รีวิว Fakes ซีรีส์อาชญากรรมเด็กสาวใสๆ ทำบัตรปลอมขายจนกลายเป็นอาชญากรมืออาชีพ (ไม่สปอยล์)
Fakes ปลอม
Summary
ซีรีส์อาชญากรรมวัยรุ่นทำธุรกิจบัตรประชาชนปลอมที่เริ่มจากขำๆ ก่อนจะใหญ่โตจริงจังเป็นมืออาชีพแสนวุ่นวาย เหมือนเป็นการผสมของซีรีส์ 2 เรื่องระหว่าง How to sell drug online (fast) ซีรีส์เนิร์ดเกมที่กลายมาเป็นเจ้าพ่อขายยาออนไลน์ กับ Good Girl ที่ว่าด้วยเรื่องแก๊งแม่บ้านสามคนที่ผันตัวมาทำธุรกิจพิมพ์แบงค์ปลอม แต่มีแนวทางการเล่าเรื่องของตัวเองฉีกออกไปแบบวัยรุ่นขิงกับบลัฟผลัดกันเล่าเรื่องเหตุการณ์ความเป็นมาที่ต่างออกไปในแต่ละตอนสลับไปมา ซึ่งกวนโอ๊ยและดูสนุกมาก แต่ก็ยังจริงจังกับขั้นตอนการทำธุรกิจบัตรปลอมที่ดูแล้วเอาไปศึกษาเลียนแบบได้จริงๆ และก็มีส่วนผสมทั้งการหักหลังในธุรกิจกับชีวิตรักวัยรุ่นไปด้วยกันแบบเบาๆ กำลังดีเลย แต่เรื่องอาจจะดูมีทางออกง่ายๆ เหมือนซีรีส์เด็กวัยรุ่นไปเท่านั้นครับ และก็จบค้างกับจุดหักเหของเรื่องราวที่ถ้ามีต่อซีซั่นต่อไปก็คงไปไกลกว่าธุรกิจทำบัตรปลอมตามสูตรแน่นอนครับ
Overall
7/10User Review
( vote)Pros
- อาชญากรเด็กกับธุรกิจทำบัตรปลอมที่ใหญ่โตเกินคาด
- บอกขั้นตอนการทำบัตรปลอมลึกในระดับหนึ่งเลย
- พ่วงดราม่าวัยรุ่นมาเบาๆ กำลังดี
- การเล่าเรื่องสลับไปมาคนละตอนที่เก๋มาก
- ตัวเอกทั้งสองคนเล่นได้ดี
- มีพากย์ไทย
Cons
- เรื่องดูเบาๆ มีทางออกง่ายไปในหลายครั้ง
- โครงเรื่องดูเหมือนก็อป Good Girl มาทำใหม่เป็นเด็ก
Fakes ปลอม ซีรีส์แคนาดา Netflix 10 ตอนสั้น เวลาต่อตอน 20 นาที มีพากย์ไทย แนวอาชญากรรมวัยรุ่นคอมเมดี้ เรื่องราวของสาววัยรุ่นสองคู่หูที่หันมาทำธุรกิจบัตรปลอมจนกลายเป็นมืออาชีพอาชญากรตัวฉกาจ
รีวิว Fakes (ไม่มีสปอยล์)
เรื่องนี้เป็นซีรีส์แคนาดาที่เหมือน How to sell drug online (fast) ซีรีส์เนิร์ดเกมที่กลายมาเป็นเจ้าพ่อขายยาออนไลน์ ที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริง และเรื่องนี้ก็ขึ้นไตเติลทุกตอนไว้คล้ายๆ กันเสมือนให้คิดว่าเป็นเรื่องจริง แต่ปรับจากยาเสพติดมาเป็นเรื่องปลอมบัตรประชาชนเพื่อซื้อขายผู้เยาว์ไปซื้อเหล้าเข้าผับ ที่มีมูลค่ามหาศาลมากกว่าที่คิด โดยที่เรื่องราวยังมีส่วนผสมของซีรีส์ Good Girl ชื่อดังที่ว่าด้วยเรื่องแก๊งแม่บ้านสามคนที่ผันตัวมาทำธุรกิจพิมพ์แบงค์ปลอม ซึ่งถ้าใครดูมาก็จะเห็นเลยว่าโครงเรื่องแอบคล้ายกันบางอย่างมาก อย่างเช่นการเข้าสู่ธุรกิจที่มีอาชญากรตัวเอ้หลอกและบังคับให้เธอทำในตอนแรกก่อนจะค่อยๆ กลายมาเป็นตกกระไดพลอยโจนกลายเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกันจริงๆ โดยมีเรื่องหักหลังกันเป็นสีสันไคลแม็กซ์ของเรื่องแนวอาชญากรรมผสมกับชีวิตส่วนตัวของตัวละครอีกที
