รีวิว Forever Rich (Netflix) บทเรียนเกรียนออนไลน์พังชีวิตคนดัง

Forever Rich หนัง Netflix จากเนเธอร์แลนด์ ที่เล่าเรื่องราวของแร็ปเปอร์ที่กำลังจะโด่งดัง แต่กลับต้องมาเจอความพินาศย่อยยับจากการกระทำห่ามๆ ในคืนเดียว

ตัวอย่าง Forever Rich

หนังนอกกระแสทุนต่ำที่ดูอินดี้ๆ กับพล็อตเรื่องราวของ ริชชี่ แร็ปเปอร์คนดังที่กำลังไต่เต้าสู่ความสำเร็จได้เซ็นสัญญาทำอัลบัมกับค่ายโซนี่มิวสิคในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ของเขาไปด้วย ทั้งครอบครัวเพื่อนฝูงก็แฮปปี้ยินดีกับความสำเร็จที่เขาเองก็ฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆ จะเป็นคนดัง แต่ในคืนนั้นเองเขากลับถูกแก๊งเด็กวัยรุ่นในย่านชุมชนอันตราย 1112 ที่เป็นถิ่นบ้านเกิดของเขาเอวด้วยมาดักปล้นขำๆ เอานาฬิกากับโทรศัพท์มือไป โดยแก๊งเด็กพวกนี้ได้ถ่ายคลิปช่วงที่เขาถูกปล้นจนร้องไห้ลงโซเชียลเพื่อเหยียดหยามจนกลายเป็นไวรัลดังสนั่น คนในโลกโซเชียลรวมถึงแฟนๆ ผลงานของเขาต่างคิดว่าริชชี่ตัวจริงไม่ได้ห้าวเป้งแบบเนื้อเพลงที่ร้องออกมา ทำให้เขาเองทนไม่ได้จนต้องขอไปเอาคืนกับเด็กเปรตพวกนี้โดยตรง แต่นั่นกลับกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตของเขาไปทันที

นี่เป็นหนัง Netflix ที่ไม่ได้คาดหวังก่อนดูเลย แถมยังคิดว่าอาจจะงั้นๆ ตามสไตล์หนังนอกกระแส แต่พอได้ดูกลับกลายเป็นใช้ได้ดีกว่าที่คิด ด้วยเรื่องราวห่ามๆ แบบไม่มีอะไรมาก พระเอกตามเอาคืนไอ้แก๊งเด็กเปรตแบบเอาคืนให้เจ็บๆ แต่เด็กพวกนี้กลับไม่ใช่ง่ายๆ มันโต้กลับพระเอกแบบแสบๆ ได้ทันกัน ซึ่งเรื่องราวเป็นการตามล่าเด็กพวกนี้ในคืนเดียว ที่พระเอกจากที่แค่รู้สึกเสียหน้าที่โดนเยาะเย้ยแล้วต้องการโชว์เก๋าจะเอาคืนบ้างเท่านั้น กลายมาเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีคนตามติดรอดูเหตุการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างเอาคืนแล้วถ่ายคลิปโพสต์ภาพโชว์ลงโซเชียลแบบเกรียนๆ เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวคลิปลับโชว์จู๋ จนกลายเป็นไวรัลดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ที่คนดูเองก็คงมันส์แบบติดฮาไปกับความเกรียนของสองฝ่ายได้เหมือนกัน ก่อนที่จะไต่ระดับความรุนแรงไปเป็นการทำร้ายร่างกายจริงจังจนเลยเถิดไปมาก

แต่สิ่งที่หนังต้องการสื่อมาขายจริงๆ ไม่ใช่ความเกรียนของเหตุการณ์ในเรื่อง กลับเป็นบทเรียนสอนใจสะท้อนสังคมเรื่องการเสพติดโลกออนไลน์ ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าคนรอบตัวที่รู้จักใกล้ชิด ในเรื่องริชชี่เองตอนแรกจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่เพียบพร้อมไปด้วยเพื่อนฝูงกับครอบครัวที่นับว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว จากเด็กย่าน 1112 ชุมชนแออัดที่ไร้อนาคตกลับมาเป็นคนดังได้ และถ่ายทอดเรื่องราวการไต่เต้าสู่ความเร็จมาเป็นบทเพลงหวังให้เด็กคนอื่นได้ตามรอยเขา ซึ่งมันก็ดูดีสวยงามไปหมด พระเอกดูนิสัยดี ติดอย่างเดียวคือการหลงไหลไปกับความสำเร็จมากไป จนเรียกว่าหลงตัวเองก็ว่าได้ ซึ่งพอเขาถูกปล้นหักหน้าในเวลาต่อมา การเสียนาฬิกาไปเรือนเดียวที่ตอนแรกเขาก็แค่ไปแจ้งความ แต่กลายเป็นโลกโซเชียลยั่วยุว่าเขาหงิมๆ ไม่เหมือนกับเพลงร้องแบบนักเลงๆ ที่แสดงเหมือนว่าเป็นตัวตนของเขา นั่นทำให้เขายอมไม่ได้ ซึ่งพอใครห้ามทีนี้ก็ไม่ฟัง หนังทำให้เห็นเลยว่าจริงๆ ริชชี่เองหยุดและออกจากเรื่องนี้ได้ทุกเวลา แต่เขากลับโดนโลกโซเชียลปั่นหัวจนกลายเป็นอีกคน ซึ่งสุดท้ายตามมาด้วยหายนะในชีวิตแบบพังหมดจริงๆ แต่หนังก็มีปัญหากับตอนจบที่ตั้งใจหาทางออกให้ตัวเอกง่ายเกินไป จนทำให้สิ่งที่ปูมาให้คนตระหนักเหมือนแค่ฝันไป จากร้ายสุดๆ กลับมาดีดังเดิม ซึ่งเป็นตอนจบแบบที่ไม่ควรจะเป็นเลยดีกว่า แม้อาจจะแค่อยากให้บทเรียนกับตัวเอกก็ตาม (หรืออีกมุมคือสะท้อนเสียดสีสังคมออนไลน์ที่นิยมความรุนแรงด้วย)

ตัวนักแสดงหลักของเรื่องแสดงได้ดีเลย มีการเปลี่ยนผ่านจากบุคลิกหนุ่มหงิมๆ ไปเป็นคนอันตรายได้ดี ซึ่งเขาเป็นตัวหลักของเรื่องที่โผล่มาทุกฉาก เนื่องจากตัวละครในเรื่องมีจำกัดจากทุน ก็เลยมีแค่เพื่อนพระเอกที่มีบทบาทตามติดไปด้วยกันเกือบทั้งเรื่องอีกคน กับแฟนสาวที่มีลูกชายแบเบาะอีกคนที่ต้องมาทะเลาะกับสามีด้วยเรื่องงี่เง่าเกรียนๆ

นี่เป็นหนังที่อาจจะไม่ถึงกับดีหรือว้าวอะไรมาก แต่ก็ยังดูสนุกเพลินๆ แบบไม่คิดมากได้โอเคเลย อย่างน้อยสิ่งที่หนังนำเสนอก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ มีความแปลกใหม่ในตัวเนื้อเรื่องพอสมควร เปิดดูได้ไม่เสียหายอะไรนักครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่