รีวิว อินจัน Extraordinary Siamese Story โกอินเตอร์ด้วยเรื่องราวแปลกใหม่ได้อย่างน่าชื่นชม (อัพเดทจบ)
อินจัน Extraordinary Siamese Story: Eng and Chang
สรุป
สรุปโดยรวมเป็นงานซีรีส์ไทยที่ยกระดับไปอินเตอร์ในเรื่องราวที่แตกต่างน่าสนใจ ภาพรวมทำได้ดีกว่าละครไทยทั่วไป แต่ก็ยังติดภาพหลายอย่างของละครไทยมากไป ซึ่งการรับชมก็ต้องเปิดใจดู อาจจะไม่ดีมากแต่ก็ไม่เสียหายที่จะทดลองรับชมดูครับ
Overall
6/10User Review
( votes)Pros
- ปมเรื่องราวความรักอินจันที่มีแง่มุมความขัดแย้งกับยุคสมัยโหดร้ายของอเมริกาในแบบที่ไม่เคยมีใครนำเสนอมาก่อน (ช่วงก่อนยุคก่อนสงครามเหนือใต้)
- ตีแผ่เรื่องจริงที่แทบไม่มีใครรู้มาก่อนของอินจัน
- โปรดักชั่นงานสร้างยกระดับเทียบเท่ามาตรฐานสากล
- ฉากโลเกชั่นในเรื่องถ่ายทอดออกมาสวย
- แนวดราม่าก็จริง แต่เดินเรื่องเร็วมีปมน่าติดตามตลอด
Cons
- โทนภาพกับฉากนักแสดงฝรั่งล้วนยังดูเป็นละครไทยไม่เป็นธรรมชาติมากเท่าไหร่
- นักแสดงอินจันยังไม่มีเสน่ห์มากพอ
- การข้ามเรื่องมาจุดสูงสุดของอินจันที่รวยแล้วโดยไม่เล่าที่มาก่อนทำให้ดูขาดหายไป (ไปเล่าตอนท้ายสั้นๆ)
- เสียงพูดยังดูแข็งๆ เหมือนละครไทย
- ช่วงครึ่งหลังวนเวียนกับปมการผ่าตัดแยกร่างมากไป ไม่มีประเด็นใหม่มานำเสนอ
- การเดินเรื่องไม่มีจุดพีคต่อตอน
อินจัน Extraordinary Siamese Story: Eng and Chang ซีรีส์ไทยผลงานไทยแท้ๆ ที่โกอินเตอร์ลง Disney+ เจาะลึกเรื่องราวอินจันในแง่มุมที่ไม่เคยมีมาก่อนได้อย่างน่าติดตาม
ตัวอย่าง อินจัน Extraordinary Siamese Story: Eng and Chang
เรื่องราวของฝาแฝดอินจันเรื่องนี้เป็นซีรีส์จากงานสร้างของกันตนาร่วมกับทรู โดยจะเป็นซีรีส์ 13 ตอนจบ ออกอากาศตอนแรก 30 มิถุนายน ผ่านทางแพลตฟอร์ม Disney+ Hotstar เป็นงานไทยที่มองแล้วเห็นอนาคตใหม่ของวงการบันเทิงไทยที่สามารถยกระดับตัวเองสู่สากลในทิศทางเรื่องราวใหม่ๆ ไม่ได้แค่มุ่งขายแนวหนังผีหรือสยองขวัญแบบที่ผ่านๆ มา
ซีรีส์จับเรื่องราวชีวิตของอินจันในตอนที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว แถมพูดอังกฤษปร๋อ มีมิตรสหายเป็นฝรั่งในอเมริกาเรียบร้อยหมดแล้ว ซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่าคนดูส่วนใหญ่ต้องเคยได้ยินหรือรู้จักอินจันกันมาบ้าง ในฐานะแฝดตัวติดกันคู่แรกที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจนเป็นคำเรียกต่อๆ กันมาถึงลักษณะฝาแฝดแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ไม่เคยได้รู้ลึกถึงที่มาอะไรมากถ้าไม่ไปค้นหาอ่านต่อ ทำให้การเปิดเรื่องที่จุดสูงสุดของอินจันดูกระโดดข้ามขั้นไปบ้าง ซึ่งเราคนไทยเองก็อยากเห็นตั้งแต่เริ่มที่มาตอนเด็กๆ เพื่อให้มีการปูเรื่องทำความเข้าใจที่มาอินจันกันก่อน แต่หลังจากรับชมต่อไปเราจะเข้าใจได้เองว่า ตัวเรื่องไม่ได้ต้องการเล่าชีวประวัติที่มาตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เลือกโฟกัสไปที่ช่วงเวลาความรักของอินจันกับสาวฝรั่งพี่น้องสองคน แอดิเลดกับซาราห์ ที่ซึ่งมีเรื่องราวและประเด็นปมขัดแย้งที่น่าสนใจกว่ามานำเสนอ
