playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว La Brea (HBO) ซีรีส์ที่ก็อปปี้แนวทาง LOST มาใช้ แต่เล่นใหญ่อลังการกว่า

La Brea

สรุป

ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่มาแนวทางเดียวกับ LOST แต่เล่นใหญ่กว่าตั้งแต่แรก แต่ก็ต้องติตรง CG ยังไม่เนี๊ยบมีลอยๆ เยอะแบบเห็นได้ชัด การเดินเรื่องก็มีสองโลกปกติกับในหลุมควบคู่กัน ซึ่งทำได้น่าติดตามดี เดินเรื่องไวมาก

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
4 (1 vote)

Pros

  • แนวผจญภัยในดินแดนลี้ลับที่ออกมาอลังการน่าติดตาม
  • เดินเรื่องไวมาก
  • จำนวนตอนสั้นดูงบง่าย เวลาต่อตอน 40 นาที

 

Cons

  • งาน CG ไม่เนี๊ยบจนดูปลอมๆ
  • คาแรกเตอร์ตัวละครหลายตัวยังดูไม่น่าสนใจ (ต้องรอดูจนจบ)

 

ADBRO

La Brea ลาเบรีย ซีรีส์แนวผจญภัยลึกลับไซไฟ ของช่อง NBC ที่มาลงใน HBO เรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่ตกลงไปในหลุมยุบกลางเมืองลอสแอนเจลิส แล้วไปโผล่ในสถานที่ประหลาดย้อนยุค พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากที่นี่ให้ได้ ท่ามกลางปริศนามากมายที่หาคำตอบไม่ได้

 La Brea (2021) on IMDb

ตัวอย่าง La Brea ลาเบรีย

ซีรีส์เรื่องนี้เอาสถานที่จริงของหลุมน้ำมันดิบ “ลาเบรีย” มาเป็นที่ตั้งต้นทั้งชื่อเรื่องกับเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งเนื้อเรื่องเริ่มจากเช้าวันหนึ่งในลอสแอนเจลิส หลุมน้ำมันดิบลาเบรียเกิดยุบตัวลง จนทำให้มีผู้ตกลงไปมากมาย แต่แล้วกลับกลายเป็นว่าพวกเขาไปโผล่ในสถานที่แปลกประหลาด ที่ซึ่งมีสัตว์โบราณที่สูญพันธ์ไปแล้วปรากฎตัวขึ้นมาอย่าง เสือเขี้ยวดาบ นกแร้งกับหมาป่าดึกดำบรรพ์ ในขณะที่บนโลกหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐก็กำลังหาคำตอบของเรื่องนี้  ทีมนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าด้านใต้หลุมยุบมีช่องทางไปสู่อีกมิติและกำลังหาทางลงไป โดยมีนักบินที่มองเห็นภาพนิมิตรว่าภรรยากับลูกชายของเขายังมีชีตเป็นกุญแจสำคัญของการลงไปไขปริศนาในหลุมนี้

ซีรีส์เรื่องนี้คือได้รับอิทธิพลจาก LOST มาเต็มๆ เผื่อใครไม่รู้จักว่า LOST คือเรื่องแบบไหน คร่าวๆ ก็คือกลุ่มคนรอดชีวิตจากเครื่องบินตกลงเกาะร้าง แต่กลายเป็นเกาะแห่งนี้พิสดารมหัศจรรย์ด้วยสิ่งลึกลับมากมาย เป็นซีรีส์ในตำนานของแนวนี้เลยก็ว่าได้ (ปัจจุบันหาดูจากลิขสิทธิ์ในไทยไม่ได้แล้ว สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มได้จากวิกิคลิกที่นี่) ซึ่งคนเขียนบทลาเบรียก็คงยอมรับตรงๆ ว่าได้แรงบันดาลใจมา เพราะตัวละครที่ลงไปในตอนแรกก็มีพูดขึ้นมาเป็นมุกว่า นี่เรากำลังอยู่ในเรื่อง LOST ใช่มั้ย ซึ่งถ้าใครดู LOST มาก่อนก็คงเห็นรูปแบบแนวเรื่อง การวางตัวละครหลายๆ แบบ มีอาชีพประจำเรื่องอย่างหมอ มีตำรวจ มีตัวกึ่งดีกึ่งร้าย ซึ่งก็เข้าใจได้ว่ามันไม่สามารถดิ้นหนี LOTS ไม่พ้นเพราะมันทำมาดีและก็วางอะไรไว้ครบหมดอย่างที่แนวนี้ที่ตามมาหาทางสดใหม่จาก LOST แทบไม่ได้เลย จริงๆ ก็มีหลายเรื่องก่อนนี้พยายามทำแต่ก็ไม่รอดเหมือนกัน

