รีวิว His House (Netflix) ผีหลอกจากแอฟริกาสะท้อนปัญหาผู้อพยพในอังกฤษ (ไม่มีสปอยล์)

His House บ้านของใคร หนังสยองขวัญ Netflix ต้อนรับฮาโลวีน ด้วยเรื่องราวของคู่รักผู้อพยพจากแอฟริกาเข้ามายังประเทศอังกฤษ ก่อนจะได้รับสิทธิ์ให้พักอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่กลายเป็นฝันร้ายหลอกหลอนทั้งคู่

ตัวอย่าง His House บ้านของใคร

ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่มีความแปลกตั้งแต่พล็อตเรื่อง ที่ใช้ตัวเดินเรื่องเป็นผู้อพยพผิวดำจากแอฟริกามาแทนที่ตัวละครพลเมืองปกติของอังกฤษ ซึ่งเป็นความตั้งใจเล่นเรื่องปัญหาการเปิดรับผู้อพยพของยุโรปที่กลายมาเป็นต้นตอของ เบร็กซิต (การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร) ซึ่งคนในอังกฤษเองก็รังเกียจผู้อพยพว่ามาทำความเดือดร้อนให้มากกว่าสร้างประโยชน์ และในเรื่องนี้เองก็เอาปมบริบทพวกนี้มาใส่ไว้ในการดำเนินเรื่อง คู่ไปกับฉากสยองขวัญที่มีทั้งปมทางจิต อำนาจลี้ลับมนต์ดำ และประเด็นเรื่องการสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในแอฟริกามารวมอยู่ด้วยทั้งหมด

เนื้อเรื่องมีแค่ตัวละครหลัก Bol ฝ่ายสามีที่อยากตั้งรกรากมีชีวิตใหม่ในบ้านหลังนี้กับ Rial ภรรยาที่มีความหลังฝังใจเรื่องลูกสาวที่พลัดจมน้ำในทะเลระหว่างที่ล่องเรือมายังอังกฤษ  สองตัวละครนี้ต่างมีความเชื่อแตกต่างกันมากในเรื่องการมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ซึ่ง Bol จะพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้สิทธิ์เป็นพลเมืองอังกฤษ ซึ่งมีข้อแม้หลักๆ ต้องอยู่บ้านหลังนี้ให้ได้ และก็ต้องทำตัวให้เรียบร้อยที่สุด แต่กลายเป็นว่าเขากลับพบเจอภาพหลอนชวนสยองทุกค่ำคืนในบ้านหลังนี้ ซึ่งก็มาในรูปของเด็กใส่หน้ากากประหลาดๆ เหมือนพวกหมอผีวูดู วิ่งไปมาอยู่ในกำแพง และก็เห็นคนตายอื่นๆ รุกเข้ามาในบ้านหลังนี้ แต่เขาก็พยายามทนอยู่ให้ได้แม้สติตัวเองจะแตกกระเจิงแล้วก็ตาม ซึ่งฉากผีหลอกในเรื่องนี้ถือว่าผ่านเลยกับความพยายามครีเอทผีเข้ากับปมทางจิตปะปนกันแบบแยกไม่ออกว่าอะไรจริงเท็จ และก็มีสไตล์ผีแอฟริกาเข้ามาในรูปแบบแปลกๆ แตกต่างจากที่เราเคยพบเห็นในหนังฝรั่งหรือเอเชียอยู่พอสมควร แต่ความน่ากลัวอาจจะไม่ได้ไปสุดทางใดทางหนึ่งเท่านั้น

อีกด้านคือ Rial ภรรยาที่ฝังใจกับความผิดที่ปล่อยให้ลูกสาวตายไป และก็พยายามบอกสามีเสมอว่าให้กลับไปที่บ้านเกิด ซึ่งตรงนี้เป็น Hint คำใบ้เล็กๆ มาตั้งแต่แรกว่าสิ่งผิดปกติที่เกิดในบ้านหลังนี้มีที่มาที่ไป ซึ่งตัวภรรยาเองไม่ได้มีฉากหลอนอะไรมาก เรียกว่าแทบจะไม่มีเลยก็ได้ แต่ก็ได้เห็นว่าเธอก็เจออะไรผิดปกติบางอย่างในบ้านหลังนี้เช่นกัน เพียงแต่ว่าเรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ที่เธอเจอมาที่แอฟริกาจะหนักหนากว่ามาก ซึ่งตัวภรรยาจะมีฉากภัยสงครามการฆ่าล้างบางคนต่างเผ่าในแอฟริกาที่มาจากเรื่องจริงที่ชวนหดหู่สอดแทรกไว้

ตัวเรื่องใช้รูปแบบการเล่าสองช่วงเวลา สามีเจอเรื่องหลอนตอนกลางคืน ภรรยาเจออะไรบางอย่างตอนกลางวัน โดยมีปมทางจิตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทุกครั้ง และผีกับภาพหลอนในเรื่องก็ไม่ได้ฟันธงได้เลยว่าเกิดจากผีจริงๆ มนต์ดำ ความฝัน หรืออาการทางจิตที่เกิดจากแรงกดดันต่างๆ ในอังกฤษ อย่างการที่แม้แต่คนผิวดำในอังกฤษเองก็รังเกียจเหยียดทั้งคู่เช่นกัน ตัวเรื่องมีประเด็นการพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตปกติของตัวสามี ซึ่งมาดูบอลกับคนอังกฤษ การพยายามใช้มีดกับส้อมรับประทานอาหารแทนการใช้มือ ซึ่งตัวภรรยาเองติดการใช้มือ และดูจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงในแบบที่สามีต้องการ ด้วยความฝังใจต้องการกลับไปยังบ้านเกิดให้ได้ลึกๆ ตลอดเวลา ซึ่งหนังสอดแทรกอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไว้ได้ดีเลย ทำให้ตัวเรื่องมีประเด็นของผู้อพยพเข้ามาเป็นส่วนสำคัญจริงจัง และก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้บทมีความสมเหตุผลด้วยว่าทำไมโดนหลอกหนักขนาดนี้แล้วถึงต้องทนอยู่ให้ได้ เพราะถ้ากลับไปคือต้องเจอกับการเข่นฆ่าที่โหดร้ายกว่าผีหลอกในเรื่องมาก ซึ่งหนังเข้าใจเล่นโดยการแฟลชแบ็คกลับไปในช่วงโดนผีหลอกแบบเนียนๆ ให้คนดูเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันโหดร้ายขนาดไหน และก็เป็นตัวเฉลยความลับสำคัญของเรื่องในตอนท้ายด้วยว่า จริงๆ แล้วผีมาจากไหน และอะไรที่หลอกหลอนพวกเขาทั้งคู่อยู่กันแน่ แต่อาจจะไม่ได้เคลียร์แบบเข้าใจได้เลยทั้งหมดแค่นั้น เพราะตัวหนังจริงๆ ต้องการสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นของผู้อพยพทั้งจากบ้านเกิดและประเทศปลายทางที่ลี้ภัยมากกว่าครับ

ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญที่ผนวกเอาประเด็นปัญหาผู้อพยพเข้ามาได้อย่างแนบเนียนสมเหตุผล แล้วตัวเรื่องก็มีน้ำหนักจากเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง ฉากผีหลอกแม้จะไม่ได้เยอะมากหรือน่ากลัวสุดๆ แต่ก็มีความแปลกใหม่จากผีแอฟริกาที่ให้รสชาติผีหลอกแตกต่างไปจากที่เคยดูทั่วไปพอสมควรเลย พร้อมทั้งฉากจบที่เฉลยออกมาได้ชวนอึ้งอยู่เหมือนกันครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่