playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Hijack apple TV+ แนวจี้เครื่องบินที่แปลกใหม่ด้วยตัวเอกสกิลนักเจรจาฝ่าวิกฤตล้วนๆ

Hijack apple TV+

Summary

โดยรวมนี่คือซีรีส์จี้เครื่องบินที่ทำออกมาได้แตกต่าง แม้จะไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นใดๆ เนื่องจากตัวเอกเป็นนักเจรจา แต่ความกดดันที่เรื่องราวพลิกผันกันได้แค่คำพูดก็ทำให้เรื่องราวตรึงเครียดมากๆ สนุกทุกตอนในแนวดราม่า เพียงแต่เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดทั้งในเครื่องและภาคพื้นดินในช่วงแรกอาจจะทำให้ผู้ชมสับสนว่าเกี่ยวข้องกันยังไงอยู่บ้างเท่านั้นครับ แต่ซีรีส์ก็จบสมบูรณ์เลยที่ 7 ตอน ไม่มียืดเรื่องราว จึงถือว่าคุ้มค่าแก่การรับชมครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ตัวเอกเป็นนักเจรจาปิดดีล 
  • แนวจี้เครื่องบินในแบบซีรีส์ที่มีเหตุการณ์หลายส่วน
  • เรื่องราวกดดันระทึกตลอดเวลา
  • ซีรีส์ 7 ตอนจบ

Cons

  • เดินเรื่องด้วยการพูดคุยแทบไม่มีฉากแอ็กชั่น
  • บางครั้งเรื่องดูไม่สมเหตุผลบ้าง
  • จบด้วยสูตรสำเร็จทั่วไป

ADBRO

Hijack apple TV+ ซีรีส์ 7 ตอนจบ แนวทริลเลอร์ เรื่องราวของนักเจรจาที่ขึ้นเครื่องบินกลับไปหาครอบครัว แต่แล้วต้องมาพบกับโจรจี้เครื่องบินปริศนาที่ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ ให้รับรู้เลย
Hijack (2023) on IMDb

รีวิว Hijack apple TV+ (ไม่มีสปอยล์)

ซีรีส์สู้กับโจรจี้เครื่องบินที่มาในแนวแปลกใหม่ ตัวเอกไม่ใช่คนที่มีฝีมือการต่อสู้ใดๆ เลย เป็นนักเจรจา ปิดดีลธุรกิจ ไม่ใช่สายเจรจาต่อรองของตำรวจ ซึ่งทำให้เรื่องนี้ดูแตกต่างไปจากแนวนี้ที่ผ่านมาทั้งหมด ซึ่งผู้ชมที่หวังจะได้เห็นฉากแอ็กชั่นบลาๆ ก็ต้องบอกแทบไม่มีเลย และต้องผิดหวังแน่นอนเพราะในแต่ละตอนเรื่องดำเนินไปแบบดราม่ามีอุปสรรคใหม่ๆ แล้วตัวเอกต้องใช้การพูดคุยเจรจา เพื่อวางแผนให้อุปสรรคนั้นผ่านไปได้ด้วยดีที่สุด เพราะความตั้งใจของเขาคืออยากกลับบ้านเท่านั้น ซึ่งก็รวมถึงช่วยผู้คนบนเครื่องบิน 200 ชีวิตนี้ไว้อีกด้วย

ซีรีส์เล่าเรื่องราวบนเครื่องบินที่ถูกจี้ตั้งแต่ตอนแรก พร้อมกับเล่าเรื่องตัวละครที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ในภาคพื้นดินหลายที่ ตั้งแต่หอการบินของแต่ละประเทศที่เครื่องบินผ่านในยุโรป โดยมีหอของอังกฤษเป็นตัวหลัก ครอบครัวของตัวเอกที่มีปัญหาหย่าร้างและภรรยากำลังแต่งงานใหม่กับตำรวจหนุ่ม ซึ่งตัวตำรวจเองก็เป็นตัวละครสำคัญในเคสนี้หลังได้รู้ว่าเครื่องบินนี้ถูกจี้ ซึ่งก็เชื่อมโยงไปถึงหน่วยงานรัฐบาลที่ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศกับมหาดไทยมาคุมเคสนี้ และทั้งๆ ก็มีปัญหาความเห็นขัดแย้งกันอีก ซึ่งนี่คือการเล่าเรื่องจี้เครื่องบินที่โยงใยกว้างขวางมาก ซึ่งตอนแรกคิดว่าเพราะการทำเป็นซีรีส์จึงต้องหาทางขยายพล็อตเผื่อไว้ทำหลายซีซั่น แต่ไม่ใช่เพราะนี่คือลิมิเต็ดซีรีส์จบในตัวสมบูรณ์เลยที่ 7 ตอน และก็บอกเล่าความสัมพันธ์พวกนี้โยงใยกันได้อย่างละเอียด แม้ตอนแรกเราอาจจะไม่รู้ว่าแต่ละเหตุการณ์เกี่ยวข้องกันยังไง แต่พอเรื่องค่อยๆ จำกัดวงเข้ามาก็ทำให้ภาพจิ๊กซอว์ทั้งหมดกระจ่างขึ้นทันทีครับ ซึ่งนี่คือจุดดีสุดของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ที่ตัวละครทุกกลุ่มได้บทบาทสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย 

