playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Gannibal Disney+ หมู่บ้านกินคนที่เดือดระทึกขวัญกันทุกตอน (ไม่สปอยล์)

Gannibal

Summary

ซีรีส์ญี่ปุ่นที่สร้างจากมังงะแล้วทำออกมาได้ดี ดูเป็นสากลอินเตอร์ให้โลกดู ไม่ติดโอเวอร์แอ็กติ้งมากให้น่ารำคาญ พล็อตหมู่บ้านกินคนอาจจะดูไม่ใหม่ แต่ตัวเรื่องเจาะลึกลงไปมีเหตุมีผลรองรับการกระทำต่างๆ ของทุกตัวละครได้ดี รวมถึงสาเหตุของการกินคนที่มีการอธิบายแบบอ้างอิงประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ชีววิทยา มาประกอบบางส่วนให้เราเชื่อตามได้ และแอบติดเหนือธรรมชาติไว้นิดๆ ด้วย และตัวเอกของเรื่องที่เป็นตำรวจที่มีความผิดปกติทางจิตมาสืบสวนคดีประหลาดแบบบุ่มบ่ามลุยเอาดาบหน้า ยิ่งทำให้ตัวเรื่องมีฉากเดือดได้ทุกตอน มีฉากแอ็กชั่นเล่นใหญ่ให้คนดูซี๊ดได้เลย แต่ฉากสยองทั้งหลายอาจจะไม่แหวะหรือโหดมากมายเพราะเรื่องนี้ถูกทำออกมาที่เรต 15+ เท่านั้น ตัวเรื่องจบที่ 7 ตอนซีซั่นแรกและยังค้างคาไว้อีกยาวตามมังงะต้นฉบับ แต่ก็น่าจะได้ทำต่อจนจบ ใครที่ชอบซีรีส์รสชาติแปลกระทึกขวัญ ยิ่งจากญี่ปุ่นที่หลังๆ ไม่ค่อยมีเรื่องไหนเด่นๆ มาให้ดู งานนี้ยิ่งต้องไม่พลาดเลยครับ

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • สืบสวนเรื่องราวหมู่บ้านกินคน
  • อารมณ์น่ากลัวแบบอึมครึม
  • ตัวเอกมีปัญหาทางจิต
  • มีฉากเดือดๆ ทุกตอน
  • ภาพสวย

Cons

  • บางจุดมีอารมณ์เว่อร์ๆ ไม่เนียนตามสไตล์ญี่ปุ่นอยู่บ้าง
  • ยังไม่มีพากย์ไทย

ADBRO

Gannibal (2022) on IMDb

รีวิว Gannibal (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์ 7 ตอนจบซีซั่น 1 ดัดแปลงจากมังงะที่มีทั้งหมด 13 เล่ม 120 ตอน ในไทยยังไมมีลิขสิทธิ์ ซึ่งเท่าที่ลองดูเทียบกันก็ทำเนื้อเรื่องค่อนข้างตรงตามมังงะเลย ส่วนเรื่องกินคนที่ว่าเป็นจุดขาย เอาจริงๆ คนอ่านมังงะญี่ปุ่นหรือพวกอนิเมะสืบสวนเรื่องประหลาดต่างๆ ก็คงไม่ได้ว้าวกับพล็อตนี้มาก เพราะตัวผลงานญี่ปุ่นเองก็มีแนวนี้บ่อยแล้ว โดยปกติก็คือเป็นหมู่บ้านห่างไกล มีพิธีกรรมประหลาดๆ ซ่อนอยู่ที่คนนอกหลงเข้ามารู้ก็ซวยได้ เรียกว่าเป็นสูตรสำเร็จปกติของญี่ปุ่นเขาเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่เรื่องนี้โดดเด่นแตกต่างออกไปคือ การลงรายละเอียดความลึกของตัวละครในเรื่องให้มีมูลเหตุแรงจูงใจการกระทำต่างๆ ได้ดีสมเหตุผลมากในเซ็ตติ้งโลกยุคปัจจุบัน

คือในยุคนี้ที่โลกไปไกลแล้ว มีมือถือ มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึงทุกที่ การที่ตัวเรื่องยังมาเล่นพล็อตหมู่บ้านลับแลมีพิธีกรรมประหลาดอะไรแบบนี้มันก็ดูไม่สมเหตุผลไปหน่อย ตัวเรื่องจึงพยายามลงลึกใส่เหตุและผลของตัวละครต่างๆ ในเรื่องแบบค่อยๆ คลายปมให้เราเข้าใจความเป็นมา ตั้งแต่ฝ่ายตระกูลโกโตว่าทำไมถึงกินคน ทำไมถึงมีอิทธิพลมากมาย โดยมีอ้างอิงประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ชีววิทยา มาประกอบบางส่วนให้เราจินตนาการตามได้ และก็แอบติดเหนือธรรมชาติไว้นิดๆ ที่ยังไม่ได้เฉลยในซีซั่นแรกด้วย ฝ่ายคนในหมู่บ้านที่มีความลับทับซ้อนกับตระกูลโกโต แบบที่เฉลยพฤติกรรมออกมานี่น่ากลัวกว่าพวกกินคนซะอีก 

