playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Hypnotic (Netflix) หนังทริลเลอร์สะกดจิตโม้โอเว่อร์เกินจริงระดับ X-MEN

Hypnotic

สรุป

หนังแนวจิตหลอนระทึกขวัญนิดๆ เนื้อเรื่องขาดความซับซ้อน แค่พอดูกล้อมแกล้มผ่านไปได้ แต่ถ้าใครดูแบบจับผิดหรือคิดมากกับความสมจริงนี่มีปัญหาแน่ เพราะการสะกดจิตในเรื่องดูเว่อร์เกินไปมาก แบบเดียวกับโปรเฟซเซอร์ X ของ X-men เลย

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • แนวทริลเลอร์ระทึกขวัญผ่านการสะกดจิต
  • นางเอกสาวสวย Kate Siegel จากซีรีส์ Midnight Mass 
  • มีพากย์ไทย

 

Cons

  • สะกดจิตเว่อร์เกินไปมากๆ
  • เนื้อเรื่องเดินไปแบบง่ายๆ ไม่มีความซับซ้อนให้คาดเดาได้ยากเลย

ADBRO

Hypnotic สะกดตาย หนัง Original Netflix แนวทริลเลอร์ เรื่องราวของหญิงสาวที่จิตใจแตกสลายจากปัญหาครอบครัว และหันไปพึ่งการบำบัดด้วยการสะกดจิตให้ผ่อนคลาย แต่กลับกลายเป็นหายนะมาสู่ตัวเธอเองและคนรอบข้าง

 Hypnotic (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Hypnotic สะกดตาย

หนังแนวทริลเลอร์ระทึกขวัญที่ได้ดาราสาว Kate Siegel จากซีรีส์ Midnight Mass ที่พึ่งฉายไปไม่นานนี้มาเล่นต่อเนื่องกันทันที (หลังๆ เน็ตฟลิกซ์มักใช้ดาราขาประจำเดิมๆ บ่อยขึ้นมาก) แต่ได้ Matt Angel ผู้กำกับมือโนเนมมาคุมงาน ซึ่งพึ่งมีผลงานหนังลงโรงเรื่องเดียวคือ The Open House ที่คะแนนวิจารณ์แย่สุดๆ (imdb โหวตที่ 3.2 เว็บมะเขือ 13%) ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ต้องคาดหวังว่าผลงานเรื่องใหม่นี้จะดีอะไรมาก เพราะทำได้แค่ประคองตัวให้รอดไปได้เท่านั้นเอง

เนื้อเรื่องเริ่มจากการเปิดฉากให้เราเห็นหญิงสาวปริศนาเข้าไปในลิฟต์แล้วมีสายโทรเข้าบอกว่าถึงจุดจบของโลกแล้ว จากนั้นก็กลายเป็นลิฟต์ถูกบีบเข้าหากันอัดก๊อปปี้เธอจนตาย ก่อนที่จะตัดมาที่ “เจนน์” สาวสวยที่แท้งลูกจนเครียดเลิกกับสามีได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้ไปบำบัดจิตกับด็อกเตอร์คอลลิน จิตแพทย์ที่ใช้การสะกดจิตบำบัดเยียวยาจิตใจ ซึ่งเมื่อเจนยอมรับการสะกดจิตครั้งแรก เธอกลับพบว่าตัวเองจำอะไรไม่ได้เลยในระหว่างนั้น ก่อนที่เรื่องจะเลวร้ายลงเมื่อเธอมีอาการความจำหายไปหลายครั้ง พร้อมกับเรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอเรื่อยๆ ซึ่งเธอก็ต้องสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นพร้อมกับนักสืบเวดที่ตามคดีหญิงสาวปริศนาที่ตายในลิฟต์จนมาเชื่อมกับด็อกเตอร์คอลลินในที่สุด

