รีวิว Flora and Son หนังดนตรีจาก John Carney ที่มาในแนวทางที่แตกต่างเข้ากับยุคสมัยใหม่
Flora and Son
Summary
สรุปเป็นหนังแนวดนตรีจาก John Carney ที่แฟนผลงานของเขาควรรับชม เพราะเป็นแนวการเล่าเรื่องดนตรีแบบใหม่ ไม่ซ้ำกับหนังเรื่องไหนในแนวนี้เลย เป็นเบสิคดนตรีแบบพื้นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่เข้ามาร่วมด้วยอย่างกลมกลืน และก็ออกมาดี โดยไม่ทิ้งเรื่องราวความรักกับความสัมพันธ์เล็กๆ ตามสไตล์ของผู้กำกับไป แต่ถ้าไม่ใช่แฟนผลงานของ John Carney นี่ไม่ใช่หนังดนตรีที่ตอบโจทย์เรื่องเพลงเพราะๆ ได้เลย เพราะเพลงใหม่น้อยมาก เนื่องจากเป็นเรื่องราวของนักดนตรีฝึกหัดแม่ลูกเท่านั้นครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- หนังแนวดนตรีเรื่องใหม่ของ John Carney
- การเล่าเรื่องดนตรีเบสิคในยุคสมัยใหม่
- ไอเดียความรักทางไกลผ่านออนไลน์
Cons
- เพลงใหม่น้อยมาก และที่ใหม่ก็ไม่เต็มเพลง
- นักแสดงเด็กยังดูขัดๆ อยู่
Flora and Son หนังจาก John Carney ผู้กำกับสายแนวดนตรีโดยเฉพาะจากผลงาน Sing Street (2016), Once (2007) และ Begin Again (2013) ที่มีชื่อเสียงทุกเรื่อง ก่อนที่จะย้ายไปทำ Modern Love ซีรีส์แนวความรักให้ Amazon Prime ตั้งแต่ปี 2019-2021 จำนวน 2 ซีซั่น ซึ่งแม้จะไม่ใช่แนวดนตรี แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของงานแนวเดิมอยู่ และตอนนี้เขาได้กลับมาทำหนังแนวดนตรีอีกครั้งให้ Apple TV+ ซึ่งก็ยังเป็นหนังฟอร์มเล็ก แต่เน้นสร้างสรรค์ด้วยบทแนวทางใหม่ ซึ่งหนังแนวนี้หลังจากนั้นก็มักจะย่ำอยู่กับที่ ออกแนวประกวดดนตรี แนวความรักพระเอก-นางเอกเจอกัน แล้วขายเพลงประกอบซะมากกว่า ซึ่ง Flora and Son แตกต่างออกไปมาก ด้วยการเล่าเรื่องของ แม่ลูกที่มีปัญหาชีวิตกันทั้งคู่ จนวันหนึ่งกีตาร์เก่าๆ ตัวหนึ่งทำให้แม่กับลูกคู่นี้ได้มาสานสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอีกครั้ง โดยมีความรักแม่ลูกเป็นส่วนสำคัญของเรื่องมากกว่าอย่างอื่น
รีวิว Flora and Son
เรื่องนี้ใช้การดำเนินเรื่องแนวครอบครัวที่มีปัญหา ก่อนนำกีตาร์เข้ามาเป็นจุดหักเหของชีวิต โดยแม่ แสดงโดย Eve Hewson เป็นหญิงสาวใจแตกตั้งแต่วัยรุ่น จนทำให้ท้องและก็เป็นแม่ตั้งแต่วัยเด็ก โดยมีพ่อเป็นนักดนตรีที่แยกกันอยู่ และพ่อก็ผิดหวังจากเรื่องนี้เช่นกันทำให้อนาคตนักดนตรีดังของเขาหายไป ส่วนลูกที่ตอนนี้กำลังแตกเนื้อหนุ่มก็กลายเป็นขโมยหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเด็กคนอื่น จนมีคดีเข้ามาเกี่ยวข้องหลายครั้งใกล้ถูกส่งไปสถานกักกันเยาวชน ซึ่งเนื้อเรื่องนำกีตาร์ตัวแรกเข้ามาในครอบครัวเพื่อหวังให้เป็นของขวัญลูก แต่กลับถูกลูกปฏิเสธแม่จึงหัดทดลองเล่นกีตาร์เองเพื่อหวังลึกๆ ให้ลูกกลับมาสนใจ และอาจจะคืนดีกับสามีที่แยกไปได้ด้วย แต่การตัดสินใจหัดเล่นนี้นำเธอไปพบกับ เจฟฟ์ (แสดงโดย Joseph Gordon-Levitt) นักดนตรีที่ละทิ้งความฝันอาชีพนี้ไป โดยหันมารับสอนกีตาร์ผ่านโลกออนไลน์แทน ซึ่งการมาพบกันของทุกคนนี้ทำให้เกิดเรื่องราวที่เกี่ยวกับดนตรีในแบบของตัวเอง และก็นำฝันด้านดนตรีกลับมาใส่ในหัวใจของทุกคนอีกครั้ง
