playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว เคออส (KAOS) ซีรีส์ล้อทวยเทพกรีกเผด็จการให้ดูทันสมัย แต่ก็ยังไม่สดใหม่พอ

KAOS

Summary

ซีรีส์ยำตำนานเทพกรีกโดยถูกดัดแปลงให้ทันสมัยเสียดสีตลกแบบจิกกัด แต่มุกก็แป๊กมากกว่า ตัวนักแสดงก็เน้น LGTBQ แทบทั้งเรื่อง มีความ WOKE แบบเต็มพิกัด เรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนค่อนข้างเล่าไปเรื่อยๆ จบแบบง่ายๆ และสเกลงานก็ทุนต่ำ ไม่ได้มีฉากอลังการหรือ CG ดีๆ ก็ไม่มี สิ่งที่ดีคือการนำตำนานเทพกรีกมายำดัดแปลงรวมๆ กันใหม่ ผู้ชมที่ชอบตำนานกรีกอยู่แล้วก็น่าจะพอสนุกในส่วนนี้ได้อยู่ครับ

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ซีรีส์ยำตำนานเทพกรีกโดยถูกดัดแปลงให้ทันสมัย
  • เจฟฟ์ โกลด์บลัมในบทซูสบ้าอำนาจกวนๆ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • บทธรรมดาไม่ซับซ้อน
  • การเล่าเรื่องจืดๆ อืดๆ
  • ตัวละคร WOKE  สุดๆ
  • งานโปรดักชั่นทุนต่ำ
  • ไม่จบในซีซั่นเดียว

ADBRO

เคออส (KAOS) ซีรีส์อังกฤษ แนวตลกดราม่า 8 ตอนจบซีซั่น 1 มีพากย์ไทย เรื่องราวการโค่นล้มซูส  ราชาแห่งทวยเทพทั้งปวงและจ้าวโลก ในรูปแบบทันสมัย โดยยังคงอิงเนื้อหารายละเอียดจากตำนานกรีกไว้อยู่

 

รีวิว เคออส (KAOS) ไม่สปอยล์

ซีรีส์นำแสดงโดยเจฟฟ์ โกลด์บลัมในบทซูส โดยเซ็ตเรื่องราวกับตัวละครจุดกำเนิดสถานการณ์เคออสที่หมายถึงการล่มสลายของทวยเทพบนโอลิมปัสในรูปแบบใหม่ โดยให้เป็นโลกในปัจจุบันที่สมมุติผู้คนยังเชื่อถือเทพเจ้ากันอยู่ ทั้งๆ ที่เทพเจ้านั้นทำตัวต่ำทรามกดขี่มนุษย์เป็นอย่างมาก โดยผู้ที่คิดขัดขวางหรือก่นด่าเทพเจ้าก็จะถูกทำลายลง โดยผ่านเจ้าเมืองที่เทพสั่งการลงมาโดยตรง ดั่งเป็นระบอบเผด็จการสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีหนทางทำลายระบอบการปกครองนี้ได้ผ่านคำนาย หรือจริงๆ ก็คือแผนการที่มีใครสักคนวางไว้ให้มนุษย์ที่เป็นคู่รักอย่าง ‘ริดดี้กับออร์ฟีอัส’ ก้าวเข้ามายังโลกความตายและพิสูจน์ความรักท้าทายกฏเกณฑ์ที่เทพตั้งไว้ว่ามนุษย์คนตายจะกลับไปยังโลกไม่ได้ให้ทั้งคู่พยายามแหกกฎให้สำเร็จ  

ตัวเรื่องอิงกับตำนานกรีกแทบทุกอย่างตั้งแต่ชื่อตัวละครทุกตัว ลักษณะนิสัยใจคอของตัวละครแปลกๆ แบบเทพเจ้า อย่างความบ้าของซูส การมีเมียมีลูกมาก พี่น้องเอากันเองได้ บลาๆๆ โครงเรื่องและอุปสรรคย่อยๆ ของแต่ละตัวก็มีรากฐานแบบเดียวกัน ซึ่งผู้ชมที่เป็นแฟนตำนานกรีกก็น่าจะชอบใจกับการดัดแปลงให้อยู่ในรูปลักษณ์แนวโมเดิร์นทันสมัย อย่างโปเซดอนอยู่ในเรือยอร์ช เทพธิดาพยากรณ์อยู่ในผับ แต่ก็ยังให้เป็นลักษณะเหมือนยุคที่มนุษย์ยังบูชาเทพเจ้าและเชื่อว่าต้องเคารพกันจริงๆ แต่ก็ต้องระบุไว้ว่าเรื่องนี้ตัวละครที่เอามาแปลงมักเป็น LGTBQ แทบทั้งเรื่อง ซึ่งจะเป็นซีรีส์ที่ WOKE แบบเต็มๆ ตัวเลยก็ได้ครับ

