รีวิว FAIR PLAY นำเสนอชีวิตคู่แตกร้าวผ่านวงการกองทุนตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
FAIR PLAY
Summary
สรุปเป็นหนังแนวปัญหาชีวิตคู่ที่ทะเลาะไต่ระดับความรุนแรงกันทั้งเรื่อง ทั้งการแย่งชิงงานในวงการหุ้น ชีวิตคู่ที่กำลังจะแต่งงานกันและเรื่องเซ็กส์ โดยมีเกมชิงไหวพริบแทรกมานิดๆ แต่ตอนจบอาจจะดูเรียบและออกแนวปลายเปิดไป จนเสียดายการบิ้วอารมณ์สติแตกมาทั้งเรื่องครับ
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- ปัญหาชีวิตคู่ที่กำลังพังทลายลง
- เรื่องราวในวงการหุ้นแบบเบาๆ
- นักแสดง Phoebe Dynevor สวยเด่นมาก
- มีฉากเซ็กส์หลายครั้ง
- มีพากย์ไทย
Cons
- ชิงไหวพริบกันน้อยกว่าที่คิด
- ตอนจบเรียบๆ ปลายเปิด
- ไม่ได้โฟกัสตัวเอกชายมากเท่ากับตัวเอกหญิง
FAIR PLAY คู่รักที่ทำงานในบริษัทกองทุนตลาดหุ้นวอลล์สตรีท แต่ทั้งคู่ต้องปิดบังสถานะนี้ไว้จากกฎข้อห้ามของบริษัท จนกระทั่งฝ่ายหญิงได้เลื่อนตำแหน่ง ในช่วงที่ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน นั่นทำให้สถานะของคู่รักนี้เริ่มพังทลายลง
รีวิว FAIR PLAY (ไม่สปอยล์)
หนังเรื่องแรกจากผู้กำกับในสายซีรีส์ Chloe Domont ซึ่งเธอเขียนบทกับกำกับไปพร้อมกัน และก็ฉายในเทศกาลซันแดนว์ ก่อนที่ Netflix ซื้อลิขสิทธิ์มา โดยเป็นเรื่องราวปัญหาชีวิตคู่ที่ค่อยๆ แตกร้าว ตัวละครทะเลาะกันทั้งเรื่อง โดยจุดเริ่มจากคืนหนึ่งที่เอมิลีได้รับโทรศัพท์ไปกลางดึกกับเจ้านาย ก่อนกลับมาด้วยข่าวเลื่อนตำแหน่ง ทำให้ลุคเริ่มคิดมากว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้านายกับแฟนสาวของเขา ซึ่งแม้ในตอนแรกจะดูไม่มีปัญหา แต่รอยร้าวก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อการงานของทั้งคู่เริ่มมีปัญหา มีการผิดใจกันจากความเชื่อใจส่วนตัว กลายเป็นเกมพยายามแย่งงานที่เหมือนต่างคนต่างซ่อนเล่ห์เหลี่ยมไว้ภายในใจ แม้ทั้งคู่จะกลับมาอยู่บ้านด้วยกันทุกคืนก็ตาม
ตัวหนังเน้นบทสนทนาที่ค่อยๆ ไต่ระดับความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จากเรื่องงานเป็นหลัก โดยมีศัพท์พวกตลาดหุ้นเข้ามาเกี่ยวข้องนิดหน่อย โดยไม่ได้ทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้รู้ศัพท์พวกนี้มีปัญหาอะไรมาก ทำให้เนื้อเรื่องส่วนนี้ค่อนข้างดูลื่นสนุกไปกับเกมการตัดสินใจซื้อหุ้นเก็งกำไรให้บริษัทเพื่อชิงผลงานกัน โดยมีบอสที่ปากเสียดุด่าลูกน้องด้วยคำหยาบคายมาเป็นตัวแปรซ้ำเติมทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยิ่งดิ่งหนักขึ้นไปอีก
ในส่วนชีวิตส่วนตัวที่ทั้งคู่แค่ตกลงแต่งงานกันเฉยๆ แต่ก็มีแม่ของเอมิลีเข้ามาเร่งกดดันจัดงานหมั้นให้โดยพลการ โดยไม่รู้ว่าชีวิตลูกสาวของเธอกำลังมีปัญหา ทำให้เป็นชนวนซ้ำเติมเรื่องขึ้นอีกขั้น
หนังมีฉากเซ็กส์ด่วนๆ อยู่หลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีปัญหาทั้งคู่ชอบทำแบบนี้ แต่พอหลังเกิดเรื่องอารมณ์ของทั้งคู่กลับไม่เกิดพร้อมกัน ทำให้เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยาก อีกฝ่ายก็มีปัญหา ซึ่งตัวหนังสะท้อนปัญหาเซ็กส์กับชีวิตคู่ได้เป็นอย่างดี และนำมันมารวมกับช่วงระเบิดไคลแม็กซ์ของเรื่องในท้ายที่สุด แต่ฉากจบสุดท้ายอาจจะดูเรียบกว่าที่เห็นการระเบิดอารมณ์มาทั้งเรื่องมากไป ซึ่งก็เป็นลักษณะปลายเปิดให้ผู้ชมไปคิดต่อกันเอาเองครับ
แต่สิ่งที่ตัวหนังเด่นจริงๆ คือความสวยของนักแสดงสาว Phoebe Dynevor ที่ดูเด่น แม้เธอแต่งชุดทำงานแต่ก็ดูเร้าอารมณ์อยู่ตลอดเรื่อง มีฉากระเบิดความโกรธจนถึงขั้นจิตแตกในตอนท้าย ในขณะที่บทลุคของนักแสดง Alden Ehrenreich ยังดูธรรมดาไป แม้จะมีฉากระเบิดอารมณ์เล่นใหญ่ แต่ปัญหาคือตัวบทไม่ได้เด่นเท่ากันโดยตรง เพราะไปโฟกัสที่ตัวนางเอกมากกว่าเขา
สรุปเป็นหนังแนวปัญหาชีวิตคู่ที่ทะเลาะไต่ระดับความรุนแรงกันทั้งเรื่อง ทั้งการแย่งชิงงานในวงการหุ้น ชีวิตคู่ที่กำลังจะแต่งงานกันและเรื่องเซ็กส์ โดยมีเกมชิงไหวพริบแทรกมานิดๆ แต่ตอนจบอาจจะดูเรียบและออกแนวปลายเปิดไป จนเสียดายการบิ้วอารมณ์สติแตกมาทั้งเรื่องครับ