playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Furies หนังแอ็กชั่นจากเวียดนามที่ดันเหมือนหนังฮ่องกงมากกว่า

Furies

Summary

หนังภาคต้นของ Furie ที่นักแสดงนำเวียดนามในเรื่องนั้นได้หันมากำกับเขียนบทเองในภาคนี้แทนผู้กำกับคนเดิมที่ทำไว้ค่อนข้างดีพอตัว การมาทำต่อทำให้ตัวเนื้อเรื่อง ฉากแอ็กชั่น ที่ดูเข้มข้นในภาคก่อนดรอปลงมาก บางฉากดูปลอมมากเพราะไม่มีงบสร้างกับสตันท์ คิวบู๊ก็ธรรมดามากออกแนวหนังมาเฟียฮ่องกงตีกันมากกว่าเน้นท่าสวยๆ ตัวร้ายก็ง่อยๆ แทบทุกตัว ยกเว้นฉากบอสใหญ่ที่มีการครีเอทท่วงท่าต่อสู้กับยิงปืนในระยะประชิดที่ดูดีที่สุดในเรื่อง แต่ทั้งนี้ถ้าใครขอแค่ดูหนังแอ็กชั่นล้างแค้นก็ยังพอจะดูกล้อมแกล้มมันส์ได้นิดๆ อยู่บ้างครับ แต่แนะนำว่าลองดู Furie ภาคก่อนนี้เลยจะสนุกกว่า

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • หนังภาคต้นของ Furie จากปี 2019
  • กำกับและเขียนบทโดย  Veronica Ngô นักแสดงตัวเอกภาคก่อน
  • เน้นฉากแอ็กชั่นฆ่าฟันแบบหนังฮ่องกง

Cons

  • เนื้อเรื่องเดาง่ายเป็นไปตามสูตร
  • คิวบู๊ธรรมดาไม่มีอะไรแปลกใหม่
  • ใช้ CG มาช่วยหลายครั้ง บางฉากดูปลอมมาก
  • ตัวร้ายง่อยๆ

ADBRO

Furies ผู้หญิงแค้นดับนรก หนังแอ็กชั่น Original Netflix จากเวียดนาม เรื่องราวของ บี เด็กสาวที่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แม่ที่มาช่วยปกป้องถูกฆ่า เธอจึงลงมือฆ่าเขาก่อนหนีไปตายเอาดาบหน้า จนได้มาพบกับหญิงสาวลึกลับที่ชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบ และชวนเธอมาร่วมเป็นทีมผู้หญิงทำลายแก๊งค้ายาเสพติดและค้าประเวณี
Furies (2023) on IMDb

 

รีวิว Furies ผู้หญิงแค้นดับนรก

หนังภาคต้นหรือพรีเควลของ Furie ปี 2019 ชื่อไทย ไฟแค้นดับนรก ของเน็ตฟลิกซ์ทำเอง กำกับโดย Le-Van Kiet ผู้กำกับชาวเวียดนาม นำแสดงโดย Veronica Ngô ลูกครึ่งเวียดนามนอร์เวย์ มาเล่นเป็น B หญิงสาวที่มีประวัติลึกลับ สถานะแม่เลี้ยงเดี่ยวรับจ้างทวงหนี้ไปวันๆ ซึ่งตัวหนังได้รับคำชื่นชมพอสมควรจากความกล้าฉีกแนวนำเสนอหนังแอ็กชั่นขัดจ้านของนักแสดงหญิงที่เล่นคิวบู๊ต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียว 

แต่มาในภาคนี้ผู้กำกับคนเดิมไม่ได้กลับมาทำ แต่เป็น Veronica Ngô มารับหน้าที่กำกับ เขียนบท แต่ไม่ได้นำแสดงเองเพราะเนื้อเรื่องย้อนวัยไปช่วงยุค 90 ชองไซง่อน สมัยที่ B ยังเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แม่ถูกฆ่า จึงฆ่าพ่อเลี้ยงแล้วหนีออกมา ก่อนมาเจอกับหญิงสาวลึกลับที่ฝึกเธอให้กลายเป็นนักฆ่าร่วมทีมอีก 2 คนที่มีพื้นเพถูกผู้ชายทำร้ายมาเช่นกัน แล้วก็ตั้งเป้าล้างแค้นกวาดล้างอาชญากรรมที่ทำกับผู้หญิงโดยเฉพาะ 

