รีวิว It’s What’s Inside กระเป๋าลับสลับร่าง (Netflix) พล็อตหนังสลับร่างแบบกลุ่มที่ตั้งต้นดี แต่จบง่ายไป
It's What's Inside
Summary
หนังที่ใช้พล็อตไอเดียสลับร่างง่ายๆ มาเล่นกับกลุ่มเพื่อนงานปาร์ตี้ได้สนุกกว่าเดิม มีความซับซ้อนซ่อนอยู่ในการเล่นเกมสลับร่างนี้ โดยในหนึ่งชั่วโมงแรกเหมือนเกมสนุกๆ ก่อนที่จะพลิกกลับเป็นแนววางแผนทรยศหักหลังกันเองวุ่นวาย โดยสุดท้ายเรื่องราวก็เฉลยแบบพลิกไปอีกทาง ซึ่งแม้จะน่าแปลกใจแต่ก็ดูง่ายเกินไปเหมือนกันเมื่อเลือกจะเฉลยกันทื่อๆ แบบนี้ และการเล่าเรื่องสลับร่างที่เล่าไวแบบห้วนๆ มากก็เป็นปัญหาทำให้ไม่อินกับตัวละครในเรื่องได้มากพอครับ
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- ไอเดียสลับร่างแบบกลุ่มในงานรวมเพื่อน
- มีพากย์ไทย
Cons
- การเล่าเรื่องถึงตัวละครที่สลับกันไปไวมากจนตามแทบไม่ทัน
- งานภาพไม่ดีมากเป็นหนังทุนต่ำ
- เฉลยตอนจบง่ายๆ ทื่อๆ ไป
It’s What’s Inside กระเป๋าลับสลับร่าง ภาพยนตร์ Original Netflix แนวดราม่าดาร์คคอมเมดี้ เรื่องราวของก๊วนเพื่อนในอดีตที่ไปรวมตัวกันก่อนวิวาห์ แต่พวกเขากลับได้เล่นเกมย้ายร่างได้โดยใช้กระเป๋าปริศนา ที่มาจากเพื่อนที่ทุกคนไม่อยากต้อนรับ
รีวิว It’s What’s Inside กระเป๋าลับสลับร่าง
หนังแนวดาร์คคอมเมดี้ที่ผสมไซไฟนิดๆ โดยให้มีเครื่องมือที่ช่วยย้ายร่างของคนได้ ซึ่งเป็นแค่กระเป๋าเดินทางใบเดียว แล้วก็เอาจุดนี้มาเล่นเป็นพล็อตเรื่องสลับร่างในงานรวมก๊วนเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยกระเป๋านี้สร้างโดยเพื่อนสายไอทีที่ถูกไล่ออกไป ทำให้เรื่องมีปมว่าเขาตั้งใจเอากระเป๋านี้มาแค่ให้เพื่อนเล่นเกมสลับร่างกัน หรือว่ามีจุดประสงค์นอกเหนือจากนั้น
ต้องชมตัวพล็อตเรื่องที่มีเอาไอเดียง่ายๆ ของพล็อตสลับร่างมาใช้เป็นแแบบกลุ่ม ทำให้เรื่องดูแปลกน่าสนใจว่า กลุ่มตัวละครพวกนี้จะเจอกับอะไรเมื่อสลับร่างกัน ซึ่งเป็นไอเดียที่ทำให้เรื่องเล่าไปได้สารพัดทิศทางมาก แต่หนังก็เลือกโฟกัสชัดแค่สองจุดว่า นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างจงใจจากเหตุการณ์ในอดีตสมัยมหาวิทยาลัยอดีตที่คนถือกระเป๋ามามีความแค้นกับกลุ่มเพื่อน พ่วงกับเรื่องราวปัญหาชีวิตคู่ของตัวละครเอกสองคนในตอนเริ่มเรื่อง ซึ่งแฟนไม่ยอมมี Sex ด้วยจนทำให้เธอเกิดสงสัยว่าเพราะอะไรกัน หนังพยายามเล่าทั้งสองเรื่องนี้ไปด้วยกัน โดยซ่อนเรื่องความแค้นในอดีตไว้อย่างลับๆ แต่ก็แง้มแพร่งพรายให้เห็นอยู่เรื่อยๆ จากเรื่องเล่าที่ทุกคนค่อยๆ เผยออกมาเมื่อสลับร่าง แต่หนังก็ไม่ได้ชี้เป้าไปว่าคนที่ถือกระเป๋ามาคือตัวร้ายโดยตรง เพราะเขาเองก็สลับร่างไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องก็ทำให้ผู้ชมเกิดความสงสัยว่าเขาทำไปเพื่ออะไร และจะแก้แค้นได้ยังไงในร่างที่สลับกันมั่วไปหมดทั้งกลุ่มแบบนี้ ซึ่งหนังก็เล่นสนุกกับจุดนี้ทำให้เรื่องราวดูสนุกน่าติดตามกับงานปาร์ตี้พี้กัญชาสลับร่าง แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไรเลยก็ตาม
