รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Golden Kamuy (Netflix) งาน Live Action ที่พยายามยึดตามมังงะเป๊ะๆ จนดูเบียวมากไป

Golden Kamuy

Summary

หนัง Live Action จากมังงะดังที่ Netflix ซื้อมาเป็นของตัวเอง แล้วก็ถอดแบบต้นฉบับตัวละครออกมาได้เหมือนเป๊ะ เนื้อเรื่องก็อิงกับการเล่าถึงวิถีชีวิตของชาวไอนุผสมกับฉากแอ็กชั่นที่เป็นรองลงไป (มีไม่เยอะและก็ดูธรรมดา) ซึ่งผู้ชมที่อ่านมังงะมาก่อนก็น่าจะถูกใจ แต่ผู้ชมทั่วไปก็อาจจะเฉยๆ หรือดูตลกกับความพยายามนำเสนออะไรแปลกๆ หลายอย่างของเรื่องนี้ที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแล้วดูเบียวมากครับ แล้วเรื่องก็ค้างคาไว้ไม่จบต้องรอดูต่ออีกหลายภาคด้วยครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • หนัง Live Action จากมังงะดัง
  • ถอดแบบมังงะมาแบบเป๊ะๆ
  • นำเสนอวิถีชีวิตของชาวไอนุ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • บทยังธรรมดาไม่เข้มข้น
  • ฉากแอ็กชั่นธรรมดา มีไม่เยอะด้วย
  • ความพยายามยึดตามมังงะจนออกมาตลก
  • ตัวร้ายดูตลกมากกว่าน่ากลัว

 

ADBRO

Golden Kamuy โกลเดนคามุย หนังจากโรงฉายในญี่ปุ่นเมื่อมกราคม 2024 แล้ว Netflix ซื้อมาลงในระบบกับแปะหน้าเป็น Original Netflix ซึ่งอาจจะทำให้ใครเข้าใจผิดว่า Netflix สร้าง Live Action อีกแล้ว แต่ทั้งนี้ก็น่าจะเป็นการช่วยสานต่อเรื่องนี้ให้ทำได้ยาวๆ จากทุน Netflix นี่แหละครับ เพราะว่านี่เป็นหนังที่น่าจะยาวหลายภาคกว่าจะจบ ถ้าไม่โดนตัดออก เพราะต้นฉบับมังงะก็มีถึง 31 เล่มจบ ซึ่งที่จริงน่าควรทำเป็นซีรีส์ด้วยซ้ำแบบหลายๆ เรื่องในมือของ Netflix 

 

รีวิว Golden Kamuy โกลเดนคามุย Netflix

แจ้งก่อนว่าผู้เขียนเองไม่ได้เป็นคนอ่านเรื่องนี้มาก่อน และตอนที่ดูก็ยังไม่ได้รู้ว่าเป็นมังงะมาก่อนด้วย มารู้เรื่องโดยละเอียดก็ตอนดูจบแล้วหาข้อมูล ถึงรู้ว่าเรื่องนี้ไปไกลถึงประวัติศาสตร์การเมืองรัสเซียเลย ซึ่งมันลึกเกินกว่าเนื้อเรื่องที่หนังยังนำเสนอไปไม่ถึงและผู้ชมที่ไม่ได้รู้จักเรื่องนี้มาก่อนก็คงไม่คาดคิดว่ามันจะไปไกลได้ขนาดนั้นเหมือนกัน รีวิวนี้จึงไม่ได้นำไปเทียบกับต้นฉบับแต่อย่างใดนะครับ 

