รีวิว Look Both Ways หนังรักโลกคู่ขนานที่เล่าเรื่องได้จืดชืดสุดๆ
Look Both Ways
Summary
หนัง Netflix ที่ทำคอนเซ็ปต์เรื่องเล่าสองโลกออกมาได้ธรรมดาจืดชืดมาก บทพื้นๆ ไม่มีความน่าสนใจ แอบดูลำไยมากกับการตัดสินใจไม่รับรักพระเอกที่เป็นเพื่อนชายแสนดีที่เผลอทำเธอท้อง การเล่าเรื่องสองโลกก็ทำแบบตัดสลับไปมาเป็นช่วงๆ ไม่เหมือน Sliding Doors ที่เป็นต้นตำหรับที่เล่าเรื่องคู่กันในเฟรมเดียวไปมาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งเรื่องมีดีแค่นางเอกสวยน่ารักกับพระเอกเพื่อนชายที่ดูมีเสน่ห์หน่อย นอกนั้นคือจืดชืดมาก อาศัยดูฆ่าเวลาผ่านๆ พอได้ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจแปลกใหม่ที่ดีพอตามคอนเซ็ปต์ที่ว่าเลยครับ
Overall
5/10User Review
( vote)Pros
- เล่าเรื่องโลกคู่ขนานของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่พลาดท้องก่อนทำงาน
- มีพากย์ไทย
Cons
- บทจืดชืดมาก
- บทนางเอกเหมือนละครเกินจริงไป
- พระเอกฝั่งทำงานไม่มีเสน่ห์น่าสนใจ
- จบแบบตามสูตรลงเอยด้วยดีเรียบๆ
Look Both Ways หนังรักโรแมนติก Netflix ที่เล่าเรื่องทางแยกชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งไปพร้อมกันแบบโลกคู่ขนาน
ตัวอย่าง Look Both Ways
หนังวัยรุ่นที่พยายามทำเรื่องเล่า 2 เรื่องไปพร้อมกัน เหมือนกับหนังดัง Sliding Doors (1998) ชื่อไทย สไลดิ้งดอร์ส ถ้าเป็นได้… ฉันขอลิขิตชีวิตเอง ที่ Gwyneth Paltrow แสดงนำในยุครุ่งเรืองของเธอ หลังจากนั้นก็มีหนังที่ใช้พล็อตแบบนี้บ้างประปราย แต่ก็ไม่ใช่เป็นหนังรักโดยตรง นั่นจึงทำให้การดูหนังเรื่องนี้ยากที่จะไม่ถูกเปรียบเทียบได้จากคนที่เคยดู Sliding Doors มาก่อนจริงๆ
ตัวเรื่องได้ผู้กำกับเกือบหน้าใหม่ Wanuri Kahiu ชาวเคนยามาทำส่วนผู้เขียนบทนี่หน้าใหม่ซิงๆ เรื่องแรกของวงการเลย ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรกับหนังเน็ตฟลิกซ์ที่มักให้โอกาสคนหน้าใหม่มาทำตลอด และเป็นจำนวนที่เยอะมากด้วย ซึ่งถ้าไอเดียดี บทดีจริงๆ มันก็ไม่แปลกอะไ แต่เรื่องนี้คือหนังในกลุ่มที่เน็ตฟลิกซ์ให้ทำไปงั้นๆ เพราะตัวเรื่องใช้การเล่าสองโลกแบบแทบไม่มีประโยชน์หรือน่าสนใจกับเรื่องเลย ด้วยการให้นางเอกใช้ที่ตรวจครรภ์ แล้วพบว่าท้องโดยไม่ได้ตั้งใจกับเพื่อนในช่วงวัยรุ่นก่อนจบมหาวิทยาลัย