เนื้อเรื่องในตอนแรกอย่างที่บอกคือรวบรัดมาแล้วว่าอินจันรวยแล้วในช่วงอายุ 28 ปี (ออกจากไทยมาตอนอายุ 18) มาซื้อที่ดินในอเมริกา ที่หมู่บ้านแทรปฮิลล์ (Traphill) เขตชานเมืองวิลส์โบโร (Wilkesboro) เคาน์ตีวิลส์ ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ถึง 300 ไร่ กับมีทาสคนดำ 30 กว่าชีวิตในครอบครอง ซึ่งในยุคนั้นยังมีการค้าทาส และคนที่มีทาสได้คือชนชั้นสูง ซึ่งนี่คือหนึ่งในปมขัดแย้งของเรื่องที่ทำให้เรื่องน่าสนใจขึ้นมาทันที เมื่ออินจันคือคนเอเชียผิวเหลือง (อินจันเป็นลูกครึ่งแม่ไทยพ่อจีน) ที่ร่ำรวยในยุคที่มีการเหยียดผิวอย่างรุนแรงยังเป็นเรื่องปกติในสังคมอเมริกา เป็นยุคก่อนสงครามกลางเมือง ที่มีรัฐทาส ซึ่งแค่สีผิวกับเชื้อชาติของอินจันก็ทำให้ความขัดแย้งนี้เริ่มก่อตัวขึ้นมาในเมืองที่เคร่งศาสนา ความเชื่อเก่าๆ แต่เมื่อเรื่องเลือกโฟกัสไปที่ความรักต่างเชื้อชาติกับหญิงสาวอเมริกันสองพี่น้อง กับความบกพร่องทางร่างกายของอินจัน ซึ่งดูเป็นตัวประหลาดในสายตาคนขาวเหยียดผิวยิ่งทำให้ปมขัดแย้งนี้ยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ ซึ่งเรื่องราวในตอนแรกก็สามารถดึงอารมณ์ร่วมและอธิบายให้ผู้ชมเข้าใจทิศทางของเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนว่าจะไปทางไหน และอะไรคือหัวใจหลักของเรื่องนี้ผ่านฉากหลังประวัติศาสตร์อันเลวร้ายกับอเมริกาในยุคนั้น (แนะนำให้อ่านประวัติอินจันเพิ่มจากวิกิจะทำให้ดูเรื่องนี้สนุกมากยิ่งขึ้นกับปมตรงนี้ คลิกอ่านได้ที่นี่) เนื้อเรื่องช่วงสงครามจะมาตอนกลางเรื่องไป
นอกจากปมความขัดแย้งต่างๆ แล้ว ตัวเรื่องก็โฟกัสที่ความรักของอินจันได้อย่างน่าสนใจ โดยการสำรวจลึกเข้าไปในชีวิตรักของอินจันตั้งแต่แรก เมื่อจันหลงรัก แอดิเลด ตั้งแต่แรกเห็น (รับบทโดย มารีญา พูลเลิศลาภ) และตามมาด้วย ซาราห์ พี่สาวของแอดิเลด (รับบทโดย เดน่า สโลซาร์) ที่อินหลงรักเธอหลังจากต้องช่วยจันไปจีบแอดิเลด ในคู่นี้ไม่มีปัญหาหรืออะไรเพราะเรียกว่ารักแรกพบกันทั้งคู่ก็ว่าได้ (แอบมีบทแบบละครไทยเชยๆ ปนมานิดหน่อยให้อินจันได้ช่วยเธอจากชายชั่วที่พยายามเคลมเธอในรถม้า) แต่หลังจากนั้นคือปมความรักที่น่าสนใจ ไม่ว่าใครก็คงต้องตั้งคำถามในใจแน่ว่า ผู้หญิงที่ไหนจะยอมรับได้กับความรักแบบฝาแฝดตัวติดกัน มีสามีที่ต้องมีผู้ชายอีกคนรู้เห็นอยู่ตลอด แม้ว่าจะแต่งงานคู่กันก็ไม่อาจจะมองข้ามปัญหานี้ได้อยู่ดี ซึ่งในกรณีของแอดิเลด เธอสามารถก้าวพ้นความคิดแบบนี้ไปได้ตั้งแต่แรก ด้วยการเชื่อมั่นในความรักที่มีต่อจัน แต่กับซาราห์เธอไม่อาจจะรับได้กับเรื่องแบบนี้ แม้จะรู้สึกชอบพออินแบบซ่อนเร้นไว้ก็ตาม ซึ่งเรื่องก็ทำให้เห็นปัญหาตามมาเลยว่า การที่อินคนพี่ต้องติดตามการเดทของน้องต้องอมทุกข์เพราะไม่สมหวังในความรักมันทรมานกว่าคนปกติแค่ไหน และปัญหานี้ก็พ่วงถึงการแต่งงานของน้องด้วยว่าอาจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะจันเองก็แคร์การยอมรับในสังคมเช่นกัน เพราะเขาก็รู้ว่ามันแปลกที่จะมีชายสองคนอยู่กินฉันสามีภรรยาเดียว มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ซึ่งปมปัญหานี้ชวนให้เรื่องน่าติดตามว่าจะหาทางออกได้ยังไง โดยมีฉากการเปิดใจของอินกับซาราห์ที่มาพร้อมไดอะล็อกที่สวยงาม และสะท้อนความคิดลึกๆ ที่ซ่อนอยู่ของอินที่มองเห็นสายตาคนบนโลกนี้มองกลับมาที่เขาได้อย่างน่าชมเชย เป็นบทพูดที่เรียกได้ว่าสวยงามที่สุดหนังไทยเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และก็ทำให้ปมความรักนี้คลี่คลายลงได้อย่างน่าเชื่อถือในทันทีอีกด้วย ซึ่งรวมถึงการแสดงในบทอินกับซาราห์ด้วยที่นักแสดงทั้งคู่ต่างเล่นบทความรักที่ยากจะยอมรับนี้ได้ดี โดยเฉพาะ เดน่า สโลซาร์ ที่สวยจากสีหน้าท่าทางแบบเศร้าๆ ปฏิเสธความรักโดยการซ่อนเร้นไว้ลึกๆ ตลอดเวลา จนมีเสน่ห์น่าจับตามองเป็นพิเศษ (บทของเธอมีมิติลึกกว่ามารีญามากด้วย)
อีกส่วนที่ทำให้เรื่องนี้ดูดีสมกับเรื่องมากคือการยกกองไปถ่ายทำในอเมริกาจริงๆ พร้อมฉากโลเกชั่นที่สวยงามด้วยทิวทัศน์ทุ่งกว้างกับภูเขาในช่วงเวลาของความรักในเรื่อง (แต่ภาพละเอียดสุดแค่ 1080p ไม่มี 4K)โดยมีงานโปรดักชั่นจำลองยุคสมัยศตวรรษที่ 18 ของอเมริกาออกมาได้ดีจนเหมือนซีรีส์ฝรั่งทำ รวมถึงผู้คนตัวประกอบในเรื่องที่เป็นทั้งฝรั่งกับคนผิวดำก็ไม่ใช่น้อย เรียกว่าซีรีส์ลงทุนสร้างส่วนนี้จนน่าเชื่อถือ เป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อนแน่นอนในสเกลซีรีส์ไทยแบบนี้
แต่จุดด้อยหลักของเรื่องนี้หลังรับชมจบหมดทุกตอนคือ เรื่องราวหลังจากจบช่วงสงครามกลางเมืองไป เนื้อเรื่องไม่มีประเด็นอะไรใหม่ วนกลับเรื่องการผ่าตัดอินจันที่เคยเสนอไปตอนแรก ทำให้เนื้อเรื่องดูวนซ้ำเดิมลากยาวจนจบเรื่องก็ยังติดอยู่กับประเด็นนี้ และเรื่องก็ไม่ค่อยมีจุดพีคในแต่ละตอนแบบซีรีส์ เป็นการเดินเรื่องต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เท่านั้น
นอกจากนี้ตัวโทนภาพ ตัวละคร บทพูด ยังเป็นแนวละครไทย ซึ่งทำให้ภาพรวมของเรื่องยังดูไม่ขึ้นมาเป็นงานอินเตอร์เต็มตัว ซึ่งผู้ชมที่ไม่ชอบละครไทยก็คงไม่อยากเปิดใจดูสักเท่าไหร่
อีกจุดที่รู้สึกยังไม่ประทับใจพอคือเสน่ห์ของตัวอินจันในเรื่องยังไม่เด่นชัด ดูแล้วยังไม่เหมือนอินจันตัวจริงด้วย แต่อันนี้เข้าใจได้ ซึ่งเรื่องนี้เลือกใช้ดาราใหม่ฝาแฝดมารับบทนี้ (“บ็อบ วรุตม์ บราวน์” และ “เบ็น วราวุฒิ บราวน์” รับบท อินและจัน) แต่ก็ต้องยอมรับว่าบทนี้ยากไม่ใช่เล่นๆ เลยกับการแสดงความรู้สึกฝาแฝดตัวติดกันที่มีบุคลิกนิสัยต่างกัน แต่ก็ต้องลากกันไปตลอดเรื่อง โดยใช้การกอดหลังกันไว้ แถมต้องพูดอังกฤษสื่อสารแทบตลอดทั้งเรื่อง ยกเว้นแค่ตอนพูดคุยกันเองถึงเป็นไทย (เปิดเสียง ENG ในการดูถึงตรงจริง) ถือว่าเล่นได้สมบทบาทมากพอสมควร
สรุปโดยรวมเป็นงานซีรีส์ไทยที่ยกระดับไปอินเตอร์ในเรื่องราวที่แตกต่างน่าสนใจ ภาพรวมทำได้ดีกว่าละครไทยทั่วไป แต่ก็ยังติดภาพหลายอย่างของละครไทยมากไป ซึ่งการรับชมก็ต้องเปิดใจดู อาจจะไม่ดีมากแต่ก็ไม่เสียหายที่จะทดลองรับชมดูครับ
อ่านรีวิวออริจินอลคอนเทนต์ของ Disney+ เพิ่มได้ที่นี่ (กำลังทะยอยอัพเดทเรื่อยๆ)