้ความเข้าใจที่นอกเหนือจากซีรีส์ลงไว้ โดยเฉพาะเรื่องราวของฝ่ายภคินีภาพที่มีหลายอย่างเป็นเอกลักษณ์มาก อาจจะต้องดูแล้วทวนสองรอบด้วยซ้ำถึงจะเข้าใจทั้งหมด อย่างฉากที่หยดยาเข้าตาเพื่อไปพบวงศ์วานคนในตระกูลที่ตาย เรื่องทำเป็นแนวกึ่งไสยศาสตร์ผสมวิทยาศาสตร์แบบหลอนๆ เป็นการปลุกคนที่ตายไปนานแล้วให้กลับมาได้อีกแบบร่างทรง หรือพวกไอเทมบางอย่างที่จนจบเรื่องก็ไม่อธิบายว่ามันคืออะไร แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้นับว่าเป็นข้อผิดพลาดเพราะซีรีส์ตั้งใจขายคนดูกลุ่มที่รู้จักดูนจากนิยายมาโดยเฉพาะตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ
ส่วนงานโปรดักชั่นฉากต่างๆ ในดูนก็ถือว่าซีรีส์ยังทำได้ดีในระดับที่น้องๆ เวอร์ชั่นภาพยนตร์ลงมาเลย หลายอย่างอาจจะไม่ละเอียดสวยเท่า ดูเป็น CG แบบเด่นชัด อย่างพวกยานบินไปบินมา แต่ฉากเมืองจักรพรรดิกับของภคินีทำได้สวยมาก ฉากหนอนทรายก็ทำออกมาเหมือนภาพยนตร์ แต่เป็นฉากสั้นๆมุมมองไกลๆ ยังไม่ได้โฟกัสเรื่องไปที่หนอนพวกนี้ แต่ตอนจบจะไปที่ดาวอาร์ราคิสแล้วก็น่าติดตามมากครับ
สรุป ซีรีส์พรีเควลจุดกำเนิดดูนดัดแปลงจากนิยายโดยตรงที่สเกลงานสร้างโปรดักชั่นยังทำออกมาได้ดีมากระดับน้องๆ เวอร์ชั่นภาพยนตร์เลย แต่ส่วนเนื้อเรื่องที่ต้องเล่าหลายไทม์ไลน์กับหลายตัวละครทับซ้อนกันมากทำให้มีปัญหา ดูแล้วงงๆ ได้เลย ไม่นับการเล่าเรื่องที่ไปช้าๆ แบบเดียวกับภาพยนตร์ สนุกแบบอืดๆ กับฉากแอ็กชั่นต่อสู้ที่ดูธรรมดามาก ก็คงไม่ถูกใจผู้ชมทั่วไปนัก แถมซีรีส์ก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของดูนให้ผู้ชมหน้าใหม่เข้าใจเลย แต่วางตัวเป็นซีรีส์สำหรับแฟนของดูนโดยเฉพาะทั้งคนที่ชอบภาพยนตร์และอ่านนิยาย ซึ่งกลุ่มนี้ก็น่าจะดูสนุกและเข้าใจการดำเนินเรื่องได้ไม่ยาก แต่ฉากการโชว์พลังพิเศษหลายอย่างของภคินีภาพที่เป็นตัวเอกหลักและเป็นตัวร้ายที่ชักใยจักรวาลนี้อยู่ก็ช่วยทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ยังดูน่าติดตามอยู่ตลอดจนจบเรื่องครับ