ตัวหนังมีเนื้อเรื่องง่ายๆ ตามสูตรทั่วไป นางเอกถูกฝึกหนัก มีเพื่อนร่วมทีมที่เกลียดขี้หน้า ต่อมาก็เข้ากันได้ และเริ่มทำภารกิจทลายแก๊งเหล่านี้ ก่อนจะมีจุดหักมุมนิดๆ ด้วยเรื่องราวการทรยศหักหลัง ซึ่งผู้ชมก็น่าจะเดาได้อยู่แล้ว

จุดเด่นของแนวนี้แน่นอนว่าคือการขายฉากแอ็กชั่นมาเชียลอาร์ท แต่ในเรื่องดันไม่มีการบอกไว้เลยว่าตัวนางเอกกับทีมฝึกอะไรมาบ้าง ดูแล้วก็คล้ายๆ หนังฮ่องกงมากกว่า เพราะเน้นฉากต่อยตีหยิบของรอบตัวมาสู้กันด้วยท่วงท่าแบบกังฟู ไม่ได้เป็นแบบมวยไทยเหมือนองค์ยบาก ท่าทางต่างๆ คิวบู๊ในเรื่องไม่ได้สวยหรือมีการครีเอทอะไรใหม่สักอย่าง บางฉากยังดูปลอมมากอย่างฉากขี่มอเตอร์ไซค์หนีพวกแก๊งไล่ล่าตามมาที่ถ่ายกันในสตูดิโอ ให้คนขับโยกไปมาต่อยตีคนร้าย แล้วก็เอาฉากมาซ้อนให้เหมือนขี่จริงแบบปลอมมาก เข้าใจว่าคงติดเรื่องการหาสตันท์กับงบถ่ายทำที่ไม่มากพอจะทำฉากแบบนี้ได้

ตัวหนังยังมีฉากใช้ปืนที่ดูยังไงก็ได้รับอิทธิพลมาจากจอห์นวิค เพราะเป็นการยิงแบบเน้นเท่มากกว่าเป็นฉากยิงต่อสู้จริงๆ ซึ่งฉากนี้ไปอยู่ตอนท้ายเรื่องที่บีถล่มรังผู้ร้ายแล้วก็เอาปืนมาใช้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยหยิบมาใช้เลย โดยมีฉากดวลปืนระยะประชิดกับบอสใหญ่ แบบเตะต่อยไปแย่งปืนกระบอกเดียวยิงกันในระยะประชิด พร้อมกับมุมกล้องที่หมุนวนไปรอบตัวตอนสู้ ซึ่งก็ถือว่าโอเคอยู่กับฉากนี้ที่มีการครีเอทอะไรใหม่ขึ้นมานิดๆ แต่มันก็ยังติดเว่อร์มากมายจากกระสุนที่ยิงเหมือนอินฟินิตี้หลายนัดเกินจริงมาก ไม่รู้ไปใส่กระสุนกันตอนไหนไม่เห็น 

ตัวหนังเล่าถึงวาระสุดท้าย B หลังจัดการบอสได้ แล้วก็ตัดเรื่องกลับมา 15 ปีต่อมา ซึ่งก็กลายมาเป็นนักแสดง Veronica Ngô เล่นต่อพร้อมกับปิดจบเรื่อง แบบคาดว่าถ้ากระแสดีน่าจะเอามาทำต่อเป็นแฟรนไชนส์ลงเน็ตฟลิกซ์ได้ยาวๆ แน่นอนครับ (แต่ตอนนี้เธอก็อายุ 44 ปีแล้ว)

 

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!