ส่วนตัวเอกที่เป็นนักเจรจาเป็นเพียงศูนย์กลางของเรื่องเท่านั้น และก็แทบไม่ได้ติดต่อใครเลยด้วยซ้ำ เพราะสัญญาณเชื่อมต่อถูกตัดขาดกับทางพื้นดินหมด แต่ก็ทำให้เห็นความสามารถในการเจรจาของเขาที่พลิกวิกฤตให้มีโอกาสโผล่มาได้ตลอด มีการคาดการณ์วิเคราะห์จิตใจคนร้ายได้อย่างแม่นยำ แม้หลายครั้งอาจจะดูไม่สมเหตุผลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับขาดเหตุผลจนเชื่อไม่ได้ ซึ่ง Idris Elba เป็นโปรดิวเซอร์เรื่องนี้เองด้วย เขาจึงมีความเข้าใจในบทบาทนี้เป็นอย่างดี และเล่นบทนี้ในฐานะนักเจรจาได้ดีเลย เพียงแต่หุ่นล่ำๆ ของเขาอาจจะขัดกับบทบาทนักเจรจาอยู่บ้างเท่านั้นเอง

ส่วนทีมตัวร้ายของเรื่องก็ยังถูกแบ่งกระจายไปทั้งบนเครื่องบินและภาคพื้นดิน โดยมีปริศนาว่าเขาลงมือไปทำไม เพราะไม่ได้มีการยื่นข้อต่อรองอะไรเลย และไม่ใช่มุสลิมก่อการร้ายอย่างที่คนทั่วไปติดภาพนั้นไว้ด้วย ซึ่งตรงนี้คือปริศนาที่ช่วยผูกให้เรื่องราวน่าติดตามว่าพวกเขาคิดอะไร และทำสิ่งนี้ไปทำไม และมีใครเป็นคนร้ายบ้าง ซึ่งเรื่องได้ผูกปมนี้ไว้ซ้อนกันหลายชั้น มีจุดหักมุมที่ชวนตื่นเต้นในตอน 6 แต่บทสรุปสุดท้ายอาจจะจบแบบเรียบง่ายตามสูตรไปสักหน่อย จนทำให้ตอน 6 ที่พาความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นอย่างสูงมาก และลดระดับลงมาเรื่อยๆ ในตอน 7 ทำให้แอบผิดหวังพอสมควรครับ

 

งานโปรดักชั่นเรื่องนี้ทุนสูงตามสไตล์ apple tv+ ที่ไม่ลดคุณภาพลงเลย เรื่องราวมีการบินผ่านหลายประเทศ จำลองเครื่องบินได้สมจริง มีฉากเครื่องบินรบไล่จี้ และฉากภาคพื้นดินในลอนดอนกับสถานที่ต่างๆ ที่มีความโกลาหลเกิดขึ้นมาตามมาเยอะมาก ซึ่งทุกฉากเนี๊ยบสมกับเป็นผลงานคุณภาพสูงจริงๆ

 

โดยรวมนี่คือซีรีส์จี้เครื่องบินที่ทำออกมาได้แตกต่าง แม้จะไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นใดๆ เนื่องจากตัวเอกเป็นนักเจรจา แต่ความกดดันที่เรื่องราวพลิกผันกันได้แค่คำพูดก็ทำให้เรื่องราวตรึงเครียดมากๆ สนุกทุกตอนในแนวดราม่า เพียงแต่เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดทั้งในเครื่องและภาคพื้นดินในช่วงแรกอาจจะทำให้ผู้ชมสับสนว่าเกี่ยวข้องกันยังไงอยู่บ้างเท่านั้นครับ แต่ซีรีส์ก็จบสมบูรณ์เลยที่ 7 ตอน ไม่มียืดเรื่องราว จึงถือว่าคุ้มค่าแก่การรับชมครับ

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!