รีวิว Gyeongseong Creature SS2 (Netflix) ความพยายามแถลากทำต่อจนมีแต่ช่องโหว่ทั้งเรื่อง!

Gyeongseong Creature SS2 สัตว์สยองกยองซอง ซีรีส์เกาหลี Original Netflix  7 ตอน ในกรุงโซลปี 2024 ปริศนาที่ยังไม่กระจ่างเผยเงื่อนงำอีกครั้ง เมื่อแชอ๊กบังเอิญพบกับโฮแจ ชายผู้ละม้ายคล้ายคลึงกับแทซังอย่างน่ากลัว โชคชะตาที่รอคอยอยู่จะพลิกผันไปเช่นไร

รีวิว  Gyeongseong Creature SS1

รีวิว Gyeongseong Creature ซีรีส์สัตว์ประหลาดเกาหลีที่ลงลึกถึงความโหดร้ายเกินมนุษย์ของญี่ปุ่น!

รีวิว  Gyeongseong Creature SS2 (มีสปอยล์คร่าวๆ)

ซีรีส์ที่พยายามทำต่อ (หรือแถ) ตั้งตอนจบภาคแรกแล้วว่าตัวเอกทั้งคู่จากยุคปี 1945 หลังญี่ปุ่นแพ้สงครามและถอนทหารกลับไปได้มาปรากฏตัวในยุคปัจจุบันในสภาพปกติไม่แก่ลงเลย ซึ่งในกรณีตัวนางเอกมีการทิ้งเชื้อไว้แล้วว่าปรสิตนาจินจากแม่ได้เข้ามาในร่างเพื่อช่วยลูกสาวของตัวเอง ซึ่งการปูไว้แบบนี้ยังพอทำให้เชื่อได้ แต่ที่เป็นปัญหาคือตัวพระเอกโฮแจกลับมาปรากฏตัวในสภาพเดิมได้ยังไง ซีรีส์ก็เปิดปมนี้ทิ้งไว้จนผู้ชมต้องตั้งทฤษฎีต่างๆ นาๆ อย่างน้ำในแก้วนั่นพระเอกเป็นคนดื่มไปหรือเปล่า หรือนี่เป็นรุ่นลูกหลานที่บังเอิญหน้าคล้ายกัน และอีกสารพัดทฤษฎีที่น่าสนใจ แต่ว่าพอภาคนี้เฉลยเรื่องกลับมีแต่พล็อตโฮลที่แย่กว่าแฟนๆ จิ้นกันเองซะอีกครับ

เรื่องในภาคนี้ผู้สร้างแทบจะไม่ได้ตั้งใจเล่าเรื่องราวจริงๆ สักเท่าไหร่เลยทั้งๆ ที่มีแค่ 7 ตอน แต่ 4 ตอนแรกคือการพยายามยืดการเล่าเรื่องว่าพระเอกกลับมาได้ยังไงในสภาพความจำเสื่อมไป 1 ปี โดยมีแบ็คกราวด์ของนางเอกแทรกสั้นๆว่าเธอพยายามใช้ชีวิตที่มีนาจินอยู่แบบหิวกระหายสมองคน แต่ฉีดยาระงับไว้ได้ (ซึ่งยาอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน) แล้วนางเอกก็บังเอิญมาเจอพระเอกเข้าแล้วตกใจในความหน้าเหมือน แต่ก็ไม่คิดว่าใช่ แต่ด้วยงานตามหาคนหายที่เธอได้รับมาดันเป็นรูปของโฮแจ ทำให้เธอคิดว่าคนๆ นี้เกี่ยวข้องกันแน่ๆ ทำให้เธอพยายามกลับมาพิสูจน์อีกครั้ง ซึ่งทั้ง 4 ตอนนี้คือความพยายามที่จะลากพระเอกกลับมาให้น่าเชื่อถือที่สุด โดยมีฉากในอดีตเป็นตัวเฉลยที่มีท่านหญิงมาเอดะที่ยังคงมีความรักความแค้นกับโฮแจมาเป็นตัวทำให้เขามีชีวิตอมตะจนมาถึงปัจจุบัน ผ่านการปูเรื่องตัวร้ายใหม่ที่กลายเป็นบริษัทผลิตยา แต่แอบทดลองมนุษย์ในชั้นใต้ดินแบบเดิม แค่ฉากที่คุมขังทันสมัยขึ้น ซึ่งพล็อตก็มาในสไตล์อัลเบรลล่าใน Resident Evil เป๊ะๆ แต่แค่ลดสเกลลงมาแคบๆ ไม่ได้เน้นสัตว์ประหลาดมาก แต่โฟกัสไปที่การอธิบายว่าตัวละครเก่าๆ ทั้งฝ่ายพระเอกและตัวร้ายกลับมาได้ยังไง ซึ่งทำให้เรื่องเสียเวลาไปมากเกินความจำเป็นจริงๆ โดยมีฉากโรแมนติกผสมอยู่เล็กๆ พอให้ยังดูเป็นซีรีส์แนวรักเกาหลีอยู่เหมือนเดิม