หนังแนวจิตหลอนแนวนี้จุดขายสำคัญมักอยู่ที่ฉากหลอนทางจิตเพ้อฝันสลับกับความจริง ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำมาในแบบเดียวกัน แต่ฉากเปิดเรื่องกลับกลายเป็นฉากเด็ดที่สุดของเรื่องนี้แล้ว ก่อนที่หลังจากนั้นฉากเหล่านี้ค่อนข้างธรรมดามาก ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นอีกแล้ว อาจจะเพราะด้วยทุนสร้างที่คงไม่มากตามประสาหนังเน็ตฟลิกซ์ทั่วไป ตัวเรื่องจึงใช้พวกฉากหลอกแนวสะกดจิตซ้อนซึ่งก็เป็นการหักมุมเบาๆ ลุ้นได้นิดๆ สำหรับใครที่เดาเรื่องไม่ทันได้อยู่ แต่สิ่งที่มีปัญหามากเลยคือความเว่อร์ของการโดนสะกดจิตในเรื่องที่แค่ได้ยินเสียงสั่งก็หยุดการเคลื่อนไหวสั่งเหยื่อเป้าหมายให้ทำอะไรก็ได้ทันที ระดับเดียวกับโปรเฟซเซอร์ X ของ X-men เลย  ซึ่งมันเว่อร์เกินไปมากจนทำให้เชื่อตามไม่ได้เลยจริงๆ

และที่สำคัญคือตัวเรื่องขาดความซับซ้อนตั้งแต่แรก คือไม่ต้องเดาอะไรก็รู้เลยด็อกเตอร์คอลลินคือตัวร้ายตรงๆ ไม่มีการหักมุมหรืออะไรทั้งสิ้น มีแค่ความสงสัยนิดๆ ว่าหมอนี่คิดจะทำอะไรกับนางเอก แต่พอเฉลยก็ไม่ได้ลึกลับอะไร บททุกอย่างดูลงล็อคง่ายๆ ไปหมด มีเพียงแค่ฉากก่อนสุดท้ายที่มีหักมุมนิดนึงพอให้รู้สึกว่ามีดีหน่อยเท่านั้น

สิ่งที่ดูดีคือตัวนักแสดง Kate Siegel ที่สวยดูน่าดึงดูดชวนให้ดูได้เรื่อยๆ ซึ่งเธอก็เล่นได้ดีไม่มีอะไรให้ติ เพียงแต่บทของเธอค่อนข้างตื้นๆ ตามโครงเรื่อง ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจดจำนัก เมื่อเทียบกับมิดไนท์แมสเรื่องก่อนนี่คนละชั้นกันมาก แถมตัวบทยังดูไม่ค่อยเมคเซนส์เท่าไหร่กับการที่โดนสะกดจิตขนาดหนักแล้วยังบุกเดี่ยวลุยไปสืบเรื่องราวต่างๆ ด้วยตัวเองไม่พึ่งตำรวจอีก

ตัวร้ายที่แสดงโดย Jason O’Mara ก็เช่นกันบทแทบไม่มีมิติอะไรเลย เป็นแค่หมอป่วยจิตจากเหตุผลตื้นๆ แถมยังดูเว่อร์ๆ ตรงบุกไปสะกดจิตสั่งนางเอกถึงบ้านของเธอเอง แต่เรื่องก็กลับบอกว่าไม่มีหลักฐานเอาผิดได้ ทั้งๆ ที่ยุคนี้แล้วกล้องวงจรปิดมีกันเกลื่อน แต่เรื่องก็พยายามหาเหตุผลให้หมอดูเป็นตัวร้ายเว่อร์ๆ ที่ตำรวจเอาผิดไม่ได้ไม่มีหลักฐานไปง่ายๆ ซะแบบนั้น

แต่ข้อดีของหนังก็ยังมีตรงถ้าดูแบบไม่คิดเรื่องสมเหตุผลอะไร ไม่ต้องการความซับซ้อนของเรื่อง ตัวหนังก็ยังพอดูเพลินๆ ได้ มีฉากระทึกแทรกมานิดหน่อย ไม่ได้ถึงกับแย่อะไร เรียกว่าเป็นหนังเน็ตฟลิกซ์มาตรฐานทั่วไปที่พอใช้ดูผ่านๆ ไปได้เรื่องหนึ่งเท่านั้นครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!