รีวิว Love Wedding Repeat (Netflix) วนลูปเวียนซ้ำงานแต่งอลเวง

Love Wedding Repeat รักแต่งซ้ำ หนังรักตลก Original Netflix เรื่องราวของการวนลูปเวียนซ้ำเหตุการณ์ในงานแต่งงาน ซึ่งกลายเป็นความอลเวงวายป่วงผสมเรื่องโรแมนติกไปพร้อมกัน

คะแนน IMDB

ตัวอย่าง Love Wedding Repeat รักแต่งซ้ำ

หนังรักตลกจากอังกฤษที่นำเอาพล็อตแนววนลูปช่วงเวลาในชีวิตมาใช้ ซึ่งพล็อตโดยทั่วไปมักจะเป็น “ตาย เกิด วนเวียน” แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแนวไซไฟขนาดนั้น แค่หยิบจับไอเดียนี้มาใช้แล้วใส่ไปในเรื่องราวงานแต่งงานวันเดียว วนลูปชีวิตของตัวละครหลักในเรื่องด้วยวิธีการย้อนกลับเรื่องราวที่เกิดไปจนถึงปลายทางให้มาเริ่มใหม่ที่จุดทางแยกของสตอรี่แนวๆ พหรมลิขิตชีวิตมีหลายทางไม่ใช่แค่หนึ่งเดียว ซึ่งก็ต้องบอกว่าพล็อตดี แต่ไม่ใหม่ แล้วตัวเรื่องก็เหมือนใช้ไอเดียนี้ไม่คุ้มสักเท่าไหร่เลยถ้าเทียบกับหนังพล็อตวนลูปเรื่องอื่นๆ

เรื่องราวเริ่มจาก “แจ็ค” พระเอกของเรื่องนี้ชาวอังกฤษได้ไปเดทกับ “ไดนา” สาวอเมริกันที่เป็นเพื่อนสนิทกับ “รีเบคก้า” ของน้องสาวตัวแสบของเขา ซึ่งสองคนนี้เกือบๆ จะลงเอยกันแล้วถ้าไม่โดนก้างขวางคอมาตัดบทในค่ำคืนสุดแสนโรแมนติกไป จนทำให้แจ็คไม่ได้พบเจอไดนาอีกเลยจนเวลาผ่านไป 2 ปีในงานแต่งงานของรีเบคก้า แจ็คได้กลับมาพบไดนาอีกครั้ง แต่ว่าเขากลับต้องคอยช่วยแก้เรื่องยุ่งๆ ของน้องสาวจากหนุ่มโรคจิตที่แอบชอบเธอมาตั้งแต่เด็ก และพร้อมจะขัดขวางงานแต่งนี้ให้ได้ทุกเวลา จนรีเบคก้าต้องสั่งให้พี่ชายแอบวางยานอนหลับเจ้าหนุ่มโรคจิตนี้ในแก้วน้ำดื่ม แต่กลายเป็นเด็กในงานมาสลับป้ายชื่อที่นั่งไปซะนี่ เรื่องยุ่งๆ จึงเริ่มขึ้น ณ จุดนี้นี่เอง

ตัวหนังวางไว้เป็นหนังตลกมากกว่าเรื่องรัก แต่ว่ากลับไม่ค่อยตลกสักเท่าไหร่แม้จะพยายามยิงมุกหรือจัดฉากเหตุการณ์หลายอย่างให้ตลก ซึ่งไฮไลท์ของเรื่องเลยก็คือ การที่ตัวละครในเรื่องกินยานอนหลับอย่างแรงนั้นเข้าไป แล้วก็ทำตัวประหลาดๆ ในงานแต่ง ต้องบอกว่าหนังใช้เวลานานมากกว่าในการเดินเรื่อง 1 เรื่องปาไป 1 ชั่วโมงพอดีเป๊ะ ซึ่งหลักๆ ก็คือการฉายให้เห็นว่าเหตุการณ์รอบแรกในงานแต่งจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งบอกเลยว่า “ฮากริบ”เอามากๆ หนังอาจจะไม่ถึงขั้นแป๊ก แต่ก็ไม่ได้พาให้คนดูตลกได้สักเท่าไหร่ โดยไม่ได้เกี่ยวกับว่านี่เป็นหนังสัญชาติอังกฤษ คนไทยอาจจะเข้าไม่ถึงก็ไม่ใช่ แต่ถ้าถามว่าเรื่องน่าเบื่อไหมก็ไม่ได้ขนาดเบื่อครับ ออกแนวดูเพลินๆ ได้ในชั่วโมงแรก ซึ่งพอเรื่องดำเนินไปถึงจุดหนึ่งอาจจะเรียกว่าไคลแม็กซ์ของเหตุการณ์งานแต่งที่มันออกมาเลวร้ายเละเทะแล้ว หนังจึงได้ใช้พล็อต “Repeat วนลูปเวียนซ้ำงานแต่ง” ที่เป็นไฮไลท์ของเรื่องสักที