เนื้อเรื่องนำเสนอทหารผ่านศึกญี่ปุ่นจากสงครามที่รบกับรัสเซีย ชื่อ “ไซจิ สุกิโมโตะ”(แสดงโดย Kento Yamazaki) โดยได้ฉายาว่าคนอมตะ เพราะร่างกายเขาสามารถฟื้นฟูบาดแผลได้ไวกว่าคนปกติ แต่ก็ไม่ใช่อมตะแบบฆ่าไม่ตาย เขาได้มาเจอกับหญิงสาวชาวไอนุ “อาชิริปะ” (แสดงโดย Anna Yamada) ทั้งคู่มาพบเจอกันโดยบังเอิญและร่วมกันตามหาลายแทงทองคำมหาศาลของชาวไอนุที่อยู่แผ่นหลังของนักโทษหลบหนีคดีกว่า 25 คน ซึ่งก็ทำให้เขาได้พบกับการผจญภัยที่มีศัตรูหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในเรื่องนี้มีการแนะนำไว้คร่าวๆ อย่าง กลุ่มชินเซ็นกุมิกบฏซามูไรสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่ กลุ่มร้อยโทสึรุมิ แห่งกองพลที่ 7 ที่เป็นตัวร้ายหลักของเรื่องในภาคนี้ 

หนังเรื่องนี้แม้จะดูฉาบหน้าเป็นหนังแอ็กชั่น แต่จริงๆ เนื้อหาส่วนใหญ่นำเสนอวิถีชีวิตของชาวไอนุมากกว่า โดยเรื่องเน้นให้นางเอก “อาชิริปะ” ถ่ายทอดวิถีชีวิตการเอาตัวรอดของไอนุให้สุกิโมโตะได้เห็น อย่างการล่าหมีด้วยธนูอาบยาพิษต้องทำยังไง การทำอาหารของชาวไอนุโดยใช้กระรอกที่ต้องสับให้เป็นชิ้นละเอียด หนังแทบจะนำเสนอเหมือนเป็นแนวทำอาหารไปเลย โดยมีเครื่องปรุงมิโซะของพระเอกมาเป็นตัวยิงมุกตลอดเวลาเพราะชาวไอนุไม่มีสิ่งนี้ และมองว่ามันคืออุจจาระ ซึ่งมุกนี้ในเรื่องก็ใช้หลายครั้งว่านางเอกกินไม่ลง จนกระทั่งถึงฉากเอนด์เครดิตก็ยังมีฉากทำอาหารนี้อยู่เช่นกัน นอกจากนี้แล้วก็ยังมีพวกความเชื่ออย่างการมุดเข้าโพรงหมี หมีจะไม่ทำร้ายคนในโพรง แล้วก็ฉากหมู่บ้านไอนุ นำเสนอวัฒนธรรมเก่าแก่กันแบบจริงจังมากเลย ซึ่งผู้เขียนเองก็ข้องใจตอนดูว่าทำไมมันเยอะแบบนี้ จนมาอ่านรายละเอียดภายหลังถึงรู้ว่านี่เป็นจุดเด่นของเรื่องนี้ตั้งแต่มังงะ อย่างที่คนล้อกันว่ามันคือการ์ตูนทำอาหารไอนุที่มีฉากแอ็กชั่นประกอบมากกว่า ซึ่งก็จริงตามนั้น 100% เลย ซึ่งถ้าใครไม่ได้ชอบแนวการเล่าเรื่องชีวิตวัฒนธรรมแบบนี้ก็จะไม่สนุกหรือเฟลทันที

แต่ถึงหนังจะเน้นเรื่องของชาวไอนุและนางเอกหน้าตาน่ารักเป็นหลัก แต่ส่วนของฉากแอ็กชั่นเรื่องก็ยังมีให้พอสมควร โดยเป็นการต่อสู้ของสุกิโมโตะที่ต้องไล่ล่าแผนที่จากนักโทษแล้วก็ไปเจอศัตรูต่างๆ มีฉากรบของเขาในตอนแรกที่เจอกับรัสเซีย การต่อสู้กับหมีที่มีนางเอกมาช่วย ฉากหนีการไล่ล่าของกองพลที่ 7 ที่รู้จักชื่อเสียงของเขาดีและต้องการเขามาร่วมงานด้วย แต่ฉากต่อสู้ในเรื่องนี้ตัวพระเอกจะไม่ฆ่าใครเพราะได้ให้สัญญาไว้กับนางเอกเป็นเงื่อนไขร่วมทาง นอกจากฉากเปิดเรื่องแล้วที่เหลือก็เป็นฉากแอ็กชั่นต่อสู้ที่ไม่ใช่คิวบู๊สวยๆ พระเอกใช้ปืน มียิง มีเลือด แต่ไม่ดุเดือด ออกแนวโอเว่อร์แอ็กติ้งญี่ปุ่นมากกว่า ซึ่งก็ไม่เวิร์คเท่าไหร่ถ้าเทียบกับแนวการต่อสู้ย้อนยุคดีๆ อย่าง ซามูไรพเนจรเคนชิน ที่เป็นต้นแบบให้ทุกเรื่องของญี่ปุ่นหลังจากนั้นมาเลย

