รีวิว Fiasco กล้องวุ่น กองป่วน (Netflix) ตัวเรื่องมีไอเดียเก๋ๆ แต่ช่วงแรกตัวละครน่ารำคาญมาก
Fiasco กล้องวุ่น กองป่วน
Summary
สรุป เป็นซีรีส์ที่ออกแบบบทการเล่าเรื่องได้เก๋มากๆ ถ้าดูจนจบจะเข้าใจความร้ายกาจของบทในเรื่องนี้ที่มีมากกว่าแนวตลกที่ฉาบหน้าไว้ แต่ด้วยความเป็นตลกฝรั่งเศสก็อาจจะไม่ถูกใจชาวไทยส่วนใหญ่นัก แล้วเรื่องช่วงแรกก็ไม่ปูพื้นให้ผู้ชมเข้าใจตัวเอกดีพอจนทำให้ดูน่ารำคาญมากกว่าตลก ซึ่งผู้ชมต้องใช้เวลาสัก 2-3 ตอนก่อนจะจุดติดและเข้าใจสนุกไปกับเรื่องที่เหลือได้ครับ
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- จากผู้สร้าง Family Business (ชื่อไทย คาเฟ่วุ่น ปุ๊นชุลมุน)
- ไอเดียการเล่าเรื่องกับเก๋มาก
- ตัวละครบ้าบอมากทุกคน
- มีดราม่าลึกๆ ซ่อนอยู่
Cons
- ช่วงแรกไม่มีการปูแบ็คกราวด์ที่มาตัวเอกเลย
- ตัวเอกช่วงแรกดูลูสเซอร์จนไม่น่าเชื่อและน่ารำคาญมาก
- ไม่มีพากย์ไทย+เสียงฝรั่งเศสฟังค่อนข้างยาก
Fiasco กล้องวุ่น กองป่วน ซีรีส์ Original Netflix 7 ตอนจบ แนวตลกดราม่า เรื่องราวของกองถ่ายหนังสุดป่วนจากฝีมือคนร้ายคอยบ่อนทำลายที่ซ่อนตัวอยู่ ผู้สร้างจึงต้องหาทางจับเขาให้ได้ ในขณะที่ชีวิตส่วนตัวก็เดิมพันจนบรรลัยไปกับหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
รีวิว Fiasco กล้องวุ่น กองป่วน (ไม่สปอยล์)
ซีรีส์จากผู้สร้างชื่อดังของฝรั่งเศส Igor Gotesman ซึ่งผู้ชมชาวไทยคงไม่คุ้นเคยกัน แต่ผลงานของเขาใน Netflix อย่าง Family Business (ชื่อไทย คาเฟ่วุ่น ปุ๊นชุลมุน) นั้นสุดยอดมาก มันเป็นเหมือนการล้อเลียนสร้าง Breaking Bad เวอร์ชั่นเฮฮาไปกับวงการกัญชา ซึ่งผู้เขียนแนะนำเลยว่าใครที่เคยดูต้องติดใจแน่นอนครับ (อ่านรีวิวได้ที่ท้ายบทความนี้)
ด้วยเครดิตผู้สร้างที่สร้างสรรค์มาก สิ่งที่เชื่อมือได้อย่างหนึ่งก็คือเรื่องนี้ก็มีบทที่มีไอเดียเก๋มากเช่นกัน โดยพล็อตเรื่องคือการสืบหาคนร้ายในกองถ่าย ซึ่งหมอนี่พยายามป่วนกองถ่ายให้มีปัญหาตลอดเวลา ตั้งแต่ถ่ายคลิปแบล็คเมล์ พังฉาก กระจายข่าวร้ายๆ ออกไป จนทำให้ผู้กำกับเสียชื่อ สร้างไวรัลร้ายๆ จนทำให้นายทุนของเรื่องต้องหนีถอนตัว ซึ่งกลุ่มตัวเอกคือผู้กำกับกับโปรดิวเซอร์ต้องพยายามตามหาตัวหมอนี่ให้ได้โดยที่คนในกองถ่ายไม่รู้ ซึ่งนี่คือความลับของเรื่องว่าสุดท้ายแล้วหมอนี่คือใคร ซีรีส์นำเสนอเรื่องราวสืบสวนในกองถ่ายเหมือนนักสืบสมัครเล่นที่พยายามทำทุกวิถีทางบ้าๆ บอๆ จนกลายเป็นเรื่องตลกโปกฮา ในขณะที่ทุกตัวละครในกองถ่ายก็พร้อมใจกันสร้างเรื่องป่วนซ้อนไปอีก จนเหมือนว่ากองถ่ายนี้มันคือศูนย์รวมของคนบ้าๆ บอๆ มารวมตัวถ่ายหนังกัน ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชมต้องโยนตรกะความสมจริงอะไรทิ้งไปให้หมดถึงจะดูเรื่องนี้แล้วหัวเราะขำตามเรื่องไปได้ครับ และก็ต้องเข้าใจว่ามุกตลกในเรื่องนี้คือแนวฝรั่งเศสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่อนข้างมาก ผู้ชมชาวไทยอาจจะต้องค่อยๆ ปรับตัวหน่อยเพื่อให้เข้าใจบริบทความตลกของเรื่องนี้ ซึ่งยืนยันว่าหลายมุกขำมากจริงๆ ครับ