ซึ่งพอหนังย้อนการกระทำของตัวละครกลับไปจุดหักเหของเรื่องตรงป้ายชื่อถูกสลับใหม่เป็นตำแหน่งอื่น นั่นแหละคือเรื่องจริงๆ เริ่มที่ตรงนี้ครับ หนังมีวนเวียนเหตุการณ์แบบอื่นให้ดูนิดหน่อยว่าไปทางนี้จะเป็นไง ก่อนสรุปต่อมาว่าเราจะได้ดูเรื่องจริงที่ควรจะเป็นในเหตุการณ์นี้ใหม่ ซึ่งก็ยิงยาวไปแบบช่วงแรก แต่ย่นเวลาลงเพราะตัวเรื่องมีเวลาเล่าใหม่อีกแค่ราวๆ 30 กว่านาที ซึ่งพอเรื่องเริ่มเล่าใหม่นี้แหละ หนังดูดีขึ้นมากกว่าช่วง 1 ชั่วโมงแแรกเลย แบบเปิดมาปุ๊บแม้จะวนเหตุการณ์เดิมซ้ำ แต่คราวนี้เปลี่ยนคนเป็นแจ็คพระเอกของเรื่องโดนยานอนหลับนั่นซะเอง ความฮาจึงบังเกิด อาจจะเพราะเรารู้เหตุการณ์มาก่อนแล้ว พอได้ดูแบบใหม่ที่พระเอกตกเป็นเหยื่อเองหนังจึงดูสนุกขึ้นมาทันที ซึ่งคราวนี้แจ็คต้องประคองตัวเองให้รอดในขณะที่ต้องช่วยน้องสาวให้ได้ แล้วก็ยังต้องหาสานสัมพันธ์กับไดนาต่อจากคราวก่อนที่ค้างไว้อีก ในขณะที่ยาก็พาพระเอกวูบหลับอยู่เรื่อยๆ เรื่องจะฮาด้วยตัวเองทันที

แต่ไม่ใช่ว่าทั้งเรื่องจะมีแต่คู่ของแจ็คกับไดนา หนังพยายามใส่ตัวละครอื่นลงไปมากมาย อย่างแฟนเก่าแจ็คที่พึ่งเลิกลากันไป เพื่อนนักแสดงบ๊องๆ ที่ไม่เคยมีสาวมาเหลียวแล หรือแม้แต่แขกในงานบางคนที่แทบจะไม่มีบท ก็ยังใส่มาเสริมให้มีเรื่องราวความรักไว้จับคู่กันในงานแต่งให้ได้ ซึ่งจริงๆ ตัวละครในเรื่องนี้ออกจะเยอะจนล้นไปสักหน่อย ถ้าตัดลงมากระชับๆ ให้เวลาเล่าเรื่องหลักๆ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะนี่กลายเป็นเหมือนพยายามยำให้หนังรวมเรื่องรักแบบ Love Actually ให้ได้ไปด้วย ซึ่งพล็อตแนววนลูปแบบนี้คนดูควรจะได้สนุกกับการเห็นตัวเอกดำเนินชีวิตไปหลายๆ แบบมากกว่ามาดูทุกตัวละครมีชีวิตแตกต่างไปหมด ซึ่งมันไม่มีเวลาปูพอให้น่าสนใจสักเท่าไหร่ ซึ่งหนังก็มีปัญหากับการยำพล็อตแบบนี้ทำให้ตอนช่วงหลังต้องรีบตัดจบตัวละครเสริมให้มีคู่กันทุกคนแบบง่ายๆ จนไม่เมคเซนส์สักเท่าไหร่ แม้แต่กับตัวคู่ของพระเอกนางเอกของเรื่องก็ด้วย เหมือนหนังตัดเรื่องไปเลยว่ายังไงต้องให้แฮปปี้เอนดิ้ง แม้ตัวพระเอกจะทำไรทุเรศๆ มากมายในเหตุการณ์งานแต่งรอบหลังก็ตามที ซึ่งแม้เรื่องนี้จะเป็นหนังอังกฤษ แต่โลเกชั่นงานแต่งอยู่ที่อิตาลี ก็เป็นความพยายามทำให้เรื่องดูโรแมนติกขึ้น ก็ได้ฟีลเพิ่มนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับงดงามอะไรมากนัก

ตัวหนังจบแบบมีเอนด์เครดิตกับมุกก่อนจบวนซ้ำไปจุดเริ่มตอนแรกอีกรอบ ซึ่งดันทำได้ตลกดูดีกว่าเหตุการณ์ในเรื่องซะอีก แต่ก็มีเพียงสั้นๆ เท่านั้น จนกลายเป็นหนังเหมือนจะฮา แต่ก็ฮาไม่สุด เพราะช่วงเวลาให้ขำได้มีน้อยเกินไป ตัวเรื่องรักก็ทำได้ไม่สุดอะไร แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ เรียกว่าดูเพลินๆ พอได้ แต่ถ้าคาดหวังมากไปกว่านั้นคงยากครับ

• ติดตามรีวิวหนังในเว็บไซต์คลิกที่นี่