ซึ่งเธอตั้งใจจะไปทำงานเป็นนักสร้างแอนิเมชั่น ส่วนเพื่อนชายก็ฝันอยากเป็นมือกลอง การท้องโดยไม่ได้ตั้งตัวทำให้เรื่องมีจุดหักเหออกไปสองทาง ทางแรกคือนางเอกเก็บลูกไว้แล้วก็พยายามใช้ชีวิตเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีเพื่อนชายคอยสนับสนุน ทางสองคือนางเอกไม่ท้องแล้วก็ใช้ชีวิตไปตามฝันปกติ
ตัวเรื่องใช้ทั้งสองทางนี้เล่าสลับกันไปมาต่างจาก Sliding Doors ที่มีทางแยกสองทางให้เห็นคู่กันตลอดเรื่อง แม้เรื่องจะมีความต่าง แต่ก็นำเสนอคู่กันในเฟรมเดียวอยู่เรื่อยๆ ทำให้ดูเป็นการเล่าเรื่องที่เก๋ แล้วคนดูให้เห็นการตัดสินใจเล็กๆ จนถึงใหญ่ของสองทางไปพร้อมกัน แต่เรื่องนี้คือตัดไปฝั่งนึง 3-5 นาที ตัดกลับมาอีกฝั่งแบบเดียวกัน เรื่องแตกต่างกันมากเพราะฝั่งไม่ท้องคือนางเอกไปเจอผู้ชายคนใหม่ เพื่อนคนเก่าก็ตัดทิ้งออกจากสารบบชีวิตไปเลย กลายเป็นเหมือนผู้กำกับแค่อยากยัดหนังสองเรื่องมาไว้ในเรื่องเดียวให้ดูเก๋ แต่มันไม่เก๋เลยเพราะมันไม่มีจุดคอนฟลิคใดๆ ร่วมกันเลยนอกจากตอนแรกที่เป็นทางแยก
แล้วถ้าแต่ละเรื่องแยกดูสนุกมีอะไรแปลกใหม่ก็ว่าไปอย่าง แต่กลายเป็นทั้งสองเรื่องกลับเป็นหนังรักบทจืดชืดทำไปงั้นๆ เหมือนแค่ให้เห็นพัฒนาการชีวิตนางเอก แม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีเพื่อนชายคอยช่วย แต่ไม่ยอมรับรักหรือแต่งงานกับเขา ทั้งๆ ที่หมอนี่ทำดีแทบตายจนลูกโตก็ยังช่วยนางเอก ซึ่งเป็นอะไรที่ดูละครเกินไปมากว่าจะปากแข็งขนาดนี้ ส่วนอีกทางก็พบรักใหม่ดี๋ด๋ากับผู้ชายคนใหม่ที่เป็นรุ่นพี่ที่ทำงานที่เข้ามาจีบตั้งแต่วันแรก แล้วจบบทสรุปทั้งสองทางแบบแฮปปี้ลงเอยด้วยดีทั่วไป (เรื่องแม่เลี้ยงเดี่ยวสนุกกว่านิดหน่อย)
ตัวเรื่องมีจุดขายจริงๆ คงเป็นตัวนางเอกมากกว่า โดยได้ Lili Reinhart นักแสดงจากซีรีส์ริเวอร์เดล หนังชาลีแองเจิล มาแสดง ซึ่งเธอก็สวยน่ารักชวนมอง ทำให้เรื่องนี้พอมีจุดขายจริงๆ ที่ดึงให้คนดูอยู่บ้าง กับพระเอกที่เป็นเพื่อนชายของเธอที่หน้าตาดูดีมีเสน่ห์ รับบทโดย Danny Ramirez แต่พระเอกฝั่งวัยทำงานที่พื้นๆ มากจนเหมือนตัวเอกแถมประกอบเรื่องเท่านั้น
สรุปเลยว่านี่เป็นหนัง Netflix ที่ทำคอนเซ็ปต์เรื่องเล่าสองโลกออกมาได้ธรรมดาจืดชืดมาก อาศัยดูฆ่าเวลาผ่านๆ พอได้ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจแปลกใหม่ที่ดีพอตามคอนเซ็ปต์ที่ว่าเลยครับ