แต่จุดที่เด่นสุดของเรื่องคือตัวเอก อางาวะ ไดโก ที่ตัวเรื่องค่อยๆ เผยความลับของเขาที่มีปมปัญหาการควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เป็นปัญหาทางจิตเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในอดีตก่อนย้ายมาประจำที่นี่ ซึ่งแรกๆ ผู้ชมอาจจะรู้สึกถึงความโอเวอร์แอ็กติ้งกับนักแสดงอยู่บ้าง แต่พอเรื่องราวถูกเฉลยออกมาจุดนี้ก็จะสลายไปเอง ซึ่งการสร้างตัวเอกที่มีปัญหาทางจิตมาสืบสวนหมู่บ้านประหลาดเป็นอะไรที่แปลกแตกต่าง แล้วทำให้การกระทำของตัวเอกในเรื่องมีจุดพลิกคาดเดาไม่ได้หลายครั้งว่าเขาจะเอาตัวรอดจากการกระทำบุ่มบ่ามนั้นได้ยังไง 

ตัวเรื่องไม่ใช่แค่แนวสืบสวน แต่ยังมีฉากแอ็กชั่นหนักๆ ให้คนได้ดูเป็นระยะ อย่างการต่อสู้ของตัวพระเอกกับแก๊งหัวรุนแรงโกโต หรือฉากยิงถล่มอย่างหนักในตอน 3 ที่เดือดสุดๆ แบบที่คนดูคาดไม่ถึงเลยว่าซีรีส์แนวนี้จะมีฉากแบบนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้เหมือนเป็นทิศทางใหม่ของการทำซีรีส์ญี่ปุ่นให้สากลเลยก็ว่าได้ 

ส่วนความน่ากลัว ฉากสยองในเรื่องอาจจะไม่ถึงกับมากมายนัก เพราะตัวเรื่องถูกทำมาในเรต 15+ ลงดิสนีย์ก็เลยต้องมีเบี่ยงๆ กันบ้าง ส่วนใหญ่ความน่ากลัวของเรื่องเป็นแนวอารมณ์ความอึมครึมผีเข้าผีออกของพฤติกรรมตัวละครต่างๆ ที่ไม่น่าไว้ใจสักคน แล้วรุมล้อมตัวเอกและครอบครัวอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีบางฉากที่ทำออกมาชวนแหวะอยู่เหมือนกันอย่างการกินเนื้อสัตว์ป่าดิบๆ หรือฉากตัวละครคนที่โดนกินไปแล้วครับ

นอกจากนั้นตัวนักแสดงในเรื่องยังเล่นได้สมบทบาทมาก ตั้งแต่ลูกสาวตัวน้อยของพระเอกที่ตีบทแตกมากกับเด็กที่มีความผิดปกติทางจิตใจบางอย่างอยู่เหมือนกัน  ภรรยาของพระเอก (เล่นโดย ริโฮ โยชิโอกะ) ที่เหมือนเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลาจากหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องพยายามกลมกลืนเข้ากับคนในหมู่บ้านให้ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติอยู่ที่นี่แน่นอน ผู้นำตระกูลโกโตที่ได้นักแสดงขาประจำในซีรีส์ดังๆ Show Kasamatsu มาเล่น บทนี้ดูหน้าตาท่าทางเหมือนนักเลงตามสไตล์คาแรกเตอร์ประจำของดาราคนนี้ (ชอบได้บทยากูซ่า)  แต่ตัวบทมีความลึกกว่านั้น ในความรู้สึกบางทีก็เป็นมิตร บางทีก็น่ากลัวคาดเดาไม่ได้ มีเหตุผลบางอย่างซุกซ่อนอยู่ที่ในซีซั่นแรกนี้จะเฉลยออกมาให้เราได้เข้าใจ

 

ตัวเรื่องจบแบบค้างคาจริง แต่ก็น่าจะได้ทำต่อจนจบ ใครที่ชอบซีรีส์รสชาติแปลกระทึกขวัญ ยิ่งจากญี่ปุ่นที่หลังๆ ไม่ค่อยมีเรื่องไหนเด่นๆ มาให้ดู งานนี้ยิ่งต้องไม่พลาดเลยครับ

 

ติดตามอ่านรีวิวเรื่องอื่นในดิสนีย์+ ได้ที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!