รีวิว Little Monsters ซอมบี้มาแล้วงับ หนังไม่ฮามาก แต่มีดราม่าดีๆ อัดแน่นอยู่ภายใน
Little Monsters
Summary
Little Monsters มีพล็อตเรื่องราวเล็กๆ ติดอยู่ในบ้านหลังเดียว แต่ก็เขียนบทให้มีเนื้อหนังจับต้องได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งๆ ที่หน้าหนังเหมือนไม่มีสาระกะฮาอย่างเดียว แต่ภายในกลับไม่กลวง แถมอัดแน่นด้วยดราม่าดีๆ ในเรื่องราวมากมาย ซึ่งผิดคาดจริงๆ แนะนำว่าถ้าชอบดราม่าดีๆ อย่าพลาด แต่ถ้ากะเอาฮาหนักเลย หนังยังทำไม่ได้ถึงขนาดนั้นครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- ดราม่าดีๆ ในเรื่องราวที่คาดไม่ถึง
- นักแสดงเด็กใสๆ น่ารักๆ
- หนังเรต 18+ แล้วก็ใช้เต็มที่ (มีคำหยาบทั้งเรื่อง)
- หนังสั้นกระชับแค่ 90 นาที
Cons
- หนังตลกแค่พอประมาณ ไม่ได้สุดๆ อะไร (มีน้อยมากที่ตลกจริง)
- ดราม่าลากยาวหลายฉาก ถ้าคนดูสายเอาฮาอย่างเดียวอาจจะผิดหวัง
Little Monsters ซอมบี้มาแล้วงับ เรื่องราวของครูสาวชั้นอนุบาลที่พาเด็กน้อยมาทัศนศึกษาที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง แต่กลับเจอเข้ากับสถาณการณ์ฝูงซอมบี้บุกล้อมไว้หมด เธอต้องเอาชีวิตรอดพร้อมกับทำหน้าที่ครูพี่เลี้ยงดูแลกล่อมเด็กไม่ให้ขวัญผวาไปพร้อมกัน ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวฮาๆ ซึ้งไปกับความน่ารักของ เด็ก VS. ซอมบี้ ในแบบที่ไม่เคยมีทำมาก่อน
ตัวอย่างหนัง Little Monsters ซอมบี้มาแล้วงับ
หนังซอมบี้พล็อตแหวกแนวเรื่องนี้กำกับและเขียนบทโดยผู้กำกับที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเข้าไปร่วมกิจกรรมโรงเรียน แล้วพบว่าการเป็นครูอนุบาลนั้นไม่ง่าย แถมมีความเสี่ยงในการดูแลเล็กร้อยพ่อพันแม่ที่ต้องมาฝากไว้ในมือของครูคนเดียว ซึ่งงานต้องการความใส่ใจและปกป้องพวกเด็กๆ มากเป็นพิเศษกว่าอาชีพอื่นๆ นั่นเลยเป็นไอเดียและที่มาของเรื่องราวหนังเรื่องนี้ ซึ่งไม่ใช่มู๊ดโทนหนังซอมบี้สยองขวัญหรือฮาทั่วไปแบบที่เคยมีมาก่อน
ถึงแม้หน้าหนังหรือตัวอย่างจะดูเป็นหนังที่ตลกเอามากๆ แต่ตัวหนังจริงๆ กลับไม่ได้ตลกมากมายอะไร เรียกว่าแค่ขำๆ ไปกับความน่ารักใสซื่อของเด็กที่ถูกครูสาวหลอกว่านี่เป็นเกมคนแต่งตัวมาเล่นไล่จับ ไม่ใช่ซอมบี้จริงๆ ที่ต้องน่ากลัวอะไรแบบนั้น ซึ่งก็อาจจะขำแค่ช่วงแรกๆ แต่หลังจากนั้นหนังก็ไม่ได้มีมุกใหม่อะไรนัก แต่อย่าพึ่งคิดว่าหนังเรื่องนี้แป๊ก หนังมีอะไรมากกว่านั้นเยอะครับ
เนื้อหาจริงๆ ของหนังกลับเป็นหนังรักดราม่าเสียดสีชีวิต มีตลกแต่ก็จริงจัง ว่าด้วยเรื่องราวของ “เดฟ” ชายหนุ่มนักดนตรีเฮวี่เมทัล ที่ชีวิตคู่กับแฟนสาวยาวนานต้องมาพังพินาศเพราะความไม่เอาโล้เอาพายของเขา เดฟเป็นจอมขวางโลก เข้ากับสังคมไม่ได้ คุยกับใครก็ชวนหงุดหงิดทะเลาะกับเขาไปหมด แม้แต่กับพี่สาวที่เลี้ยงเขามาแทนแม่ก็ไม่เว้น ซึ่งเขาก็ต้องมารับบทส่งหลานตัวน้อย “เฟลิกซ์” ไปโรงเรียนอนุบาล แต่กลับมาปิ๊งรักแรกพบกับครูสาวผิวสีที่เด็กๆ เรียกกันติดว่า “มิสแคโรไลน์” เธอเป็นสุดยอดครูที่ใส่ใจกับการทำงานเอามากๆ นั่นทำให้เดฟขันอาสาตามไปช่วยทัศนศึกษากับโรงเรียนด้วย จนมาพบกับเหตุการณ์ซอมบี้หลุดจากการทดลองทางทหารที่ฐานลับใกล้ๆ ฟาร์ม ซึ่งเรื่องราวแทนที่จะเป็นไปในทำนองน่ากลัว หนังกลับใช้การผจญภัยเด็กๆ น่ารักหาทางออกไปเรื่อยๆ ผ่านเดฟที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนไม่เอาไหน ให้กลายมาเป็นฮีโร่ปกป้องเด็กๆ รวมถึงทำคะแนนหัวใจให้ครูสาวหันมาปิ๊งรักเขาให้ได้