เอาจริงๆ ผู้เขียนก็พอเชื่อและซื้อพล็อตไอเดียเรื่องใน 4 ตอนแรกนี้ได้อยู่ แต่ว่าปัญหาของเรื่องคือพอเฉลยเรื่องว่าพระเอกกลับมาได้ยังไง บทกลับกลายเป็นจุดชนวนปลดล็อคความเละเทะเพิ่มทวีคูณขึ้นมาทันที เพราะกลายเป็นพระเอกนางเอกเหมือนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังนาจินในตัวแบบควบคุมได้ เรื่องแทบไม่ได้ใช้สมองคิดหาเหตุผลในการคิดวางเรื่องราวดีๆ อีกแล้ว นอกจากยัดฉากสู้เข้ามาเยอะๆ พยายามให้มีฉากโชว์พลัง ซึ่งก็แทบจะซ้ำๆ กันไปหมดเพราะเป็นแค่ฉากต่อสู้เร็วๆ ตัดภาพวูบวาบไปมาซึ่งดูลำบากแทบไม่รู้เรื่องว่าใครทำอะไร ตัวร้ายก็เหมือนนินจากีกี้ที่ถาโถมเข้ามาแบบสมิธเจอนีโอในเดอะเมทริกซ์ ซึ่งกีกี้พวกนี้ก็ไม่ได้มีคุณภาพอะไรเลย แล้วช่วงหลังนี้ก็มีแต่บทที่เต็มไปด้วยพล็อตโฮลรั่วเต็มไปหมด แบบดูไปก็อิหยังวะตลอดเพราะมันไม่เมคเซนส์ทั้งเหตุการณ์ เวลา สถานที่ อย่างทำไมทหารญี่ปุ่นตัวร้ายยังอยู่ในเกาหลีได้ไม่เป็นอาชญากรสงคราม แม้แต่แรงจูงใจตัวร้ายของท่านหญิงมาเอดะก็ยังขัดแย้งกับความเชื่อของตัวเอง อย่างการบอกว่ามนุษย์ที่ยึดติดในเรื่องต่างๆ คือความอ่อนแอ แต่ตัวเองก็ยึดติดโฮแจอยู่ตลอดเวลา และตอนท้ายก็ยังลอกไอเดียฉากจบดาร์คไนท์ที่โจ๊กเกอร์ไม่เชื่อว่าแบทแมนเป็นคนดีจริงแล้วทำการทดสอบให้เลือกช่วยคน 2 ฝั่ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ก็อปมาชัดๆ แบบไม่สนอะไรอีกแล้ว และก็แถมด้วยซีนเคลียร์เหตุการณ์ที่มีแต่ความอิหยังวะซ้ำอีกรอบด้วย