สิ่งที่เจ๋งของเรื่องนี้คือไอเดียที่เรื่องถูกเล่าด้วยการเป็นหนังซ้อนหนังในระหว่างการดำเนินเรื่อง ตัวเรื่องเล่าถึงการถ่ายทำที่ต้องมีงานเบื้องหลังประกอบตามไปด้วย ทำให้ผู้ชมได้เห็นชีวิตเบื้องหลังของตัวละคร โดยมีเรื่องราวของผู้กำกับที่แอบหลงรักนางเอกสาวที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก แล้วงานนี้คือผลงานชิ้นแรกของเขาที่จะพังไม่ได้ ในขณะที่เรื่องราวของหนังก็ทำมาจากประวัติของตระกูลที่คุณยายเป็นผู้หญิงที่หาญกล้าต่อสู้กับนาซีในแบบเดียวกับ Schindler’s List (ชินด์เลอร์ลิสต์) แต่ทั้งครอบครัวก็ไม่ยอมรับพระเอกว่าจะทำหนังเรื่องนี้ได้และคอยดูถูกอยู่เสมอ ซึ่งเรื่องผูกโยงเอาทั้งดราม่าครอบครัว ความรักฝังใจ ความฝันในงาน ประวัติศาสตร์นาซี มารวมกับการสืบหาคนร้ายในกองถ่ายได้อย่างสนุก โดยมีช่วงหักมุมตอนท้ายหลายครั้ง ซึ่งมีอึ้งได้เหมือนกันที่เรื่องเฉลยความจริงที่น่าตกใจนอกเหนือจากการตามหาคนร้ายในเรื่องได้ดีเลย และสุดท้ายเรื่องก็จบด้วยการเฉลยตัวคนร้ายที่ซ่อนไว้ลึกสุด และค่อนข้างเซอร์ไพรส์มากเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใครครับ
คนร้ายในเรื่องนี้คือครีเอเตอร์ Igor Gotesman ที่เล่นเองในเรื่องนี้ด้วยตั้งแต่แรก
แต่สิ่งที่เรื่องนี้ค่อนข้างพลาดมาก คือช่วงแรกเนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยตัวละครพระเอกที่ลูสเซอร์มากๆ โดยไม่มีการปูเรื่องให้ผู้ชมรู้มาก่อนเลยว่าเขาคือใคร ทำไมได้มาเป็นผู้กำกับ แล้วเรื่องก็เล่าความลูสเซอร์ของพระเอกยาวนานถึง 2-3 ตอน โดยที่ผู้ชมก็ได้เห็นความอ่อนด้อยของผู้กำกับที่ทำอะไรโง่ๆ จนผิดพลาดเองทำให้เรื่องวุ่นๆ ที่เกิดช่วงแรกแทบจะเป็นฝีมือของเขาเองล้วนๆ มากกว่าคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ จนดูแล้วน่ารำคาญสุดๆ ซึ่งช่วงแรกนี้ยอมรับเลยว่าซีรีส์ทำได้ไม่สนุกและดูเบาสมองจนเกินไป ก่อนที่เรื่องหลังจากนั้นจะค่อยๆ เข้าที่และจุดติดจนทำให้มุกตลกช่วงหลังสร้างสรรค์และมีสาระผูกโยงเข้ากับประเด็นที่จะเล่าในเรื่องได้ดีกว่าช่วงแรกมาก
สรุป เป็นซีรีส์ที่ออกแบบบทการเล่าเรื่องได้เก๋มากๆ ถ้าดูจนจบจะเข้าใจความร้ายกาจของบทในเรื่องนี้ที่มีมากกว่าแนวตลกที่ฉาบหน้าไว้ แต่ด้วยความเป็นตลกฝรั่งเศสก็อาจจะไม่ถูกใจชาวไทยส่วนใหญ่นัก แล้วเรื่องช่วงแรกก็ไม่ปูพื้นให้ผู้ชมเข้าใจตัวเอกดีพอจนทำให้ดูน่ารำคาญมากกว่าตลก ซึ่งผู้ชมต้องใช้เวลาสัก 2-3 ตอนก่อนจะจุดติดและเข้าใจสนุกไปกับเรื่องที่เหลือได้ครับ
รีวิวซีรีส์ Family Business ผลงานก่อนของผู้สร้างเรื่องนี้ที่ชวนดูมากๆ
รีวิวซีรีส์ Family Business SS1-2 Breaking Bad เวอร์ชั่นเฮฮา กัญชาพาป่วน (อัพเดท SS2)