ตัวหนังแทบไม่มีเพลงหลักในเรื่องเลยนอกจากตอนจบ เพราะนี่เป็นเรื่องของคนที่พึ่งเริ่มสนใจดนตรี โดยเป็นเรื่องราวพื้นๆ อย่างการหัดแต่งเนื้อเพลง การจับคอร์ดกีตาร์ ซึ่งออกมาสั้นๆ และก็โปรโมท GarageBand ซอฟแวร์ดนตรีของแอปเปิลไปในเรื่องพร้อมกัน โดยเป็นลูกชายที่มีความสนใจด้านนี้ แต่แม่เขากลับไม่รู้มาก่อน และก็นำ GarageBand มาสอนแม่เขาใช้งาน เพื่อรวมกันทำดนตรีแบบที่ตั้งใจขึ้นมา ซึ่งแม้จะเป็นการโปรโมทตรง แต่ก็เข้ากันกับเรื่องได้เป็นอย่างดี ทำให้เห็นว่าคนที่ไม่เคยเรียนดนตรีมาก่อนไม่ว่ารุ่นไหนก็สามารถใช้โปรแกรมนี้ได้เช่นกัน ซึ่งหนังเน้นเนื้อหาดนตรีสั้นๆ แบบนี้เข้ากับเรื่องราวมากกว่าจะมีเพลงเต็มๆ แบบแนวนี้โดยปกติ ดังนั้นผู้ชมที่หวังเพลงเพราะๆ ติดหูเลยคงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ครับ (เพลงเพราะๆ ก็มาจากเพลงดังที่มีอยู่แล้ว เป็นการฟังแทรกมาในเรื่องเท่านั้น)
และที่ไม่ลืมเลยคือหนังยังมีเรื่องราวความรักแทรกอยู่เช่นเดิม แต่เป็นแบบความสัมพันธ์ห่างๆ นางเอกกับสามีที่แยกกันอยู่แต่ก็มีหึงหวงกันอยู่บ้าง หรือกับเจฟฟ์ครูสอนกีตาร์ออนไลน์ที่เธอพยายามจีบเขาสุดๆ ซึ่งแม้เรื่องจะบอกชัดว่าเธอชอบเขามาก และความรักทางไกล (ไอซ์แลนด์กับ LA) ของทั้งคู่ก็ดูหวาน มีฉากโรแมนติกที่ใช้ได้อยู่ แต่หนังก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องไปจนเกินกลายเป็นหนังรักตรงๆ แต่อย่างใด และก็ยังใช้ความสัมพันธ์ทางไกลผ่านจอมาให้เกิดลูกเล่นการเล่าเรื่องที่เสมือนเขาได้มาอยู่ตรงหน้ากับเธอ ซึ่งไอเดียนี้ถูกนำมาใช้หลายครั้งและก็ดูทันสมัยมากในแนวหนังดนตรีที่เคยมีมา รวมถึงความรักของลูกชายกับสาวในละแวกบ้านที่แม่พยายามยุให้ลูกทำมิวสิควิดีโอถ่ายกันเองส่งไปชนะใจเธอดูก็เช่นกัน มันเป็นไอเดียพื้นๆ ที่เข้ากันได้กับยุคสมัยนี้โดยตรง
สรุปเป็นหนังแนวดนตรีจาก John Carney ที่แฟนผลงานของเขาควรรับชม เพราะเป็นแนวการเล่าเรื่องดนตรีแบบใหม่ ไม่ซ้ำกับหนังเรื่องไหนในแนวนี้เลย เป็นเบสิคดนตรีแบบพื้นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่เข้ามาร่วมด้วยอย่างกลมกลืน และก็ออกมาดี โดยไม่ทิ้งเรื่องราวความรักกับความสัมพันธ์เล็กๆ ตามสไตล์ของผู้กำกับไป แต่ถ้าไม่ใช่แฟนผลงานของ John Carney นี่ไม่ใช่หนังดนตรีที่ตอบโจทย์เรื่องเพลงเพราะๆ ได้เลย เพราะเพลงใหม่น้อยมาก เนื่องจากเป็นเรื่องราวของนักดนตรีฝึกหัดแม่ลูกเท่านั้นครับ