สิ่งใหม่ที่ดีของซีรีส์เรื่องนี้ที่พอชมได้ก็คือ ตัวละครเด็กที่เกิดมาจากนางคณิกาชู้ของสามีท่านหญิงมาเอดะ ซึ่งเรื่องสร้างให้ตัวละครนี้เป็นเหมือนสัตว์ประหลาดตั้งแต่เกิดเพราะแม่ที่โดนทดลองนาจินแล้วถ่ายทอดมายังลูก เขาพยายามเป็นมนุษย์แต่เป็นไม่ได้เพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบไร้หัวใจให้ฆ่าคนได้ตามอำเภอใจ จนกระทั่งมาเจอโฮแจที่ทำให้เขาเริ่มมีความคิดว่าตัวเองสามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้ (แต่ก็มีปัญหาการเล่าเรื่องที่ขาดหายไปว่าเขาไปสนิทกับโฮแจตอนไหนยังไงไม่มีบอกไว้เลย ซึ่งก็เป็นบทที่มีช่องโหว่แหว่งๆ เพิ่มไปอีก) เรื่องสร้างให้ตัวละครนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างสองฝั่ง แล้วก็ดูน่าเห็นใจ แต่ก็น่าสงสัยอยู่ในตัวว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรู และก็พาตัวละครนี้ให้พัฒนาเติบโตเพื่อไปต่อซีซั่น 3 กันต่อไปอีก โดยมีตัวร้ายอีกคนตามไปด้วย แต่แทบไม่มีแบ็คกราวด์ที่เล่าเรื่องเท่าเด็กคนนี้เลย จนดูเหมือนตัวร้ายหน้าตายที่ใส่มาให้เหมือนบอสใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ในภาคนี้เพราะแทบไม่มีฉากสู้เลย

ส่วนใครที่หวังฉากสู้กับสัตว์ประหลาดนี่ต้องผิดหวังแน่นอน เพราะเรื่องเหมือนลดงบประมาณลงมาก ฉากสัตว์ประหลาดแบบภาคแรกเหลือแค่ช่วงท้ายราวๆ ไม่กี่นาทีเท่านั้น นอกจากจะน้อยแล้วยังไม่มีอะไรแปลกใหม่กว่าเดิมด้วย นอกจากพระเอกที่เก่งขึ้นเป็นซูเปอร์ฮีโร่สู้ตรงๆ ได้แล้ว แต่นั่นก็ทำให้อารมณ์แบบภาคแรกที่ต้องหาทางจัดการโดยใช้สิ่งรอบตัวที่มีและหนีกันแทบตายหายไปหมด และพอพระเอกนางเอกไม่มีทางตายได้เพราะมีนาจินอยู่ในตัวเรื่องก็ไม่มีอะไรให้น่าลุ้นอีกต่อไปด้วยครับ

สรุป ภาคต่อที่หาทางพยายามให้พระเอกนางเอกและตัวร้ายกลับมาได้ในโลกปัจจุบัน เรื่องเสียเวลาตรงนี้ไปถึง 4 ตอน โดยมีเหตุผลที่พอถูๆ ไถๆ ก็ยังพอรับได้ แต่ปัญหาคือพล็อตโฮลในเรื่องมีมากมายและถาโถมเข้ามาจนแทบกลายเป็นซีรีส์ที่มีแต่จุดบอดอิหยังวะเต็มไปหมด โดยมีฉากแอ็กชั่นที่แย่ลงเพราะตัวร้ายมีแต่นินจาชุดดำแบบกีกี้ที่ถาโถมมามั่วๆ ตัดภาพวูบวาบไปมาตลอดเวลา ฉากสัตว์ประหลาดภาคนี้ก็เหมือนงบหมดเพราะไปอยู่ตอนท้ายนิดเดียว แล้วก็ไม่มีความแปลกใหม่เลย นอกจากพระเอกนางเอกที่กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่อมตะฆ่าไม่ตายมาสู้ด้วย แต่ก็ทำลายความลุ้นระทึกในภาคแรกไปหมด ซีรีส์ยังพยายามสานต่อทำซีซั่น 3 อีก ซึ่งคงเละเทะแน่นอนเพราะเรื่องกู่ไม่กลับกลายเป็น Resident Evil เต็มตัวแล้วครับ