แต่สิ่งที่ลาเบรียยังน่าสนใจอยู่นั่นก็คือ การวางงานสร้างโปรดักชั่นใหญ่โตตั้งแต่เริ่มเรื่องเลย ซึ่งแน่นอนว่าฉากหลุมยุบครั้งแรกน่าตื่นตาตื่นใจ ถึง CG และอะไรหลายๆ อย่างอาจจะไม่เนี๊ยบมาก (โดยเฉพาะพวกสัตว์ในหลุมที่ CG ดูลอยๆ ) แต่สเกลของเรื่องถือว่าใหญ่โตเพราะเล่นกันกลางเมืองเลย ต่างกับเรื่องอื่นๆ ที่มักเป็นที่ลับ ที่ปิด ไม่มีคนนอกได้รับรู้มาก แต่เรื่องนี้คือการมีหลุมยุบนี่กลายเป็นข่าวใหญ่โตไปทั่ว สเกลถึงความเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ และอาจจะถึงความอยู่รอดของมนุษย์ชาติเลยก็เป็นได้

ซึ่งพอเรื่องเปิดตัวด้วยสเกลระดับนี้ มันก็ทำให้มีความน่าติดตามว่าคนเขียนบทจะใส่อะไรมาได้เว่อร์แค่ไหน ซึ่งตัวเรื่องถือว่าเดินเรื่องเร็วมากด้วย ไม่มีอืดๆ แบบที่ LOST เป็นปัญหามาก่อน อาจจะรู้สึกว่าเรื่องกระโดดๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้ถือว่ามีปัญหาอะไรมาก ซึ่งซีซั่น 1 นี้เป็นแค่การเปิดปมปริศนาต่างๆ ทิ้งไว้ซะมากกว่า แต่ก็ยังดีที่เรื่องเคลียร์ไวกันตั้งแต่แรกว่า ที่พวกตัวเอกได้ไปเจอนั่นคือโลกยุคก่อนประวัติศาสต์หมื่นปี ช่วงยุคน้ำแข็ง โดยอิงเอาเรื่องซากฟอสซิลในหลุมน้ำมันดิบลาเรียที่พบเจอซากสัตว์โบราณต่างๆ มากมายมาเป็นตัวสัตว์ประหลาดของเรื่อง ซึ่งเท่าที่ดูก็ไล่จากเล็กอย่างพวก หมาป่า นกแร้ง เสือเขี้ยวดาบ และต่อไปก็คงมีช้างแมมมอธ ไดโนเสาร์มาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ เพราะฟอสซิลพวกนี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ จอร์จ ซี เพจ จากการขุดค้นหลุมน้ำมันแห่งนี้

ตัวเอกหลักบนโลกเป็นนักบินที่มองเห็นนิมิตรเชื่อมโยงกับโลกในหลุมยุบ

นอกจากนี้ตัวเรื่องยังมีจุดแฟนตาซีไซไฟเข้ามาจากประตูมิติที่เป็นรอยแยกบนท้องฟ้า และก็ไม่ได้มีที่นี่ที่เดียว ในเรื่องยังมีที่อื่นอีก มีการส่งสิ่งของข้ามเวลาจากอดีตในยุคนั้นกลับมาปัจจุบัน รวมถึงการให้ตัวเอกชาย Gavin Harris เป็นตัวละครเดียวในเรื่องที่มีนิมิตรเชื่อมต่อกับโลกนั้น ซึ่งเขาจะมองเห็นภรรยาที่ตกลงไปตลอด เป็นเรื่องราวบนโลกควบคู่ไปกับด้านล่าง โดยตัวภรรยา Eve Harris ก็จะเป็นตัวเอกหลักในโลกด้านล่างนั้นด้วย ซึ่งตัวละครอื่นๆ ก็จะเป็นบทสมทบแต่ก็มีเรื่องราวเอกเทศแยกจากกัน มีการตัดสลับบทไปมาตลอดเวลา ไม่ถึงกับงง แต่ตัวละครถือว่าเยอะมาก และยังมีตัวละครลับที่ยังไม่เปิดเผยเพิ่มขึ้นมาหลังจากเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ เพราะมีคนอีกเป็นจำนวนมากตกลงมาในหลุมนี้

ซีรีส์มาลงใน HBO ทุกวันพุทธ (ช่วงบ่าย) มาอาทิตย์ละตอน  มีทั้งหมด 10 ตอน ถือว่าเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่ HBO ดีลมา ไม่ได้สร้างเอง แต่น่าสนใจมากเป็นอย่างยิ่งครับ

 

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ HBO เรื่องอื่นเพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!