รีวิว iHostage (Netflix) หนังจับตัวประกันที่เล่าผ่านสายตาทุกคนได้อย่างสมจริง

iHostage ภาพยนตร์ Original Netflix สร้างจากเหตุการณ์จับตัวประกันที่เกิดขึ้นจริงในร้าน Apple Store ที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2022 นำเสนอเรื่องราวดราม่าสุดเข้มข้นผ่านมุมมองหลากหลายของผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์

รีวิว iHostage

แตกต่างจากหนังจับตัวประกันทั่วไปที่มักเป็นการปล้นธนาคาร ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอสถานการณ์แปลกใหม่ เพราะร้าน Apple Store ไม่มีของมีค่าเหมือนสถาบันการเงิน ภาพยนตร์ถ่ายทอดรายละเอียดจากทุกมุมมองเป็นแกนหลักการเล่าในเรื่องนี้

เรื่องเริ่มจากชายหนุ่มที่มาซื้อหูฟังใหม่ที่ร้าน จู่ๆ คนร้ายก็บุกเข้ามาพร้อมปืนกล ทำให้ลูกค้าและพนักงานแตกตื่นหนีออกจากร้าน มีเพียงชายหนุ่มที่หลบอยู่หลังเคาน์เตอร์เท่านั้นที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งหากไม่ได้สร้างจากเหตุการณ์จริง ผู้ชมอาจรู้สึกว่าบทแปลกประหลาดที่คนร้ายปล่อยให้คนหลบหนีออกไปได้ง่ายๆ ทั้งที่มาพร้อมความพร้อมทั้งอาวุธและระเบิดที่พันรอบตัว

ภาพยนตร์ค่อยๆ เผยให้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ภายนอกอย่างละเอียด ทั้งตำรวจหน่วยพิเศษ นักเจรจา และทีมงานที่คอยติดตามสถานการณ์ โดยใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ตำรวจที่ต้องสวมหมวกปิดบังอำพรางตัวตนตั้งแต่ผละจากครอบครัว การทำงานของทีมเจรจาที่มี 3 คน และการเชื่อมโยงทุกส่วนของปฏิบัติการ มีการพยายายืนยันว่าระเบิดนี้ของจริงหรือไม่ผ่านการตัดสินใจของหลายคน หนังไม่ได้วางบทให้มีตัวเอกหลักเพียงคนเดียว แต่ทุกคนในเรื่องล้วนมีส่วนสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ เผยให้เห็นว่าเมื่อมีข้อผิดพลาด พวกเขาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร

ส่วนฉากในแอปเปิลสโตร์ก็มีเรื่องราวของคนร้ายที่บอกเล่าเรื่องราวตัวเองออกมาน้อยมาก โดยรู้เพียงแค่ว่าเขาถูกคนของรัฐกดขี่และต้องการเรียกร้องเงินคริปโตมหาศาลชดเชย หนังมีฉากคนร้ายพูดคุยกับตัวประกันเพียงนิดเดียว ผิดกับหนังแนวนี้ที่มักให้คนร้ายต้องพูดคุยเผยเรื่องราวของตัวเองออกมาเป็นดราม่าประกอบแรงจูงใจ แต่เรื่องนี้ไม่ปรุงแต่งคนร้ายให้เป็นแบบนั้น หนังเลือกที่จะนำเสนอตามความเป็นจริงว่าคนที่ดูไม่น่ากลัวก็อาจเป็นอาชญากรร้ายแรงได้

ตัวหนังยังมีส่วนของตัวประกันที่หลบอยู่ในห้องเก็บของเพิ่มอีก รวมถึงอีกส่วนที่หลบหนีอยู่ชั้นบน ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้คนร้ายไม่ได้รับรู้ว่ามีพวกนี้อยู่ เป็นการหลบซ่อนตัวเพื่อหาทางรอด โดยเป็นเหตุการณ์เล็กๆ แต่ส่งผลกระทบมาก อย่างการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของอินฟลูที่อยากดัง หรืออาการแพนิคของคนที่ดูเหมือนใกล้หัวใจวาย เป็นการเก็บรายละเอียดถ่ายทอดอารมณ์ของคนในเหตุการณ์ออกมาได้ดี ซึ่งหนังก็ทำให้เห็นเลยว่าเรื่องพวกนี้สำคัญแค่ไหนกับทีมงานด้านนอกที่พยายามช่วยเหลือ ซึ่งสถานการณ์กดดันมาก ถ้าผิดพลาดนิดเดียวอาจจะเป็นหายนะใหญ่เลยก็ได้

ด้วยความที่หนังสร้างจากเรื่องจริง ฉากจบของเรื่องนี้ก็เลยออกมาดูธรรมดาในสายตาคนดูที่รอไคลแม็กซ์ระทึกๆ ซึ่งก็อาจจะดูน่าผิดหวัง แต่แท้จริงคือการตัดสินใจกล้าหาญของตัวประกันที่ช่วยให้ทุกคนรอดชีวิตในเสี้ยววินาที โดยมีตำรวจหน่วยพิเศษที่ถึงไม่ได้บุกเข้าไป แต่ก็มีส่วนสำคัญมากสถานการณ์ตอนท้ายนี้ ซึ่งหนังก็ทำให้เห็นว่าเหตุการณ์หลังช่วยตัวประกันได้แล้วก็ยังมีต่อไปอีก รวมถึงการสอบสวนภายหลังที่ต้องตัดสินว่าการกระทำนี้มีความผิดหรือไม่ ซึ่งหนังเก็บรายละเอียดพวกนี้มาไว้หมด ทำให้ภาพยนตร์มีความสมจริงราวกับเป็นหนังสารคดี

สรุปโดยรวม iHostage หนังสร้างจากเหตุการณ์จริงที่ถ่ายทอดเรื่องราวระทึกในเหตุการณ์ได้อย่างละเอียดจากหลายมุมมอง ทั้งของผู้ก่อเหตุ, ตัวประกัน และทีมเจ้าหน้าที่ ทำให้เรื่องราวเต็มไปด้วยการเก็บรายละเอียดการทำงานจริงและความรู้สึกของแต่ละฝ่ายในทุกจังหวะของเหตุการณ์สำคัญ โดยไม่เน้นให้ใครเป็นตัวเอก ซึ่งแตกต่างจากหนังจับตัวประกันโดยทั่วไป แม้ตอนจบอาจดูธรรมดาในสายตาผู้ชม แต่สะท้อนความเป็นจริงของเหตุการณ์ได้อย่างสมบูรณ์ครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่