สิ่งที่ดูแล้วรู้สึกตลกแปลกๆ คือตัวละครฝ่ายตัวร้ายที่ต้องแต่งตัวแบบมังงะเป๊ะๆ มีฝาครอบที่หน้าผาก มีก้อนสี่เหลี่ยมปูดกลางหน้าผาก ซึ่งหนังไม่มีการดัดแปลงอะไรเลยผู้ชมที่ไม่ได้อ่านมังงะมาก่อนก็คงรู้สึกแปลกๆ เช่นกันกับคาแรกเตอร์ดีไซน์ที่หลุดโลกออกไปแบบนี้ หรือแม้แต่ฉากพระเอกโดนไม้จิ้มลูกชิ้นจิ้มทะลุปากก็คาไว้แบบนั้นยาวๆ เหมือนตั้งใจให้ดูเท่ แต่มันกลับดูแล้วตลกๆ ว่าจะจงใจแช่ไว้ทำไม แต่ผู้อ่านมังงะก็น่าจะพอใจที่หนังคงยึดมังงะไว้ไม่ตกหล่นขนาดนี้ครับ

 

หนังยังใช้ CG มาช่วยทำฉากต่างๆ ซึ่งก็เป็นพวกหมีในเรื่องที่มีโผล่มา 3 ครั้งใหญ่ๆ แล้วก็มีหมาป่าสีขาวของนางเอก ซึ่ง CG พวกนี้ทำได้เนียนมากๆ อันนี้ต้องชมเลยว่าทำได้ดีจริงๆ ครับ

 

 สิ่งที่ดีมากของเรื่องนี้ก็คือตัวนางเอกที่แสดงโดย Anna Yamada เธอมีคาแรกเตอร์ที่เด่น สวย โดยชุดเครือ่งแต่งกายของไอนุที่แตกต่างจากคนอื่นที่เป็นญี่ปุ่นหมด ส่วนตัวพระเอกในเรื่องดูเชยกับการพยายามพูดประโยคติดปากว่า “ข้าคือ สุกิโมโตะ คนอมตะโว้ย” อยู่ทั้งเรื่อง ซึ่งมันดูเบียวมากจนเกินไปจริงๆ แต่มีตัวนักโทษที่ขโมยซีนด้วยบทตลกจากความสามารถพิเศษที่ปลดล็อกกระดูกลื่นไหลหนีการจับกุมได้ตลอด ซึ่งกลายมาเป็นทีมของตัวเอกในที่สุด ส่วนตัวร้ายร้อยโทสึรุมินี่ดูบทพูดกับท่าทางตั้งใจโรคจิตแบบเบียวๆ จนดูไม่น่ากลัวอะไรเลย 

 

สรุป เป็นหนัง Live Action จากมังงะดังที่ Netflix ซื้อมาเป็นของตัวเอง แล้วก็ถอดแบบต้นฉบับตัวละครออกมาได้เหมือนเป๊ะ เนื้อเรื่องก็อิงกับการเล่าถึงวิถีชีวิตของชาวไอนุผสมกับฉากแอ็กชั่นที่เป็นรองลงไป ซึ่งผู้ชมที่อ่านมังงะมาก่อนก็น่าจะถูกใจ แต่ผู้ชมทั่วไปก็อาจจะเฉยๆ หรือดูตลกกับความพยายามนำเสนออะไรแปลกๆ หลายอย่างของเรื่องนี้ที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแล้วดูเบียวมากครับ

 

 

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่