หนังเดินเรื่องให้เดฟค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคนรู้จักความรัก การให้ด้วยใจ ผ่านการเห็น “มิสแคโรไลน์” ทำหน้าที่ครูพี่เลี้ยงเด็กที่ทุ่มหมดตัวหมดใจให้เด็กทุกคนปลอดภัย เดฟเองก็ได้เรียนรู้ว่าการที่จะทำให้ใครมารัก ต้องมีมากกว่าแค่คำพูดที่เขาบอกกับแฟนเก่ามาตลอด แต่ไม่เคยดูแลเอาใจใส่จริงจังจนเป็นเหตุให้ต้องเลิกรากัน นี่จึงเป็นหนังรักดราม่าหายนะในโลกของซอมบี้ ที่ทำได้อบอุ่นมีหัวใจมากกว่าจะเป็นหนังตลกเพียงอย่างเดียว โดยหนังเล่นเรื่องราวความรักการเปลี่ยนแปลงตัวตนอย่างจริงจัง ซึ่งเดฟมีปมในใจมาจากพ่อที่เลี้ยงดูเขามาไม่ดี จนเป็นเหตุให้เขากลายเป็นคนแบบนั้น แต่การได้พบกับแคโรไลน์ ก็ทำให้ตัวตนอบอุ่นมีหัวใจได้หวนกลับมาอีกครั้ง เรียกว่าส่วนนี้ทำเอาน้ำตาซึมไปกับเรื่องราวได้เลย
และที่หนังทำได้น่ารักไม่แพ้กันคือบทครูสาวอนุบาล “มิสแคโรไลน์” ที่ได้ดาราระดับออสการ์ ลูพิต้า ยองโก้ มาเล่นขำๆ กับมุกหลอกเด็กไม่ให้ร้องไห้จ้าในสถานการณ์บ้าบอซีเรียสสุดๆ แบบนี้ บทวางให้เธอได้ปล่อยของทั้งร้องเพลงสด เล่นอูคูเลเล่ ลุยกับซอมบี้ ฉะความเกรียนของเดฟ ครบเครื่องเป็นตัวนำเรื่องไม่แพ้เดฟ รวมถึงฉากสื่ออารมณ์รักใสบริสุทธิ์กับเด็กๆ ตาใสแป๋วของเธอ จนทำให้เราเชื่อเหมือนเดฟที่เห็นแล้วก็สำนึกผิดเปลี่ยนแปลงตัวเองในชั่วข้ามคืน ไม่ใช่แค่คิดแต่เรื่อง SEX กับเธออย่างที่ผ่านมา (ซึ่งหนังเกรียนมากตรงให้เดฟเอารูปเธอที่ถ่ายกับเด็กมาสำเร็จความใคร่ในโรงเรียน)
แน่นอนว่าหนังซอมบี้ตัวร้ายจริงๆ ไม่ใช่พวกนี้หรอก ยิ่งในเรื่องนี้โดนปรับสปีดทั้งช้าทั้งอืดเพื่อให้พอเล่นสนุกขำๆ กับเด็กได้เท่านั้น แต่เป็นสันดานของมนุษย์ในเวลาคับขันซึ่งต้องมีมาทุกเรื่อง สำหรับในเรื่องนี้ก็คือ Teddy McGiggle นักแสดงขวัญใจเด็กๆ ก่อนจะมาเป็นชายโฉดที่เห็นแก่ตัว ช่างพูดแจกคำหยาบออกมาเป็นชุดๆ จนเด็กร้องไห้จ้า คนดูเครียดปวดกะบาล ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จเป็นตัวละครที่โคตรน่ารำคาญมากอยากแช่งให้ตายสักที (แต่ก็ไม่ตายง่ายๆ อึดเหลือหลาย)
แต่พระเอกตัวจริงของเรื่องก็คือ น้องที่เล่นเป็น “เฟลิกซ์” หลานของพระเอกที่ต้องมีบทใช้คำหยาบแบบไร้เดียงสาที่จำมาจากเดฟ บทสู้กับซอมบี้ได้อย่างน่ารักชัง รวมถึงการแต่งชุดเป็น “ดาร์ธ เวเดอร์น้อย” ที่ช่วยให้เรื่องฮาป่วนกวนขำๆ ขโมยซีนได้ตลอดเวลา
Little Monsters มีพล็อตเรื่องราวเล็กๆ ติดอยู่ในบ้านหลังเดียว แต่ก็เขียนบทให้มีเนื้อหนังจับต้องได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งๆ ที่หน้าหนังเหมือนไม่มีสาระกะฮาอย่างเดียว แต่ภายในกลับไม่กลวง แถมอัดแน่นด้วยดราม่าดีๆ ในเรื่องราวมากมาย จนอาจจะทำให้คนดูสายเอาฮาอย่างเดียวก็อาจจะอึดอัดไปกับฉากดราม่าเยอะแยะของเรื่องนี้ได้ครับ สรุปหนังผิดคาดจริงๆ แนะนำว่าถ้าชอบดราม่าดีๆ อย่าพลาด แต่ถ้ากะเอาฮาหนักเลย หนังยังทำไม่ได้ถึงขนาดนั้นครับติดตามรีวิวหนังในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่