ตัวหนังใช้เวลาไป 1 ชั่วโมงเพื่อเล่นเกมสลับร่างขำๆ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มขำไม่ออก เมื่อเรื่องหักเหไปอีกแนวหนึ่ง ซึ่งทำให้ปมคู่ตัวเอกที่มีปัญหาเรื่อง SEX เข้ามาเป็นเมนหลักที่ทำให้ทุกคนกลับสู่ร่างเดิมไม่ได้ ซึ่งจุดนี้ก็กลายเป็นหนังเริ่มแนวทางการวางแผนหลอกล่อหาพวกว่าจะทำยังไงให้สถานการณ์สุดท้ายจบลงโดยที่ตัวเองได้ประโยชน์ที่สุด โดยเรื่องก็เลือกตัดจบเหตุการณ์ทั้งหมดไปแล้วขึ้นพาร์ทเฉลยเรื่องราวทั้งหมดอีกที ซึ่งจุดนี้คือการย้อนไปคลายปมปัญหาตั้งแต่แรกว่าเกมนี้เกิดขึ้นโดยตั้งใจหรือไม่ แต่ไอเดียตอนจบก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเป็นการคลายปมแบบยืมมือเรื่องราวใหม่มาเฉลยทั้งหมด ซึ่งอยู่นอกกรอบการเล่าเรื่องไป แม้มันจะช่วยปิดจบเรื่องลงได้แบบดาร์คคอมเมดี้ แต่ก็ดูง่ายเกินไปหน่อยครับ
ปัญหาของเรื่องมีอีกอย่างคือการสลับร่างทำให้ผู้ชมมึนตามไม่ทันว่าใครเป็นใคร แล้วหนังก็ไม่มีเวลาเล่าลงลึกให้ผุ้ชมจดจำตัวละครสมทบได้มากพอ ซึ่งหนังก็พยายามใช้วิธีตัดภาพเป็นสีแดงให้เห็นว่าตัวจริงเป็นใครตอนที่คุยกัน แต่พอต้องเล่าเรื่องการวางแผนจากคนนั้นสลับกลับไปคนนี้ไปๆ มาๆ ก็ยังทำให้งงกันอยู่ดี เพราะหนังเล่าไวมากทั้งคำพูดทั้งฉากที่ตัดสลับไปถึงตัวละครที่พูดที่ไวจนแทบตามไม่ทันเลย
จุดที่ดูแล้วขัดใจตลอดอีกอย่างคือด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นงานทุนต่ำแค่ 2.5 ล้านเหรียญ ซึ่งหนังเรื่องนี้ถูกฉายในงาน Sundance Film Festival 2024 แล้วเน็ตฟลิกซ์ซื้อสิทธิ์มาไม่ได้สร้างเองแต่แรกด้วย ทำให้ภาพในเรื่องด้อยคุณภาพ หยาบๆ เหมือนถ่ายด้วยกล้องแย่ๆ แล้วภาพมีฉากมืดเยอะเลยทำให้เห็นน้อยส์มากขึ้นไปอีก หรืออาจจะเป็นความตั้งใจของผู้กำกับเองก็ได้ที่ต้องการภาพแบบนี้ แต่มันก็ทำให้งานภาพของหนังดูไม่ดีจริงๆ
สรุป หนังที่ใช้พล็อตไอเดียสลับร่างง่ายๆ มาเล่นกับกลุ่มเพื่อนงานปาร์ตี้ได้สนุกกว่าเดิม มีความซับซ้อนซ่อนอยู่ในการเล่นเกมสลับร่างนี้ โดยในหนึ่งชั่วโมงแรกเหมือนเกมสนุกๆ ก่อนที่จะพลิกกลับเป็นแนววางแผนทรยศหักหลังกันเองวุ่นวาย โดยสุดท้ายเรื่องราวก็เฉลยแบบพลิกไปอีกทาง ซึ่งแม้จะน่าแปลกใจแต่ก็ดูง่ายเกินไปเหมือนกันเมื่อเลือกจะเฉลยกันทื่อๆ แบบนี้ และการเล่าเรื่องสลับร่างที่เล่าไวแบบห้วนๆ มากก็เป็นปัญหาทำให้ไม่อินกับตัวละครในเรื่องได้มากพอครับ