ด้วยความที่ตัวเรื่องเอาตำนานเทพทุกตัวมารวมกัน เรื่องจึงค่อนข้างยำทุกอย่างจนดูวุ่นวายไปหมด แล้วก็ตั้งใจให้เป็นแนวตลกจิกกัดพฤติกรรมตัวละครในตำนานเทพมายำรวมกัน  อย่าง โพรมีธีอุสก็เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของซูส มีเส้นเรื่องที่ต้องคอยแนะนำให้คำปรึกษาซูส แต่ก็ยังต้องทรมานทุกวันจากนกอินทรีย์จิกกินตับ หรือคู่รักตัวเอก ‘ริดดี้กับออร์ฟีอัส’ ซึ่งริดดี้จริงๆ ก็คือ ยุริดดิซี่ (Eurydice) ในตำนานของออร์ฟีอัสจริงๆ เพียงแต่ถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นความรักสามเส้าที่จะมีตัวละครอื่นมาแทรก แต่เขาก็ยังต้องลงนรกไปช่วยเธอกลับมาเช่นกัน เพียงแต่เนื้อเรื่องมีการแต่งเติมเพิ่มไปค่อนข้างเยอะ โดยให้ทุกตัวละครเกี่ยวกับคำทำนายในการโค่นซูสลงได้ แต่เรื่องก็ไม่ได้ถูกวางให้ซับซ้อน (แม้จะดูซับซ้อน) แค่เล่าไปเรื่อยๆ แล้วก็เฉลยออกมาแบบง่ายๆ จนค่อนข้างจืดชืดน่าเบื่อ มีจุดเด่นแค่เน้นแค่การนำเสนอเรื่องราวเทพสมัยใหม่เท่านั้น ซึ่งก็มีหลายเรื่องทำออกมาก่อนแล้วมากมายครับ 

ซีรีส์เล่นเรื่องเทพ มีฉากทั้งนรก สวรรค์ แต่ก็ยังจำลองทุกอย่างออกมาเหมือนโลกมนุษย์ปกติ จึงไม่ได้มีฉากสวยๆ ตระการตาอะไร สเกลซีรีส์เรียกว่าทุนต่ำก็ยังได้ เพราะเป็นการเซ็ตโลกแบบประหยัดงบแทบทุกจุด สัตว์ประหลาดอย่างมิโนทอร์ก็เป็นคนใส่หน้ากากวัว หรือแม้แต่ CG พลังเทพต่างๆ ก็แทบไม่มีให้เห็น สายฟ้าของซูสก็แทบจะงานโลวคอสมากไม่ต้องหวังการแสดงพลังอำนาจใดๆ เลย มีแค่ฉากวงแหวนน้ำบนโอลิมปัสที่เห็นอยู่ตลอดเพราะเป็นตัวแสดงถึงการคงอยู่ของวังซูสเท่านั้นครับ นอกนั้นคือฉากบ้านๆ บนโลกมนุษย์ทั้งหมด 

 

สรุป ซีรีส์ยำตำนานเทพกรีกโดยถูกดัดแปลงให้ทันสมัยเสียดสีตลกแบบจิกกัด แต่มุกก็แป๊กมากกว่า ตัวนักแสดงก็เน้น LGTBQ แทบทั้งเรื่อง มีความ WOKE แบบเต็มพิกัด เรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนค่อนข้างเล่าไปเรื่อยๆ จบแบบง่ายๆ และสเกลงานก็ทุนต่ำ ไม่ได้มีฉากอลังการหรือ CG ดีๆ ก็ไม่มี สิ่งที่ดีคือการนำตำนานเทพกรีกมายำดัดแปลงรวมๆ กันใหม่ ผู้ชมที่ชอบตำนานกรีกอยู่แล้วก็น่าจะพอสนุกในส่วนนี้ได้อยู่ครับ

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!