แต่ถึงเรื่องจะมีโครงกับกลิ่นอายคล้ายกันมากจริงๆ เรื่องนี้ก้ยังมีการเล่าเรื่องที่ฉีกแนวออกไปได้ อาจจะเพราะการที่ให้เด็กสาวสองคนมาเป็นตัวเอกมันทำให้เรื่องราวเป็นวัยรุ่นสุดๆ อย่าง How to sell drug online (fast) นี่ยังจริงจังกับธุรกิจค้ายามาก แต่กับเรื่องนี้คือตัวเรื่องนำเสนอตอนก่อนจบของซีซั่นเป็นตอนเปิดว่า โซอี้ ถูกตำรวจบุกจับติดคุก แล้วก็เล่าเรื่องย้อนกลับมาถึง เบคก้า เพื่อนสาวชาวจีนที่บ้านรวยว่าเป็นคนต้นคิดเรื่องราวทั้งหมด และทำให้เธอติดคุกอยู่คนเดียว ซึ่งตัวเรื่องก็จะย้อนไปถึงไอเดียแรกเริ่มธุรกิจว่ามีที่มายังไงในแบบวัยรุ่นทั่วไปที่บังเอิญเห็นเพื่อนทำบัตรปลอมเข้าห้องสมุดได้ เลยอยากให้ทำบัตรปลอมไปซื้อเหล้าได้บ้าง จากนั้นก็เลยเถิดเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจต่อ แต่เรื่องราวไม่ได้มีแค่มุมโซอี้ เพราะตอนต่อมา เบคก้า จะเป็นคนเล่าอีกแบบจากจุดเริ่มต้นทั้งหมดที่ต่างออกไปอีกแบบ กลายเป็นหนังคนละม้วน แล้วก็ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้สลับไปมาทุกตอน ทุกเหตุการณ์มีสองเรื่องเล่า ผลัดกันกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นตัวร้าย หรือเจ๋งกว่า ในเรื่องราวการทำธุรกิจบัตรปลอมที่ค่อยๆ ทำเงินใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมี ทริสต์ หนุ่มอาชญากรเป็นนายทุนที่คอยหนุนหลังพวกเธอ และทริสต์เองก็มีเรื่องเล่าที่ต่างออกไปอีกแทรกคั่นเรื่องของสองคนนี้เพิ่มด้วย
ตัวเรื่องแม้จะดูเด็กๆ วัยรุ่น แต่ก็มีการบอกเล่าถึงรายละเอียดการทำบัตรปลอมเป็นขั้นเป็นตอน อารมณ์คล้ายๆ Good Girl เป๊ะ ที่กว่าจะทำได้เนียนเหมือนจริงก็ต้องใช้เวลาผ่านประสบการณ์ลองผิดถูกมามากพอสมควร ซึ่งขั้นตอนในการทำบัตรเรื่องนี้ก็บอกในเชิงลึกที่น่าสนใจ แบบที่ก็อปเอาไปศึกษาได้เลยระดับหนึ่งจริง มีทั้งจุดสังเกตุ การทำเลียนแบบจุดสำคัญ ประเภทหมึก เครื่องปริ้นท์ โดยที่ตัวละครก็จะหันมาเล่ารายละเอียดเหล่านี้ให้เราฟังเหมือนคุยกับผู้ชม
และด้วยความที่ตัวเอกเป็นวัยรุ่นหญิงสองคนก็เลยมีพวกดราม่าหญิงแทรกเข้ามาในเรื่อง อย่างมิตรภาพของทั้งคู่ตั้งแต่เด็ก ปัญหาครอบครัวที่ทั้งคู่พบเจอไม่เหมือนกันและปรึกษา หรือระบายใส่กัน รวมถึงเรื่องความรักก็มีด้วยเป็นรักสามเส้าที่แทรกมานิดๆ พอให้เรื่องกระชุ่มกระชวยและมีสีสันเป็นซีรีส์วัยรุ่นได้กำลังดีเลย โดยที่แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ก็ยังถูกเล่า 2 แบบจากปากของโซอี้กับเบคก้าเหมือนธุรกิจปลอมบัตรแบบเดียวกัน (เรื่องบัตรปลอมจะแนวขิงกว่าใครเก่งกว่า ส่วนเรื่องดราม่าจะโบ้ยว่าใครคือปัญหา)
ตัวนักแสดงเด็กทั้งคู่ถือว่าเล่นได้ดีเลย โดยเฉพาะโซอี้ที่เริ่มจากเด็กสาวหงิมๆ เรียบร้อยก่อนค่อยๆ เปลี่ยนแปลงกลายเป็นสาวร้ายๆ แล้วก็ภูมิใจในความสามารถการเป็นบอสของเธอ ที่ธุรกิจนี้เธอมีลูกน้องเป็นเพื่อนในโรงเรียนช่วยหาลูกค้าให้อีกที
แต่ด้วยความที่เรื่องค่อนข้างเด็กวัยรุ่นมาก ทำให้ปมหลายอย่างในเรื่องถูกเคลียร์ได้แบบเบาๆ หาทางออกกันง่ายไม่ได้กดดันอะไรนัก ก็เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้เข้มข้นมาก อารมณ์เหมือน Good Girl ที่ว่าเบาพอสมควรแล้ว มาเป็นเวอร์ชั่นเด็กที่เบาลงมาอีกครับ
เรื่องมีแค่ 10 ตอนสั้นๆ ใช้เวลาดูไม่นานนัก แต่ตอนจบก็อาจจะค้างสักนิดเป็นจุดสำคัญเพื่อไปเฉลยในซีซั่นต่อไป ซึ่งก็แอบคล้ายตอนจบของ Good Girl ในซีซั่นแรกๆ อยูด้วย ซึ่งเชื่อว่าถ้าได้ทำต่อซีรีส์เรื่องนี้ก็น่าจะพัฒนาขยายกลายเป็นปลอมมากกว่าบัตรประชาชนแน่นอนครับ